หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลักษณะคติความเชื่อของสังคมชมพูทวีปสมัยก่อนพระพุทธเจ้า

โพสท์โดย Li juan

ในสมัยพุทธกาล อินเดียหรือชมพูทวีป แบ่งอาณาเขตเป็น 2 เขตคือ

 

เขตภาคกลาง เรียกว่า มัชฉิมชนบทหรือมัธยมประเทศ เป็นที่อยู่ของชนชาติอริยกะ หรืออารยัน แปลว่า ผู้เจริญเป็นดินแดนของชนผิวขาว

 

เขตรอบนอก เรียกว่า ประจันตชนบทหรือประจันตประเทศ คือ ประเทศปลายเขตเป็นที่อยู่ของชนชาติมิลักขะ หรืออนารยชน เป็นดินแดนของชนพื้นเมือง

 

ชมพูทวีป คืออาณาเขตที่เป็นประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสสถาน ศรีลังกา บังคลาเทศ และเนปาลในปัจจุบัน (ปัจจุบันเลิกใช้ชื่อชมพูทวีปนี้แล้ว) ในสมัยพุทธกาล ชมพูทวีปนอกจากแบ่งเป็น 2 เขตดังกล่าวแล้ว ได้แบ่งเป็นแคว้นต่างๆ มีจำนวน 16 แคว้น แต่ละแคว้นที่มีความสำคัญในสมัยพุทธกาลมีเพียง 6 แคว้น คือ แคว้นมคธ แคว้นวังสะ แคว้นอวันตี แคว้นกาสี แคว้นสักกะ และแคว้นโกศล

ลักษณะทางด้านการปกครอง แบ่งได้ 2 ระบบ

1. การปกครองแบบราชาธิปไตย               พระมหากษัตริย์หรือผู้ครองแคว้นมีอำนาจสิทธิขาดผู้เดียว มีรัชทายาทสืบสันตติวงศ์แคว้นใหญ่ๆ ส่วนมากปกครองด้วยระบบนี้ เช่น

* แคว้นมคธ มีพระเจ้าพิมพิสารปกครอง

* แคว้นโกศล มีพระเจ้าปเสนทิโกศลปกครอง

* แคว้นอวันตี มีพระเจ้าจันปัชโชตปกครอง

* แคว้นวังสะ มีพระเจ้าอุเทนปกครอง

การปกครองของกษัตริย์ แม้จะมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการปกครอง แต่ก็มีธรรมเป็นหลักในการปกครอง

หลักธรรมสำคัญของกษัตริย์ ได้แก่

* ทศพิธราชธรรม 10 ประการ

* สังคหวัตถุ 4 ประการ

ทศพิธราชธรรม มีธรรมประกอบด้วย

ทาน- การให้

ศีล -การรักษากาย วาจา ใจให้เป็นปกติ

บริจาคะ -การแบ่งปัน การบริจาคแก่ผู้ยาก

อาชวะ -ความซื่อตรงต่อตนเองและผู้อื่น

มัททวะ -ความอ่อนโยน ไม่กระด้าง

ตบะ -ความเพียรพยายาม

อักโกธะ -ความไม่โกรธ

อวิหิงสา -ความไม่เบียดเบียน

ขันติ -ความอดทน อดกลั้น

อวิโรธนะ 'ความไม่ทำให้ผิด (ความไม่คลาด)

สังคหวัตถุ ประกอบด้วย

ทาน -การให้ คือการให้สิ่งของให้คุณธรรม ให้อภัย

ปิยะวาจา -คำปราศรัยอันอ่อนโยน

อัตถจริยา -การทำตนให้เกิดประโยชน์

สมานัตตา 'การวางตนเสมอตน เสมอปลาย

2. การปกครองแบบสามัคคีธรรม หรือการปกครองแบบประชาธิปไตย การปกครองแบบนี้ไม่มีพระมหากษัตริย์ผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาด ไม่มีการสืบสันตติวงศ์ การปกครองระบบนี้การบริหารประเทศขึ้นอยู่กับสถาบันสำคัญ คือ รัฐสภา ซึ่งสมัยเรียกว่า สัณฐาคาร มีประมุขรัฐสภาและมีคณะกรรมการรัฐสภาเป็นคณะกรรมการบริหารในสมัยพุทธกาล มีลักษณะดังนี้

ตามไปด้วย และได้ตั้งหลักการเกี่ยวกับเทพเจ้าหรือเทวดาไว้ 3 ประเภท คือ

* สมมติเทพ เทวดาโดยสมมติ เช่น พวกมหากษัตริย์ พระราชเทวี พระราชโอรส

* อุปปัตติเทพ เทวดาโดยกำเนิด เช่น เทวดาในสวรรค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงาม ความสุข ถ้าใครรักษาความดี ก็จะเกิดเป็นเทวดา เพราะเทวดาเป็นผู้ที่มีคุณธรรม

* วิสุทธิเทพ เทวดาโดยบริสุทธิ์ หมายถึง การเป็นเทวดาด้วยความเป็นผู้บริสุทธิ์สะอาดปราศจากกิเลส ปราศจากความเศร้าหมองจากความชั่ว วิสุทธิเทพนี้ หมายถึง พระพุทธเจ้า พระอรหันต์

ความเชื่อของพวกพราหมณ์ ได้แก่ ความเชื่อในคัมภีร์ไตรเพท มีความเชื่อว่า พระพรหมเป็นผู้สร้างโลก จักรวาล และสรรพสิ่งทั้งปวง ความเชื่อของพราหมณ์อีกประการหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ คือ ความเชื่อในเรื่องการล้างบาป มีความเชื่อว่า บาปของมนุษย์นั้นชำระล้างได้ด้วยแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ แม่น้ำคงคา ถ้าใครได้อาบ หรือได้กินน้ำในแม่น้ำคงคา ถือว่าได้บุญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองพาราณาสี ซึ่งเป็นเมืองของพระศิวะ และที่เมืองคยา ถือว่าเป็นเมืองของพระวิษณุ ผู้ที่ได้อาบ หรือดื่มกินน้ำในแม่น้ำคงคา โดยเฉพาะเมืองดังกล่าวถือว่าได้บุญมาก ความชั่วทั้งหมดจะถูกลอยไปกับสายน้ำกลายป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งทางกายและทางใจ

ลัทธิอิสระ คือ กลุ่มที่มีความเชื่ออิสระเป็นพวกนักบวชที่มีความมุ่งหมายที่จะค้นหาความจริงอย่างเป็นอิสระ มีหลักฐานกล่าวไว้ว่า มีถึง 336 ลัทธิ แต่หลักฐานทางพระพุทธศาสนากล่าวว่ามี 62 ลัทธิ แต่ที่ตั้งสำนักสั่งสอนในกรุงราชคฤห์แคว้นมคธนั้น มีลัทธิอิสระ 6 ลัทธิ สรุปได้ดังนี้

* ปูรณกัสสป มีความเห็นว่า บุญบาปไม่จริง การกระทำใดๆ ไม่ว่าดี เลว จะไม่มีผลอะไรตอบสนอง ลัทธินี้เรียกว่า อกิริยทิฐิ ซึ่งมีความเห็นว่าทำก็เท่ากับไม่ทำ

* มักขลิโคสาล มีความเห็นว่า ความบริสุทธิ์และความมัวหมอง ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย สัตว์ทั้งหลายบริสุทธิ์ และเศร้าหมองเองตามธรรมชาติ ลัทธินี้เรียกว่า อเหตุกทิฐิ เห็นว่าไม่มีเหตุ ไม่มีผล

* อชิตเกสกัมพล มีความเห็นว่า คนไม่มี สัตว์ไม่มี มีแต่การประชุมแห่งธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

* ปกุธกัจจายนะ มีความเห็นว่า สิ่งที่เที่ยงแท้มีอยู่ 7 อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ลม สุข ทุกข์ และชีวะไม่ผันแปรเป็นอย่างอื่น มีอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น เรียกว่า สัสตทิฐิ (เห็นว่านิรันดร) ในด้านจริยธรรม ถือว่าไม่มีการฆ่า ไม่มีคนถูกฆ่า เป็นเพียงแต่อาวุธชำแหละผ่านอวัยวะที่ไม่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ชีวะที่เที่ยงแท้ไม่มีใครฆ่าได้

* นิครนถ์นาฏบุตร มีความเห็นว่า การทรมานกายให้ลำบากด้วยวิธีต่างๆ เป็นทางหลุดพ้น คือการไม่เบียดเบียน ไม่มีสมบัติที่จะครอบครอง ประพฤติตนสันโดษ เชื่อว่าการทรมานกายจะทำให้หลุดพ้นทุกข์ เรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค

* สัญชัยเวลัฏฐบุตร เป็นลัทธิที่ไม่ติดกับทรรศะใดๆ เป็นลัทธิลื่นไหลไม่ตายตัวแน่นอน เรียกว่า อมราวิกเขปิกาทิฐิ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Li juan's profile


โพสท์โดย: Li juan
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Li juan
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ที่ร้านอาหารสนามบิน นทท.ชาวจีนเข้ามานั่งพร้อมใช้งานโน็ตบุ๊คโดยไม่สั่งอะไรเลยนาน 30 นาที ทำเจ้าของร้านเหลืออดเด็กวัย 7 ขวบ ซื้อบ้านหรูในอิแทวอน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทด้วยเงินสดพระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว คือตำนานนที่เกิดขึ้นจริง !?งูยักษ์ดึกดำบรรพ์ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก!!'อ.เจษฎ์' เตือนอย่าดื่มสุราเป็นปริมาณมาก รวดเร็ว ถึงกับเสียชีวิตอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นมาได้อย่างไรมาไขความรู้ แอลกอฮอร์ ทำให้เสียชีวิตได้อย่างไร4 ปีเกิด การเงินดีไหลเข้าทางไหน ในเดือนมกราคม 2568 by ซินแสน้อย แต้เอี่ยงคังเเม่ดีเด่น!! เมื่อเจ้าเหมียวลูกรัก ร้องขอความช่วยเหลือ แม่ก็พร้อมบวกทันที 🤣ชาวเน็ตติง!! “ มีนา ริณา” ให้สัมภาษณ์ มาประกวดมิสแกรนด์แค่ทางผ่าน เพื่อเข้าวงการบันเทิงเฉย ๆ คำพูดตรงเกิ๊น !! 🙂‍↔️ปธน.เยอรมันประกาศยุบสภาแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
4 ปีเกิดการเงินดีต้องเสริมดวงอย่างไร ช่วง มกราคม 2568 by ซินแสน้อย แต้เอี่ยงคังชาวเน็ตติง!! “ มีนา ริณา” ให้สัมภาษณ์ มาประกวดมิสแกรนด์แค่ทางผ่าน เพื่อเข้าวงการบันเทิงเฉย ๆ คำพูดตรงเกิ๊น !! 🙂‍↔️
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นมาได้อย่างไร"สวนสัตว์มนุษย์" (Human Zoo) บาดแผลในประวัติศาสตร์และบทเรียนของสังคม5 เรื่องแปลกๆ ของoสุจิที่คุณรู้แล้วจะตกใจ!10 อันดับนักแสดง AV ชายที่หุ่นแซ่บและโด่งดังที่สุดในวงการหนังผู้ใหญ่
ตั้งกระทู้ใหม่