เกาะของคนตาบอดสี
เกาะ Pinglegap เป็นเกาะหนึ่งในประเทศไมโครนีเซีย ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เกาะของคนตาบอดสี” เนื่องจากประชาชนบนเกาะแห่งนี้ อยู่ในสภาวะตาบอดสีเป็นจำนวนมาก โดยมากกว่า 10% นั้น อยู่ในสภาวะตาบอดสีแบบ Complete Achromatopsia...
.
ภาวะ Complete Achromatopsia หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า ภาวะตาพร่องสีทุกสี (ให้นึกภาพทีวีขาวดำไว้นะครับ) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ โรคนี้จะเกิดขึ้นได้ยากมาก โดยมีอัตราการเกิดภาวะ Complete Achromatopsia บนโลกใบนี้มีเพียงแค่ 1 ต่อ 30,000 หรือ 0.00333% เท่านั้น
.
เหตุที่คนบนเกาะแห่งนี้มีภาวะ Complete Achromatopsia ในอัตราที่สูงขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่า ในปี 1775 มีพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรง พัดเข้าถล่มผู้คนที่เกาะแห่งนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และเหลือประชากรเพียง 20 คนเท่านั้นที่รอดชีวิต
.
หนึ่งในคนที่รอดชีวิตก็คือ Doahkaesa Mwanenihsed ซึ่งเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ในเวลานั้น ได้ทำการขยายเผ่าพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรบนเกาะ ซึ่งนักวิชาการต่างสันนิษฐานว่า ตัวของ Doahkaesa Mwanenihsed น่าจะเป็นพาหะของความผิดปรกติทางพันธุกรรมดังกล่าวแฝงอยู่
.
ซึ่งจริงๆ ความผิดปรกติด้านการมองเห็นสี นี้ยังไม่ได้รับผลกระทบในรุ่นต่อไปโดยทันที จนกระทั่งอาการตาบอดสี ได้เกิดขึ้นกับรุ่นที่ 4 ของประชากรบนเกาะ
.
และเนื่องด้วย การสืบเชื้อของประชาชนบนเกาะแห่งนี้ มีการสืบสายเลือด ข้ามกันไปมาระหว่างคนในเกาะ ที่มีสายเลือดของ Doahkaesa Mwanenihsed ผสมขึ้น ซ้ำมากจนเกินไป จึงทำให้เปอร์เซ็นต์ของภาวะตาบอดสีแบบ Complete Achromatopsia นั้นเกิดถี่ขึ้น จนไปถึงระดับ 10%
.
นอกจากนี้ ประชากรบนเกาะอีก 30% ก็มีพาหะที่ไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ คือประชากรกลุ่มหนึ่งจะขาดความเข้าใจเรื่องสีทั่วไป ในบางรายมีอาการแพ้แสงอย่างรุนแรง ถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนชีวิตไปใช้ในยามค่ำคืน
.
นอกจากนี้ พวกเขายังต้องปรับตัวให้เข้ากับ สภาพการมองเห็นที่พวกเขาเป็น เช่น พวกเขาต้องเรียนรู้การประมาณความสุกของผลไม้ต่างๆบนเกาะ ด้วยกลิ่น
.
ในปี 2015 ศิลปินและช่างภาพอย่างคุณ Sanne De Wilde ได้ทดลองถ่ายภาพขาวดำ และแบบอินฟราเรด เพื่อถ่ายทอดตามจินตนาการว่า คนที่มีภาวะ achromatopsia มองโลกอย่างไร
และมีการนำภาพไปแต่งสี โดยยึดตามข้อมูลที่คนบนเกาะบอกเล่าว่า สีแดง เป็นโทนสีที่พวกเขามองเห็นบ่อยที่สุด และสีเขียว เป็นสีที่ผู้คนบนเกาะที่ตกอยู่ในภาวะตาบอดสีนั้น รู้จักน้อยที่สุด นั่นเองครับ
ด้วยเงื่อนไขทางพันธุกรรมของผู้คนที่เกาะแห่งนี้ จะยังคงทำให้ประชากรในรุ่นต่อๆ ไป บนเกาะ มีโอกาสที่จะเป็นคนตาบอดสีได้อีกมากมายครับ
#Obsoletearticles