เด็ก ม.6 สุดอำมหิต หูแว่วคิดว่าสาวด่าแม่ คว้าปืนยิงดับ
จากกรณีแก๊งนักเรียน ม.6 จำนวน 4 ราย ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อเหตุร้ายแรงขับรถจักรยานยนไล่ยิงคู่อริ หลังจากการจับกลุ่มตัว นายปริญญา หนึ่งในผู้ก่อเหตุเล่าว่า
ตนเองกับเพื่อน ๆ ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์มาบนถนนที่เกิดเหตุ และบังเอิญขับสวนกับกลุ่มผู้เสียชีวิตที่มากับเพื่อน รวม 9 คน ขับรถกันมา 3 คัน มีบางคนเป็นคูอริเก่ากับกลุ่มพวกตนมาก่อนและโรงเรียนเดียวกัน ยกเว้นผู้ตายที่ไม่รู้จัก ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ตนเองได้ยินเสียงด่าแม่มาจากกลุ่มคู่อริ จึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปแล้วขับตามหลังก่อนจะใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. ขี่ไล่ยิง จนกระสุนพุ่งถูก นางสาวอัจฉรารณ์ งานลุน หรือ อุ้มอายุ 21 ปี ซึ่งนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ด้านหลังสุด เข้าที่ราวนมซ้ายของเธอ ทำให้บาดเจ็บและร่วงลงจากรถและเสียชีวิตคาที่ งานศพของนางสาวอุ้มจัดขึ้นที่ วัดเขาชาวนาราม ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นางไพรมณี สารบูรณ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวอุ้ม ได้จุดธูปบอกกับโลงศพของลูกว่า ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไปอยู่สวรรค์ชุ้นฟ้า เกิดชาติหน้าฉัดใดก็ขอให้เกิดมาเป็นลูกแม่อีก ไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัวและพ่อแม่นะ แม่จะดูแลน้องเอง ขอให้ลูกไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ภายภาคหน้าไม่ว่าชาติไหนก็ขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีกนะทำให้บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเป็นอย่างมาก
นางไพรมณี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนางสาวอุ้มได้ขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่แม่ก็ห้ามแล้วว่า กลางค่ำกลางคืนอย่าไปเที่ยวมันอันตราย แต่ลูกสาวก็ไม่ฟัง ซึ่งตนก็เห็นว่ากลุ่มที่ไปเป็นเพื่อนกลุ่มที่แม่คุ้นหน้าคุ้นตาเคยไปไหนมาไหนกับลูกทุกวัน จนกระทั้งวันเกิดเหตุก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย
นางไพรมณี ได้กล่าวต่ออีกว่า ปกติลูกสาวเป็นคนตั้งใจทำงาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยงานบ้านหาเลี้ยงครอบครัวเขาเลือกที่จะเรียนแค่ ม.3 แล้วออกมาทำงาน เพื่อให้โอกาสน้องชายของเขาทุ้ง 2 คนได้เรียนหนังสือ ที่ผ่านมาลูกสาวทำงานหนักมาก ๆ ทั้งงานโรงงาน งานในห้างสรรพสินค้าบ้าง
ไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใครเลย ในแต่ละเดือนที่ทำงานได้ เขาก็จะแบ่งให้แม่เด่อนละ 2,000-3,000 บาท เพื่อเก็บสะสมเป็นค่าเทอมของน้องชายเขา แต่ที่มาเกิดเหตุขึ้นมานั้นเนื่องจากลูกสาวอยู่ในช่วงที่ลาออกมาจากงานและอยู่ระหว่างกำลังหางานใหม่ จนกระทั้งเกิดเหตุขึ้น ตนรู้สึกว่าการสูญเสียครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เหมือนสูญเสียเสาหลักให้ครอบครัว และยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากครอบครัวผู้ก่อเหตุแม้แต่ครั้งเดียวอยากให้ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุเข้ามากราบขมาและเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความความรับผิดชอบและความเป็นมนุษย์ ยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้ แม่ไม่อโหสิกรรมให้เด็ดขาด

















