4 วิธีออมเงิน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง มีน้อยก็รวยได้
"การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้ จะมีผลดีไม่เฉพาะแกผู้ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดำรัส ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนากธิเบศวร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธันวาคม 2502
ปัจจุบันเศรษฐกิจบ้านเรา มีแนวโน้มที่ภาวะเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของที่เราเคยซื้อตอนเป็นเด็ก ราคาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและในอนาคต ราคาของเหล่านั้นจะเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ สิ่งสำคัญสำหรับตอนนี้ก็คงหนี้ไม่พ้นเรื่องการออม ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จะนำเงินไปลงทุนต่อยอดได้ แต่ทำอย่างไรบ้างถึงจะสามารถเป็นผู้มั่งมีในอนาคตได้ มีวิธีมาแนะนำกันดังนี้นะครับบบ
1. วิธีออมเงิน : ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
จัดทำบัญชีครัวเรือน หรือก็คือบัญชีรายรับรายจ่ายขึ้น เพื่อให้ได้รู้จักการวางแผนชีวิต และใช้ชีวิตตามหลักพอเพียง การทำบัญชีแบบนี้ จะทำให้เรารู้รายรับ รายจ่ายในแต่ละเดือน ว่าเงินขาดเหลือเท่าไหร่ เราซื้ออะไร ใช้อะไรไปบ้างในเดือนนั้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำมาใช้วางแผนการเงินในครอบครัว ทั้งยังนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งทำให้เราเห็นภาพรวมของการลงทุนในแต่ละกิจการ ส่งผลให้เราลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ ลงได้ และนั่นล่ะค่ะ จะทำให้เรารู้จักการออม และใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า
2. วิธีออมเงิน : ใช้เท่าที่มี อย่าสร้างหนี้
หากการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ การไม่มีหนี้ก็เป็นโชคอันประเสริฐเช่นกันครับ เพราะแน่นอนว่าการเป็นหนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้มีเงินออมมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดทอนเงินส่วนที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันลงไปด้วย ฉะนั้นจำไว้ครับว่า ก่อนจะซื้ออะไร คิดให้ดีก่อนว่าเราพร้อมหรือยัง ซื้อเมื่อพร้อม จะช่วยให้เราหลีกหนีจากการเป็นหนี้ได้ดีที่สุดครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากได้โทรศัพท์ใหม่ซักเครื่อง คุณอาจจะตั้งเป้าออมเงินก่อนเพื่อที่จะซื้อโทรศัพท์ เมื่อได้เงินครบแล้วถึงจะซื้อ บางทีเมื่อเวลามีเงินครบตามจำนวนแล้ว คุณอาจจะเปลี่ยนใจ ไม่ซื้อสิ่งที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ เงินก้อนนั้นอาจจะกลายเป้นเงินออมให้คุณก็ได้ครับ
ฉะนั้นการบริหารเงินให้เป็น ใช้เท่าที่มี อย่าเกินตัว จะทำให้เรามีเงินเก็บออมในอนาคตอย่างแน่นอนครับ แม้สำหรับบางคนจะไม่มากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ไม่ต้องเป็นหนี้ใครแน่ๆ
3. วิธีออมเงิน : มีเป้าหมายในการออม
หากเรามีเป้าหมายในการเก็บออมที่แน่ชัด จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและแรงใจในการเก็บเงินมากขึ้น เริ่มแรกตั้งเป้าไว้เลยครับ ว่าเงินที่เราจะเก็บออมนี้ เราเก็บไปเพื่ออะไร เพื่อซื้อของที่อยากได้มานาน เพื่อบ้านในอนาคต หรือเพื่ออนาคตของลูกและของเราในช่วงบั้นปลายชีวิต หากเรามีเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว ต่อมาก็คือการเริ่มวางแผนการเก็บเงินครับ โดยการวางแผนนี้อาจจะแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนนะครับ หากใครสะดวกเก็บเป็นเดือนก็ตั้งเป้าว่าเดือนนี้จะเก็บเท่าไหร่แล้วใส่อีกบัญชีแยกไว้ หรือถ้าใครสะดวกเก็บเป็นเหรียญ หรือเป็นแบงก์ เช่น แบงก์ 50 ก็ให้เก็บทุกครั้งที่ได้มา
4. วิธีออมเงิน : วางแผนการใช้เงินอย่างชาญฉลาด
นอกจากการวางแผนใช้เงินสำหรับชีวิตประจำวันแล้ว การวางแผนให้เงินงอกเงยขึ้นก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ ซึ่งนอกจากการฝากเงินกับธนาคารเพื่อสะสมดอกเบี้ย ก็ยังมีวธีการลงทุนได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตร หุ้นกู้ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็ดี ที่เราสามารถนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่อย่าลืมครับว่า การวางแผนทุกอย่างต้องทำอย่างมีสติและฉลาด เพราะหากพลาดพลั้ง แทนที่เงินจะงอกเงย กลับสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์
ถ้าวางแผนตาม 4 ขั้นตอนนี้แล้ว มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็อาจเป็นเศรษฐีใหม่ได้ในอนาคตนะครับ
อ้างอิงจาก: https://ka.mahidol.ac.th/king_9/sufficiency-economy.html
https://women.trueid.net/