หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นุ่มสบายกับ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม”

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

เชื่อว่าในยุคนี้หลายคนเวลาซักผ้าแล้วก็มักจะต้องใส่ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” (Fabric Softener หรือ Fabric Conditioner) ลงไปด้วยเพื่อปรับสภาพของผ้าหลังจากการซักด้วยผงซักฟอกแล้ว เพื่อให้ผ้าเมื่อนำไปตากแล้วยังคงมีความนุ่มฟู ไม่แข็งกระด้าง นอกจากนั้นแล้ว น้ำยาปรับผ้านุ่มก็ยังช่วยในเรื่องอื่น เช่น ช่วยลดรอยยับ หรือทำให้ผ้าหอมไม่มีกลิ่นอับ ได้อีกด้วย

จุดเริ่มต้นของน้ำยาปรับนุ่มนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 แล้ว แต่ในตอนแรกนั้นจะยังใช้เฉพาะในอุตสาหกรรมผ้า เนื่องจากพบว่าเมื่อผ้าผ่านการย้อมสีแล้วจะมีผิวกระด้างแข็งขึ้น โดยสูตรของน้ำยาปรับนุ่มที่ใช้กันทั่วไปในยุคนั้นประกอบด้วย สบู่ 3 ส่วน น้ำ 7 ส่วน และน้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด หรือไขมันจากสัตว์ 1 ส่วน อย่างไรก็ตาม สารผสมเหล่านี้ก็ไม่ได้ว่าใช้ได้กับผ้าทุกชนิด บางชนิดก็สามารถใช้ได้ดีกับผ้าฝ้าย แต่ใช้ไม่ได้กับผ้าใยสังเคราะห์อย่างไนลอนหรือโพลิเอสเทอร์ ต่อมาจึงมีการพัฒนาสารเคมีสังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสารปรับความนุ่มทดแทนสารผสมดังกล่าว

น้ำยาปรับผ้านุ่มเริ่มมีการนำออกมาจำหน่ายในตลาดเมื่อต้นทศวรรษที่ 1960 อย่างไรก็ตาม น้ำยาปรับผ้านุ่มในยุคแรกยังมีข้อเสียคือ เข้ากับผงซักฟอกไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเติมลงในเครื่องซักผ้าได้จนกว่าจะล้างเอาผงซักฟอกจากเสื้อผ้าจนหมดแล้ว หรือพูดง่าย ๆ คือจะต้องซักผ้านั้นสองครั้ง ครั้งแรกซักกับผงซักฟอก แล้วจึงค่อยเอามาซักกับน้ำผสมน้ำยาล้างผ้านุ่มอีกรอบ ต่อมาในทศวรรษที่ 1970 มีการประดิษฐ์ “แผ่นอบผ้า” เพื่อช่วยให้สามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในขั้นตอนของการอบผ้าแทน ทำให้ลดปัญหาการต้องซักผ้าสองครั้งไปได้ จนกระทั่งเมื่อประมาณทศวรรษที่ 1980 จึงเริ่มมีน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้เติมในระหว่างการซักผ้าน้ำสุดท้ายได้ เพื่อให้สามารถใช้เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ที่สามารถซักและปั่นแห้งในตัวโดยไม่จำเป็นต้องเข้าเครื่องอบผ้าอีกครั้ง ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นกว่าเดิม

น้ำยาปรับผ้านุ่มช่วยทำให้ผ้านุ่มฟูได้ด้วยกลไกทางไฟฟ้าเคมี ในระหว่างการซักผ้าโดยเฉพาะในช่วงการปั่นแห้งนั้น เนื้อผ้าจะถูกกดอัดให้ติดกันแน่นและเสียดสีกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุขึ้น ส่งผลทำให้ผ้าเกาะติดกัน น้ำยาปรับผ้านุ่มที่นิยมใช้ทั่วไปจะเป็นแบบประจุบวก ซึ่งจะประกอบด้วยโครงสร้างไฮโดรคาร์บอนสายยาวที่ปลายข้างหนึ่ง และอีกปลายจะเป็นหมู่ฟังก์ชันที่สามารถแตกตัวให้เกิดประจุบวก เช่น Diethyl ester dimethyl ammonium chloride (DEEDMAC) triethanolamine quat (TEAQ) เมื่อโมเลกุลแตกตัว ปลายที่เป็นขั้วบวกจะเกาะยึดอยู่กับผิวของเนื้อผ้า น้ำยาชนิดนี้จะเหมาะกับเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย

อย่างไรก็ตาม น้ำยาปรับผ้านุ่มบางชนิดก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้สำหรับผู้สวมใส่ได้ ดังนั้นจึงควรจะใช้งานในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีน้ำยาปรับผ้านุ่มตกค้างอยู่บนเนื้อผ้าหลังจากซักและตากแห้งมากเกินไป

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว เขมรเคลมอีก! การละเล่น"ชักกะเย่อ" มีต้นกำเนิดจากกัมพูชาภาพหลักฐานสลักบนกำแพงชัดเจน?อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!ภาพถ่ายจากกล้องอินฟราเรด เชอร์โนบิลจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยเขตหวงห้ามสาวเครียด! โพสค์ระบาย เหมือนไร้ตัวตนในที่ทำงาน?พายุสุริยะ ถึงโลกในวันนี้"โซฮี" วง ALICE เตรียมแต่งงานและลาออกจากวงป่วน ! 3 จว.ใต้ ใบปลิวเกลื่อนยะลา ขณะที่ชาวบ้านไปละหมาดวันศุกร์Starlink ของ Musk จะหยุดให้บริการ!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วันนี้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน อย่าพึ่งท้อเมื่อคุณยายขอแจม "ASOKA MAKEUP"..แบบนี้สิของแทร่!แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้"ภาวะโลกเดือด" การปรับตัวในยุคที่ท้าทายสุดขีดของมนุษย์!!สเปกหนูรัตน์ ชอบรวย หล่อแบบเกาหลี
สาวเครียด! โพสค์ระบาย เหมือนไร้ตัวตนในที่ทำงาน?เขมรเคลมอีก? อ้าง ข้าวเหนียวทุเรียน คือขนมดั้งเดิมของเขมรโบราณ!เขมรโป๊ะแตก! สั่งออนใลน์เอาผ้าปูโต๊ะจากไทยมาทำเป็นสะไบ คิดได้ไงเนี่ย?ชาวเขมรไม่สำนึก? แถมยังส่งเสริม หลังหมอเขมร ก๊อปปี้คอนเทนต์ คนไทย!
ตั้งกระทู้ใหม่