หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฟังให้ชัด ความจริงเรื่อง ควบรวม ทรู+ดีแทค

โพสท์โดย namdee

การรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการของทั้งสองบริษัท มีมติร่วมกันจัดตั้งและจดทะเบียนบริษัทใหม่ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) วันนี้เราได้รวบรวมประเด็นที่ถูกถกกันมากที่สุด เพื่อมาหาความจริงกัน

 

 

ชื่อบริษัทใหม่
ประเด็นการตั้งชื่อบริษัทใหม่ โดยใช้ชื่อ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” มีสื่อนำไปพาดหัว สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นว่า จะไม่มี “ดีแทค” อีกต่อไป

 

แต่ในความเป็นจริง จากแถลงการณ์ของ “ทรู และ “ดีแทค” ก็คือ คณะกรรมการของทั้งสองบริษัทเห็นพ้องต้องกันให้ใช้ชื่อบริษัทที่จะจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น” เนื่องจากทรูมีบริการที่หลากหลาย ในขณะที่ดีแทคมีเพียงบริการเครือข่ายสัญญาณมือถืออย่างเดียว ทรูจึงเป็นที่รู้จักในวงกว้างกว่า ซึ่งทั้งแบรนด์ “ทรู และ แบรนด์ “ดีแทค” ก็จะยังคงแยกกันให้บริการลูกค้าของตนเองเหมือนเดิม ไม่ได้มีการยุบแบรนด์แต่อย่างใด ยังคงเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค และยังสามารถแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมต่อไป ซึ่งการใช้ชื่อเดิมที่มีอยู่แล้ว มาเป็นชื่อบริษัทใหม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย

 

การรวมคลื่น
มีสื่อยกประเด็นมาตรการเฉพาะของกสทช. หลังเคาะดีลทรู-ดีแทค ที่ห้ามสองบริษัทรวมคลื่นกัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวระบุว่า “การถือครองคลื่นความถี่ บริษัท TUC และบริษัท DTN จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับใช้งานคลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมอย่างเคร่งครัด” ซึ่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ระบุว่า “ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็นสิทธิเฉพาะตัวจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก กสทช. และเสียค่าธรรมเนียมการโอน” ดังนั้น การที่ดีแทคประชาสัมพันธ์ว่าคลื่นจะเพิ่มขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น ก็เป็นการทำให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทเข้าใจผิดว่า รวมคลื่นกันได้ รวมแล้วจะมีคลื่นความถี่มากขึ้น เพราะขัดแย้งกับมาตรการเฉพาะของกสทช. และผิดต่อกฎหมายจัดสรรคลื่นความถี่ หรือไม่

 

เรื่องนี้มีคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม สืบศักดิ์ สืบภักดี ว่า กฎหมายอาจจะยังรวมคลื่นความถี่ไม่ได้ แต่ในทางเทคนิค การใช้คลื่นร่วมกันเกิดขึ้นได้ เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถจับสัญญาณของผู้ให้บริการรายอื่นได้ถ้ามีข้อตกลงอนุญาตให้ใช้ได้ มีเคสของบริษัทเอไอเอส กับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ที่มีข้อตกลงในการใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ทั้งสองบริษัทไม่ได้ควบรวมกันได้ ในทางเทคนิคเอไอเอสจึงมีคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ 1 ผืน ขนาด15 เมกะเฮิรตซ์ รวมกับอีก 1 ผืนของ NT จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ รวมกันแล้วเอไอเอสมีคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ อยู่ที่ 30 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้นถึงแม้ดีแทคกับทรูไม่ได้รวมกิจการกัน แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงให้ใช้คลื่นร่วมกันได้ ก็ใช้คลื่นได้ ธรรมชาติของโทรศัพท์มือถือออกแบบมาให้สามารถสลับใช้คลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้

 

นอกจากนี้ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ระบุว่า “ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็นสิทธิเฉพาะตัวจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก กสทช. และเสียค่าธรรมเนียมการโอน” นั่นหมายความว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามการโอนอย่างเด็ดขาด แต่ให้กสทช. อนุญาตได้ โดยจ่ายค่าธรรมเนียมการโอน ไม่ได้ปิดประตูตายสำหรับการรวมคลื่น 

 

ผูกขาด การแข่งขัน
สำหรับประเด็นการผูกขาดตลาดหรือผูกขาดการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมหลังการรวมกิจการนั้น หากมองในแง่ของการถือครองตลาด (ยกมากล่าวเฉพาะ 3 รายแรก) จำนวนลูกค้าล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 จะพบว่า เบอร์ 1 เอไอเอส มีลูกค้า 45.7 ล้านเลขหมาย ขณะที่เบอร์ 2 ทรู มี 33.6 ล้านเลขหมาย ส่วนเบอร์ 3 ดีแทค ถืออยู่ 21.1 ล้านเลขหมาย จะเห็นได้ว่า อันดับหนึ่งเอไอเอส ทิ้งห่างอันดับสองทรู อยู่ 12.1 ล้านเลขหมาย (45.7 – 33.6 = 12.1) และห่างจากอันดับสามดีแทค 24.6 ล้านเลขหมาย (45.7 – 21.1 = 24.6) ถือว่าเยอะมาก

 

แต่เมื่อ ทรูรวมกับดีแทค จะมีจำนวลูกค้ารวมกัน = 54.7 ล้านเลขหมาย (33.6 + 21.1 = 54.7) ห่างจาก เอไอเอสเพียง 9 ล้านเลขหมาย (54.7 – 45.7 = 9) น้อยกว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

ดังนั้น ถ้าจะมองว่าการรวมกันของทรูและดีแทค จะทำให้ตลาดเกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน จึงไม่น่าจะใกล้เคียงความจริง สถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนจะใกล้เคียงมากกว่าด้วยซ้ำ การรวมกันจึงเป็นการเพิ่มพลังให้ทรูและดีแทคขยับขึ้นมาใกล้เคียงเอไอเอสมากขึ้นกว่าการแยกกันอยู่ ที่สู้กันแทบไม่ได้เลย และหากมองในแง่ของการแข่งขัน ขณะที่กระบวนการรวมกิจการยังไม่เสร็จสิ้น ก็จะเห็นการช่วงชิงจังหวะและโอกาสเพื่อแย่งชิงลูกค้าจากเอไอเอสได้เกิดขึ้นอย่างเข้มข้นกว่าเดิม (ถึงขนาดออกแคมเปญย้ายค่ายแบบไม่เกรงใจกันเลย) เป็นนัยของการบอกว่าต่อไปการแข่งขันตลาดจะยิ่งหนักหน่วงขึ้น ไม่ใช่จะลดการแข่งขันลงไปเลย

 

ผู้ถือหุ้นใหญ่
สื่อการเงินรายหนึ่งให้ข้อมูลการรวมกิจการผิดพลาด จากการอ่านตัวเลขแค่บรรทัดแรกกับบรรทัดที่สอง ปล่อยข่าวว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ในทรูคือไชน่าโมบาย (China Mobile) ไม่ใช่ซีพี

 

ความจริงจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ และข้อมูลบนเว็บไซต์ของทรู ระบุชัดว่า ไชน่าโมบาย ถือหุ้นทั้งหมด 18% ส่วนบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ถือหุ้นรวมกันทั้งหมด 49.99% คำตอบอยู่ในตัวไม่ต้องอธิบายอะไรต่อ

 

การเสพข่าวจากสื่อ แม้จะเป็นสื่อหัวใหญ่ สรุปความให้ในบรรทัดเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลนั้นจะถูกต้องเชื่อถือได้ทั้งหมด ผู้เสพข้อมูลอย่างเราต้องคิดตามและพิจารณาข้อมูลตามหลักฐานความเป็นจริงก่อนจะเชื่อ เพื่อจะได้ไม่หลงเป็นเหยื่อข้อมูลเท็จ ที่เขาสรุปให้สั้น ๆ แค่บรรทัดเดียว

โพสท์โดย: namdee
รูปจาก: กลุ่มเทคโนโลยีบ้านเรา
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
namdee's profile


โพสท์โดย: namdee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สุดสลด!!!โจ๋วัย15ปีวัยกำลังห้าว ซิ่งจยย.แข่งประลองความเร็วพุ่งย้อนศรดับสลด2ศพกล้าหาญมาก เลี้ยงอีโบ้ไว้ ไม่เสียข้าวสุกเลยจริงๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คนเลี้ยงไก่โพสต์เศร้าอากาศร้อนจัด!!!ทำให้ไก่ชนที่เลี้ยงมาทยอยตายหมดเล้าเผยเลี้ยงมา20ปีพึ่งเคยเจอ"ลุงดอนใจดี" ย้ำอาหารที่ร้านไม่แพง และยังคงขายราคาเดิมเมื่อหนุ่มน้อยซื้อหูฟังบลูทูธมาใช้ครั้งเเรก เสียงนี่ชัดเลย ชัดว่ายังไม่ได้เชื่อมรวมความพีค ใน เดอะเสน็ค (พาร์ท 1)
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ฮีโร่ตัวจริง! พยาบาลสาว ใช้มือยันหน้าต่าง ช่วยคนไข้จากพายุ ถล่มหนักสุดในรอบ 60 ปีกกต. ยื่นศาลฎีกา ชี้ขาดแจกใบดำ-ใบแดง "สมชาย เล่งหลัก" ผู้สมัคร สส.สงขลา ภูมิใจไทย ให้ลูกน้องเตรียมซื้อเสียง"แสวง" เลขาฯ กกต. ไม่ห้ามสื่อเสนอข่าว-จัดเวทีฯ ขู่จับตาดูผู้สมัคร ชี้ "ธนาธร" ทำได้ชวนลง สว.รวบคาด่าน!ตะลึง เด็ก 14 ปี ขนยาบ้ากว่า 6 ล้านเม็ด
ตั้งกระทู้ใหม่