ฝากครรภ์พิเศษกับคลินิก แต่หมอปล่อยให้ตายท้องกลม ญาติถึงกับงง
นายพิเชษฐ์ สามีของนางสาวจิณัฐดา วุฒิวงศ์ อายุ 31 ปี หญิงสาวท้อง 8 เดือน เล่าว่า
ตนกับนางสาวจิณัฐดามีลูกสาวด้วยกันแล้ว 1 คน อายุ 1 ขวบ 4 เดือน ต่อมานางสาวจิณัฐดาภรรยาของตนได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง
สุขภาพของแม่และลูกแข็งแรงดีมาก ลูกในท้องสมบูรณ์ จึงพาไปฝากครรภ์พิเศษกับคลินิกหมอเฉพาะทางแห่งนึง
ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 2 เดือน ตนได้พาภรรยาไปพบแพทย์ทุกครั้งที่หมอนัด
มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอยู่ที่ครั้งละ 900-1,200 บาท พอช่วงอายุครรภ์เข้า 6-7 เดือน หมอจะนัดให้ไปตรวจบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะพบว่าภรรยานั้นมีอาการผิดปกติ หมอคลินิกจึงให้นามากินเป็นประจำ แต่อาการกลับไม่ดีขึ้นอย่างที่หวัง
จนกระทั้งหมอตรวจพบว่า เด็กดิ้นน้อยลง จึงได้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หมอที่นั่นได้ให้น้ำเกลือแล้วกลับบ้าน
และต่อมาผ่านไปประมาณเกือบ 10 วัน ภรรยาของตนได้มีผื่นขึ้นตามตัว และมีไข้อ่อนๆ ตนจึงรีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบสล
หมอให้ยาแก้ไข้มากิน แต่กินแล้ว อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นจากเดิม พอเข้าช่วงค่ำในวันเดียวกันภรรยาของตน
เริ่มมีอาการปวดท้อง จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์อีกครั้ง
หลังจากหมอตรวจอาการภรรยาแล้ว แล้วพบว่าลูกชายที่อยู่ในท้องเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว
จึงรีบส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อผ่าเอาลูกออก ต่อมาอาการของภรรยาเริ่มทรุดหนักลง
สุดท้ายหมอพบว่าภรรยาของตนติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ไตวายฉับพลัน และเสียชีวิตในวันต่อมา
นายพิเชษฐ์ สามีของนางสาวจิณัฐดา ยอมรับว่าตนยังคงมีประเด็นคาใจว่า
ภรรยาของตนได้ฝากท้องพิเศษไปพบหมอทุกครั้งที่นัด แต่ทำไมหมอถึงไม่รู้ว่าลูกในท้องเสียชีวิตแล้ว ปล่อยให้อยู่ในท้องหลายวัน
จนกระทั้งตรวจเจอตอนอาการทรุดหนัก เป็นเหตุทำให้ภรรยาของตนนั้นเสียชีวิต อยากให้คลินิกออกมาอธิบายและยอมรับผิดชอบ
และเยียวยาจากกรณีที่เกิดขึ้น เพราะตนยังมีลูกน้อยอีกคนที่ต้องดูแล
ด้านนางจิต แม่ของนางสาวจิณัฐดา วุฒิวงศ์ ผู้เสียชีวิต บอกว่าลูกสาวของตนนั้นไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรทั้งนั้น
ตอนคลอดลูกสาวคนแรกก็ปกติดี แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจมาก ๆ ว่า ฝากครรภ์พิเศษกับหมอคลินิก ไปพบหมอตามนัด
แต่ทำไมหมดไม่รู้ว่าเด็กในท้องเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ปล่อยทิ้งไว้ตั้งหลายวัน จนกระทั้งลูกสาวของตนอาการทรุดหนัก
แล้วถึงมาตรวจเจอ แล้วจึงผ่าออกจนลูกสาวของตนต้องมาเสียชีวิต ซึ่งถ้าหมอใส่ใจสักนิด ลูกสาวและหลานในท้องคงไม่ตาย
ที่เลือกฝากครรภ์ไว้กับหมอ เพราะคิดว่าจะฝากชีวิตไว้กับหมอที่ไว้ใจได้ แต่สุดท้ายต้องมาเสียชีวิต
ก็ไม่ได้อยากจะโทษหมอนะ แต่เพียงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าควรใส่ใจทุกชีวิตให้มากกว่านี้
ส่วนทางด้านนายแพทย์ ภูวดล ได้ออกมาอธิบายข้อมูลจากรายการการรักษา
ฃนางสาวจิณัฐดา ผู้ตายแจ้งแค่มีผื่นตามตัว หมอผิวหนังจึงได้ทำการตรวจรักษา
แต่คนไข้ไม่ได้แจ้งว่าครรภ์มีอาการผิดปกติ หมอจึงไม่ได้ส่งตรวจที่แผนกสูตินารีเวชกรรม
จนกระทั้งเมื่อคนไข้กลับมาอีกครั้ง ก็พบว่ามีของเสียในท้อง ซึ่งนั่นก็หมายถึงเด็กเสียชีวิตแล้ว
หมอจึงได้ผ่าเอาเด็กออก และพยายามช่วยชีวิตแม่ แค่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เพราะมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวาย
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เดินทางไปเคารพศพและแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวแล้ว
หลังจากนี้จะได้หาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจะหาสาเหตุเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงข้อบกพร่องต่อไป


















