"แพทย์" เผยผลวิจัยชี้ "การจัดกระดูกคอ" เสี่ยงอันตรายกระดูกหัก แนะออกกำลังกายเพื่อป้องกันดีกว่ารักษาด้วยเครื่องมือ
เพจเฟซบุ๊ก PT NOTE – บันทึกกายภาพบำบัด โพสต์ภาพผลเอกซเรย์กระดูกคอของคน ที่มาจากงานวิจัย ในวารสารทางประสาทวิทยา Neurology ถึงเคสผู้ป่วย เพศหญิง อายุ 48 ปี มีอาการปวดคอเรื้อรัง มาพบแพทย์ด้วยอาการอ่อนแรงและปวดคออย่างเฉียบพลัน หลังรับการจัดกระดูก ผลการตรวจ x-ray และ MRI
พบว่า กระดูกคอส่วน C5-C6 หัก มีการบาดเจ็บของเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้เกิดการอ่อนแรงแบบอัมพาตทั้งตัว พบการตีบของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทั้งสองข้าง พบการปลิ้นของหมอนรองกระดูก พบการฉีกขาดและเลือดออกของเยื่อหุ้มประสาท ซึ่งผู้วิจัยได้อภิปรายว่า ผลการตรวจ CT บริเวณกระดูกสันหลังของผู้ป่วยรายนี้ พบว่ามีภาวะ Ankylosing spondylitis ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระดูกสันหลังแตกหักได้ง่าย ซึ่งก่อนทำการจัดกระดูก จะไม่มีการตรวจพบภาวะนี้ของผู้ป่วย
ทั้งนี้ Ankylosing spondylitis คือโรคที่เกิดการอักเสบซ้ำๆ ของกระดูกสันหลัง และกระดูกเชิงกราน รวมถึงข้อต่อก้นกบ ซึ่งการอักเสบจะไม่ได้มีผลถึงเพียงเส้นเอ็น แต่จะเกิดการอักเสบไปถึงบริเวณที่เป็นจุดเชื่อมของเส้นเอ็นกับกระดูก และเมื่อกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง ทำให้มีแคลเซียมสะสมบริเวณเอ็นรอบกระดูกสันหลัง และสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงขอบกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก จนทำให้กระดูกสันหลังแต่ละท่อนเชื่อมติดกัน และเสียแนวการวางตัวที่ปกติ จึงทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ กระดูกสันหลังแตกหักได้ง่าย
นอกจากนี้ เจ้าของโพสต์ ยังระบุด้วยว่า เป็นสิ่งที่ตอบได้ยาก ว่า การจัดกระดูก ควรทำหรือไม่? เนื่องจากผลการรักษานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งเคสของผู้ป่วยรายนี้ เป็นเพียงเคสตัวอย่างของอาการข้างเคียงที่รุนแรงจากการจัดกระดูก หากต้องการลดอาการปวดทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อเรื้อรัง ควรออกกำลังกายหรือบริหารส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรง ก็จะดีกว่าการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการจัดกระดูก หรือเครื่องมือทางกายภาพบำบัด เพราะการรักษาที่ง่ายและปลอดภัยก็เริ่มได้จากตัวเราเอง
ความคิดชาวเน็ต