(นิยาย) It's Just Luve หัวใจนี้มีเพียงเรา ตอนที่ 3
ตอนที่ 3 เดทในวันเสาร์?
หลังจากทีเอริสกลับมาถึงบ้านที่ลอนดอนได้สามวัน เธอเตรียมตัวดำเนินเรื่องการเข้าเรียนโดยมีผู้เป็นแม่อย่างไครี่คอยดูแลจัดการทุกอย่างให้ แม้ลูคัสกับคาร์ลอสจะบอกว่าให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของพวกเขาก็ตาม พวกเขาแทบจะไม่ได้คุยกับน้องสาวตัวน้อยระหว่างที่ไครี่รั้งตัวเธอไว้ด้วยความคิดถึง โชคดีที่พวกเขามีนัดออกไปเที่ยวกันวันเสาร์ เด็กสาวจึงสามารถปลีกตัวจากผู้เป็นแม่ได้
คาร์ลอสนั่งรอน้องสาวในห้องนั่งเล่น เขาเคาะนิ้วกับขาตนเองขณะที่กำลังใช้ความคิดว่าจะพาเธอไปเที่ยวที่ไหนดี ส่วนลูคัสยังไม่มีทีท่าจะโผล่เข้ามา จนกระทั่งเมื่อประตูห้องเปิดออกเขาคิดว่าน้องชายของตนมาได้ซะที
“ลูคัส นาย...” ว่ายังไม่ทันเป็นประโยคก็ต้องนิ่งเงียบ ดวงตาสีฟ้าเขียวเบิกขึ้นเล็กน้อยกับผู้มาเยือน
เอริสยืนส่งยิ้มเขินๆ ให้กับคาร์ลอส เธออยู่ในชุดมินิเดรสคอกว้างแขนยาวสีขาว สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นไว้ข้างใน ผมสีดำยาวสลวยมัดรวบไว้เพียงครึ่งหัวด้วยสายรัดตุ๊กตาหัวแมวตัวเล็กๆ เธอสวมรองเท้าหุ้มส้นสีขาวเข้ากันกับชุดและมีกระเป๋าสะพายสีขาวใบเล็กๆ บนไหล่
“พี่เป็นอะไรเหรอคะ” เธอมองคาร์ลอสที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอย่างสงสัย
“เอ่อ เปล่า เหลือแค่เจ้าลูคัสสินะ” เขาละสายตาไปมองมือถือของตนอย่างไม่จำเป็นแต่ก็คอยชำเลืองมองเด็กสาว เธอเดินมานั่งลงที่โซฟาตรงข้ามชายหนุ่ม พอรู้ว่ากำลังถูกจับจ้องเด็กสาวก็แย้มยิ้มซื่อทำเอาเขายิ้มตอบเก้ๆ กังๆ
สาวน้อยก้มมองข้อความที่เด้งขึ้นบนหน้าจอมือถือ คิ้วเรียวมุ่นลง เธอเปิดไลน์อ่านข้อความจากใครบางคนแล้วก็พูดขึ้น
“พี่ลูคัสบอกว่าไม่ว่าง ติดธุระกะทันหัน ให้ฉันกับพี่ไปเที่ยวกันสองคนได้เลยค่ะ” คำบอกของเอรสิทำเอาคาร์ลอสชะงักจนมือถือเกือบจะร่วงลงพื้น “ลืมว่านัดกับเพื่อนไว้ค่ะ พี่เค้าว่ามาแบบนี้” เอริสมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณาอยู่ชั่วครู่แล้วพูดต่อ “ถ้าพี่ไม่สะดวกจะยกเลิกก็ได้นะคะ ไว้รอพี่ลูคัสพร้อมแล้วเราค่อยไปด้วยกันใหม่”
“ฉันอยากไป” คาร์ลอสรีบบอส “ไว้ค่อยชวนหมอนั่นทีหลังก็ได้ เธอมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษมั้ย”
“อืม...” เด็กสาวครุ่นคิด สีหน้าอันหลากหลายของเธอทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดูอยู่ลึกๆ “ฉันอยากไปซื้อของที่จำเป็นบางส่วนและก็เสื้อผ้าอีกนิดหน่อยค่ะ”
“แล้วมีอะไรอีกมั้ย”
“ถ้ามีเวลาก็อยากไปเดินเล่นละมั้งคะ หรือถ้าพี่คาร์ลอสอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษบอกได้นะคะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเอง” เอริสคลี่ยิ้มสดใส ความสดใสร่าเริงของเธอทำให้คนมองหวั่นไหว น้องสาวของเขาช่างใช้คำว่าน่ารักได้สิ้นเปลืองเสียเหลือเกิน
คาร์ลอสลุกขึ้นยืนก่อนจะผายมือไปด้านข้างเลียนแบบโจนาธาน
“เชิญครับคุณหนู” เขาพูดกลั้วหัวเราะ เด็กสาวกลั้นขำแล้วเชิดหน้าน้อยๆ เธอลุกขึ้นเดินนำชายหนุ่มพยายามที่จะทำเหมือนนางแบบในทีวี แต่ด้วยความที่ไม่เคยเดินมาก่อนทำให้ก้าวพลาดสะดุดขาตนเองจนเกือบจะล้มลง โชคดีที่ชายหนุ่มเข้ามารับไว้ได้ทัน “เป็นอะไรรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ” สาวน้อยยิ้มแห้ง เกือบจะได้ลงไปสักการะฟ้าดินซะแล้วสิ
“สงสัยพี่คงได้พาเธอไปเดินเล่นโรงพยาบาลแทนห้างแหงๆ” เขาพูดติดตลก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความห่วงหา
“ขอห้องพิเศษที่มองเห็นวิวสวยๆ นะคะ” ยังไม่วายยียวนตอบกลับ จนชายหนุ่มอยากจะหยิกแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว “ว่าแต่จะปล่อยได้รึยังคะ” เธอบอก เพราะอ้อมแขนของเขายังโอบอยู่ที่เอวของตน คาร์ลอสรีบดึงแขนกลับด้วยท่าทีเก้อเขินเล็กๆ ร่างบางอมยิ้มกับการทำตัวไม่ถูกของผู้เป็นพี่ เด็กสาวคว้ามือใหญ่ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย “ไปกันเถอะค่ะ”
ร่างสูงยอมให้คนร่างเล็กกว่าดึงตัวไปอย่างว่าง่าย ท่ามกลางสายตาของบรรดารับคนใช้ซึ่งเฝ้ามองความสนิทสนมของทั้งคู่ราวกับกำลังย้อนวันวานในสมัยก่อนที่พวกเขามักจะตัวติดกันเสมอ จนกระทั่งเมื่อรถยนต์คันหรูขับออกไป ลูคัสเดินออกมาที่ระเบียงห้องนอนเพื่อเฝ้ามองรถซึ่งกำลังขับห่างออกไปจนลับสายตาด้วยรอยยิ้มแฝงความนัย
คาร์ลอสพาเอริสมายังแฮร์รอดส์ ห้างสรรพสินค้าหรูบนถนนบรอมพ์ตัน เพราะเป็นช่วงวันหยุดผู้คนจึงค่อนข้างพลุกพล่านกว่าวันธรรมดา ชายหนุ่มพาเด็กสาวเลือกซื้อของใช้ต่างๆ ตามที่เจ้าหล่อนต้องการ เอริสแตกต่างจากหญิงสาวที่เขาเคยควงคนอื่นๆ เธอไม่ได้สนใจว่าของที่ซื้อจะเป็นคอลเล็คชั่นใหม่หรือหรูหราราคาแพงที่สุด เธอเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ และปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อพนักงานขายแนะนำกระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่งที่พึ่งจะออกวางขายได้เพียงสามวัน
“ไม่ถูกใจเหรอ” คาร์ลอสหยั่งเชิง คนตัวเล็กช้อนหน้ามอง
“เปล่าค่ะ แค่มันไม่จำเป็น” เธอหันกลับไปเลือกดูกระเป๋าต่อ ชายหนุ่มอมยิ้มเอ็นดูขณะที่เมียงมองเครื่องหน้าน่ารักซึ่งกำลังลำบากใจว่าจะซื้อใบไหนดี
“ถ้าเลือกไม่ได้ก็ซื้อมันหมดทุกใบไปเลยสิ” คาร์ลอสกระซิบที่ข้างหู เด็กสาวสะดุ้งเบี่ยงตัวออกจนเขาตกใจ
“ทำอะไรของพี่เนี่ย” เอริสเอามือป้องหู ดวงหน้ามนขึ้นสีระเรื่อจนคาร์ลอสสังเกตเห็น “อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ” เธอรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วพยายามที่จะจดจ่อกับการเลือกกระเป๋าต่อ ชายหนุ่มประหลาดใจกับท่าทางของเธอเพราะเขาเพียงแค่กระซิบข้างหูเท่านั้นเอง
หลังจากที่เลือกซื้อกระเป๋าถือใบขนาดกลางสีดำเรียบง่ายใบหนึ่ง เด็กสาวก็พาชายหนุ่มไปโซนเครื่องแต่งกายเพื่อซื้อเสื้อผ้าที่จะไว้ใช้เมื่ออยู่ที่ลอนดอน แม้ไครี่จะเตรียมไว้ให้สาวน้อยล่วงหน้าแล้วก็ตาม เพราะผู้เป็นแม่หวังดีอยากให้ลูกสาวแต่งชุดน่ารักๆ ส่วนมากจึงมีแต่เดรสและชุดกระโปรงซึ่งค่อนข้างเคลื่อนไหวได้ลำบาก
“ตัวนี้เหมาะกับคุณมากเลยนะคะ” พนักงานสาวหยิบเดรสยาวตัวหนึ่งส่งให้
“งั้นผมเอาตัวนี้” คาร์ลอสรีบบอก เอริสทำสีหน้าปั้นยาก เธอกำลังมองหาชุดลำลองสบายๆ ก็พอดีกับที่พนักงานคนเดิมหยิบชุดมินิเดรสสีครีมมานำเสนอ
“ตัวนี้เป็นคอลเลคชั่นล่าสุดเลยนะคะ เหมาะกับคุณน้องสาวมากๆ”
“เอาด้วย” อีกครั้งที่เขาตัดสินใจโดยพลการ
เอริสหันมายืนกอดอกจ้องชายหนุ่มเขม็ง เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้จนเธอถอนหายใจออกมา
“พี่อยากให้ฉันใส่เหรอคะ” เธอเปรยสายตาไปมองชุดที่พนักงานกำลังกุลีกุจอพับใส่ถุง
“ฉันคิดว่ามันน่าจะเข้ากับเธอดี” เขาตอบยิ้มๆ ลอบสังเกตอากัปกิริยาอีกฝ่ายอย่างนึกสนุก
“ก็ได้ค่ะ” เธอตอบรับก่อนจะเดินตรงไปหาพนักงานสาวจนเขางุงงง “ขอชุดสีครีมหน่อยค่ะ”
“คะ...ค่ะ” พนักงานรีบส่งชุดให้เธอ เอริสหันมาหลิ่วตาให้ชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เธอเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทำเอาทั้งชายหนุ่มและพนักงานสาวหันมามองหน้ากัน
เพียงเวลาไม่นาน ประตูห้องลองชุดก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างอรชรที่ก้าวออกมา เอริสอยู่ในชุดมินิเดรสกระโปรงสั้น แขนเสื้อยาวพองน้อยๆ มีโบว์ผูกตรงข้อ คอเสื้อกว้างประดับด้วยระบายลูกไม้พร้อมโบว์เส้นเล็กๆ ตรงกลางหน้าอก เด็กสาวหมุนตัวเพื่อให้เขาเห็นได้ชัดเจน ชายหนุ่มตาโตตกใจกับการเว้าผ่าหลังที่เกือบจะเห็นชั้นใน
“ชุดนี้ไม่ผ่าน ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงเข้ม
“พี่คนเลือกนะคะ” เด็กสาวยอกย้อน “แล้วฉันก็ชอบมันด้วย” เธอคลี่ยิ้มยียวนอย่างคนได้รับชัยชนะ
“พี่ขอถอนคำพูด ไปเปลี่ยนซะ พี่ไม่ชอบชุดนี้”
“ไม่ชอบจริงๆ เหรอคะ” เด็กสาวเซ้าซี้น้อยๆ “พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่เหรอคะ”
“ใครบอกเธอ”
“พี่ลูคัส”
ไอ้บ้าลูคัส ยัดอะไรให้เธอเนี่ย
“พี่ชอบแบบนั้นก็จริง แต่ต้องไม่ใช่กับน้องสาวของพี่” เขาว่าอย่างอ่อนใจ รู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนเสียเหลือเกิน เธอดูเจ้าเล่ห์และแก่นเซี้ยวจนเขานึกหวั่นใจ
“แล้วพี่อยากให้ฉันแต่งแบบไหนเหรอคะ”
“แต่งชุดเดิมน่ะดีแล้ว” เขารีบบอก กลัวว่าเด็กสาวจะเล่นอะไรพิเรนทร์อีก เธอหัวเราะน้อยๆ กับการทำตัวไม่ถูกของผู้เป็นพี่ก่อนจะเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดออกมาตามเดิม
ทว่าเอริสยังคงซื้อชุดที่เธอใส่ก่อนหน้า คาร์ลอสถอนหายใจอย่างนึกปลงอนิจจาเลิกที่จะห้ามเจ้าหล่อน เพราะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
“หิวหรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามเพราะเป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว
“นิดหน่อยค่ะ”
“อยากกินอะไร บอกพี่มาได้เลยนะ”
“อืม...กินอะไรก็ง่ายๆ แล้วกันค่ะ” เธอฉีกยิ้มกว้างตอบ
อะไรที่ง่ายๆ ของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจอีกครั้ง เธอเลือกที่จะเข้าร้านแฮมเบอร์เกอร์แล้วสั่งเป็นชุดเซ็ตเบอร์เกอร์เนื้อกับเฟรนฟรายด์และเครื่องดื่มซึ่งเขาเองก็สั่งคล้ายๆ กันเพียงแต่ของชายหนุ่มเป็นเบอร์เกอร์หมู สาวน้อยดื่มด่ำกับอาหารในมือจนเขารู้สึกเอ็นดูในความใสซื่อเป็นธรรมชาติของเธอ
“ไม่เกินเหรอคะ” เอริสมองชิ้นเนื้อของเขาเจ้าเล่ห์
“กินมั้ย”
“ขอคำหนึ่งค่ะ”
ชายหนุ่มแบ่งเบอร์เกอร์ออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วป้อนเจ้าหล่อน เขาชะงักน้อยๆ อย่างลืมตัวเพราะเธอไม่ใช่เด็กแล้ว ขณะที่เขากำลังจะชักมือกลับ ปากของเธอก็งับเข้ากับอาหารพอดี ชายหนุ่มนิ่งมองคนตรงข้ามเคี้ยวอย่างออกรส
“ขอบคุณค่ะ”
“มุมปากเลอะแน่ะ” เขาบอก พลางหยิบทิชชู่ขึ้นมาซับให้กับเด็กสาว
การกระทำของทั้งคู่เรียกสายตาลูกค้าคนอื่นให้เหลือบมองด้วยความที่คิดว่าทั้งสองคงเป็นคู่รักที่กำลังออกเดทกัน สาวสวยกับหนุ่มหล่อช่างเข้ากันเสียเหลือเกิน
“จะไปไหนต่อดี” เขาถามหลังจากที่ออกจากร้านเบอร์เกอร์ เอริสมุ่นคิ้วจนแทบจะผูกเป็นปมเพราะเธอวางแผนแค่การซื้อของใช้เท่านั้น ด้วยความที่ไม่อยากกวนชายหนุ่มเพราะเขาต้องตรากตรำทำงานมาตลอดสัปดาห์ แทนที่จะได้พักผ่อนแต่กลับต้องพาเธอออกมาข้างนอก
“พี่ไม่เหนื่อยเหรอคะ ความจริงวันนี้พี่ควรจะได้พักผ่อน ฉันขอโทษนะคะที่พาพี่ออกมาตะลอนซื้อของ” ว่าอย่างสำนึกผิด ชายหนุ่มลูบหัวสาวน้อยเป็นการปลอบโยน
“พี่เต็มใจ” เขาบอกยิ้มๆ
“ปกติพี่พาสาวๆ ไปเดทที่ไหนเหรอคะ” ประโยคต่อมาของเธอทำเอาเขาชะงัก เจ้าหล่อนไปจำคำพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย “ไปที่ๆ พี่ไปประจำก็ได้นะคะ”
ที่ประจำ...ผับ...โรงแรม...ได้ที่ไหนเล่า!
“ถ้าอย่างนั้น...ไปพวกถนนคนเดินมั้ย” เรารีบเลือกสถานที่แบบส่งๆ “หรือมีหนังที่อยากดูรึเปล่า เราไปดูหนังกันก็ได้นะ”
“ถนนคนเดินดีกว่าค่ะ” เธอว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ไม่ได้ไปมาตั้งหลายปี คิดถึงเมื่อครั้งที่เราไปเดินเล่นกันสามคนเลยนะคะ”
“ใช่ ตอนนั้นเธอหลงทางทำเอาพวกพี่โดนพ่อกับแม่ดุกันยกใหญ่เลย”
“ขอโทษด้วยนะคะ” เอริสหัวเราะแห้งๆ ความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาช่างงดงามและน่าคิดถึงเสียเหลือเกิน
“พี่ดีใจนะที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ” เอริสเปรยสายตามองมือใหญ่ของชายหนุ่ม เธอเลื่อนมือของตนเข้าไปใกล้แต่ก็ตัดสินใจจะดึงกลับ ทว่าเขากลับคว้ามือเรียวเล็กของเธอไว้ สัมผัสอันอบอุ่นของเขาทำให้เด็กสาวรู้สึกใจเต้นระรัว เธอหน้าแดงน้อยๆ แต่เขาไม่ทันสังเกตเห็น
“รีบไปกันเถอะก่อนที่จะค่ำซะก่อน ขืนพาเธอกลับบ้านช้าแม่คงได้บ่นพี่จนหูชาแน่นอน” จบคำพูด เขาก็พาเด็กสาวกลับไปที่รถและมุ่งตรงไปยังถนนคนเดินซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้าย...แล้วพาสาวน้อยกลับไปยังบ้านในตอนหัวค่ำ ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็โดนผู้เป็นแม่บ่นจนหูชาไปตามระเบียบ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ฮุน เซน เดินเกมใหญ่! ทุ่มงบกองทัพ ปลุกชาตินิยม ลั่นกัมพูชาโดน อยุติธรรมสามชั้น ไม่ก้มหัวให้ใคร
เขมรสร้างภาพ อ้างทหารไทย ยิงปืนใหญ่ ใส่ บ้านสองตายาย
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ด่วน! แก๊งสแกมเมอร์จีน–กัมพูชาแตกฮือ ปอยเปตอลหม่าน หลังทหารกัมพูชายึดอาคารใช้เป็นฐานทหาร ตกเป็นเป้าการสู้รบชายแดน
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
พี่หมาหน้าเหวอ หลังนุดพา แมว เข้าบ้าน แต่สัญชาตญาณบอกดังๆ นี่ไม่ใช่แมวธรรมดา
ดาราดัง "เจมส์ แรนโซน" เสียชีวิตแล้ว
คลิปนาทีทหารไทยโคตรเดือด ควบม้าเหล็ก รัวปืนกล กระบอกคู่ ถล่มเขมร ช่องอานม้า จนสามารถยึดครองพื้นที่ได้สำเร็จ
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
อาการนอยด์ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่ถ้ารุนแรงมากไปจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ทำอย่างไรให้หายนอยด์
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
กองกำลังบูรพา เปิดปฏิบัติการ ถล่มอาคารฝั่งปอยเปต ฐานสแกมเมอร์