.

เชื่อว่ามีเพื่อนๆหลายๆท่านคงคุ้นหน้าคุ้นตากับภาพถ่ายเครื่องบินที่มีไฟพุ่งออกมาจากท้องเครื่องลำนี้กันมาบ้าง

ว่าแต่จริงๆมันคืออะไรกันแน่ มันคือภาพจริง ?  หรือมันมาจากหนัง ?

วันนี้เรามาฟังเรื่องราวอันเป็นที่มาของมากันเถอะ

.

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเครื่องบินรุ่นนี้คร่าวกันก่อน ว่ามันมีรายละเอียดใดบ้าง

ชื่อของมันคือ " คองคอร์ด " ( Concorde ) ผลิตโดย British Aircraft Corporation ( ในขณะนั้น )เป็นเครื่องบินขนส่งชนิดความเร็วเหนือเสียง และเป็นหนึ่งในสองแบบของเครื่องเหนือเสียงที่ใช้เป็นเครื่องบินโดยสารให้บริการในเชิงพาณิชย์จริงในขณะนั้นด้วยเช่นกัน ( อีกรุ่นคือ Tupolev Tu-144 )เที่ยวบินแรกเปิดให้บริการวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1969  และ หยุดบินให้บริการ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2003

สามารถเชื้อเพลิงมากที่สุด 95,000 กิโลกรัม และมีอัตราเร็วสูงสุด 2.35 มัค (2,500 กิโลเมตร/ชั่วโมง) <-- ราวๆเกือบ 3 เท่าของเครื่องบินที่เรานั่งๆกันอยู่ปกติเลยเด้อพี่น้อง

และความที่ทำความเร็วได้มาก สายการบินจึงใช้ทำการในเส้นทางข้ามมหาสมุทรซึ่งเป็นรูทที่มีระยะทางไกล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสานที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทางเป็นหลัก

 

.

เอาล่ะ หลังจากที่เราได้รู้ข้อมูลของเจ้าคองคอร์ทกันคร่าวๆแล้ว เพื่อนๆคงสงสัยว่าทำไมปัจจุบันเราจึงไม่เห็นสายการบินใช้เครื่องรุ่นนี้กันอีกเลย มันเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวมาตามอ่านกัน

.

เหตุผลในการหยุดใช้งานหลักๆเกิดจากการที่เครื่องบินใช้ปริมาณเชื้อเพลิงสูงมาก โดยเฉพาะขณะทำการบินเหนือภาคพื้นดิน เพราะรูปทรงที่เอื้อกับการบินด้วยความเร็วสูงเหนือมหาสมุทร แต่เป็นอุปสรรคอย่างมากในการบินเหนือเมืองต่างๆที่ผู้คนอาศัยอยู่( มีกฎหมายเรื่องเสียง ) , ประมาณว่าเหมือนรถยนต์ที่ขับต่อนยอนๆ แต่กินน้ำมันดุนั่นเอง 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ทำให้ผู้ให้บริการเริ่มเห็นถึงความไม่คุ้มค่าในตัวของมัน ( ถึงจะแลกมากับรายได้จากค่าตั๋วที่แพงมหาศาล และสามารถร่นเวลาทำการบินได้เยอะแล้วก็จริง .. แต่ก็ยังไม่คุ้นค่านัก )

.

ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์สำคัญหนึ่ง ที่มีส่วนอย่างมากในระงับการใช้งานก็คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลังจากภาพถ่ายข้างล่างที่แสดงให้เห็นลูกไฟลูกใหญ่กำลังลุกโชติช่วงออกมาจากท้องเครื่อง

v

v

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 หลังเครื่องบินทะยานขึ้นจากท่าอากาศยาน Charles de Gaulle ฝรั่งเศส

หลังทำการวิ่งขึ้นได้ไม่นาน เกิดลูกไฟจากการรั่วไหลของเชื้อเพลิงพวยพุ่งออกมา ( ภาพถ่ายด้านบนเป็นมุมที่ผู้โดยสารของเครื่องบินอีกลำที่กำลังรอ take off จับภาพไว้ได้ )

หลังจากนั้นไปไม่นาน เครื่องคองคอร์ด ทะเบียน F-BTSC ก็เสียแรงขับ ตกลงบริเวณโรงแรมใกล้เคียง ทำให้ลูกเรือ และผู้โดยสารทั้งหมด 109 คน เสียชีวิต รวมถึงผู้โชคร้ายที่ภาคพื้น อีก 4 คน ( บาดเจ็บ 6 )

 

 

 

การสืบสวนจากผู้เกี่ยวข้องเริ่มในทันที ในช่วงแรกเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเป็นครั้งแรกของการตกของเครื่องรุ่นนี้ รวมถึงหลักฐานต่างๆยังไม่สามารถระบุหาต้นเหตุการลุกไหม้ใต้ท้องเครื่องในขณะร่อนขึ้นได้

.

.

สุดท้าย หลังจากการทำงานของเจ้าหน้าที่สืบสวน ได้พบเบาะแสสำคัญสองชิ้น ชิ้นหนึ่งคือยางจากล้อของเครื่องบินในจุดตก

v

 

และเศษโลหะชิ้นหนึ่งบนรันเวย์ที่คองคอร์ดใช้เป็นทางวิ่ง

v

.

 

 

เครื่องบิน DC-10

.

  จากหลักฐานประกอบต่างๆ และข้อมูลที่นำมาประมวลเข้าด้วยกัน จึงได้ข้อสรุปว่า ในขณะบินขึ้น มีชิ้นส่วนโลหะที่หลุดออกมาจากเครื่องบินดีซี-10 ของคอนติเนนตัลแอร์ไลน์ ซึ่งบินขึ้นก่อนหน้านั้น 4 นาที กระแทกกับยางล้อด้านซ้ายของเครื่องเที่ยวคองคอร์ด ขณะกำลังเร่งเครื่องเพื่อยกตัวขึ้น ทำให้ยางล้อเกิดระเบิดและมีชิ้นส่วนของยางกระเด็นไปกระแทกถังน้ำมัน และสายไฟจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ( ภาพ graphic ด้านบน )

 

ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้แจ้งนักบิน นักบินได้ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ และพยายามยกเลิกการบินขึ้น แต่เครื่องบินเสียแรงยกและกระแทกพื้น ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ รวมถึงคนบนพื้นดินได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

.

เหตุการณ์หลังอุบัติเหตุ

>> มีการระงับการบินของคองคอร์ดทุกเที่ยวบินเพื่อสอบสวนหาสาเหตุและแก้ไข คองคอร์ดเที่ยวบินแรกหลังอุบัติเหตุ ทำการบินทดสอบเมื่อวัน ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 และทำการบินพร้อมผู้โดยสารเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 วันเดียวกับการเกิดวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544....โอ้หนอออ

>> ความตกต่ำของอุตสาหกรรมการบินหลังเหตุการณ์ 9/11 ทำให้แอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์( ผู้ให้บริการหลักในขณะนั้น ) ตัดสินใจประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546 เนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยและมีต้นทุนสูง

>> จากนั้น เครื่องบินแต่ละลำจึงถูกแยกย้ายนำไปจัดแสดงยังจุดต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสกับตำนานเครื่องบินพานิชย์เหนือเสียงลำนี้ อาทิ ลำด้านล่าง จอดแสดงอยู่ @ พิพิธภัณฑ์แอร์บัส ตูลูซ ประเทศฝรั่งเศส...ใครสนใจไปรับชมกันได้เด้อ

 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/คองคอร์ด

.

Tip

- การตรวจสอบสภาพทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก จากปกติจะมีเจ้าหน้าที่ที่คอยตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนตามวงรอบเวลาอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้ทำให้มีความเข้มข้นและรัดกุมมากขึ้นไปอีก

- อุตสาหกรรมการบินมีการกลับมาทบทวน วิธีการผลิตชิ้นส่วน , การเลือกใช้วัสดุ , การตรวจสอบคุณภาพของชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องบินให้รัดกุมมากขึ้น

- วีดีโอสารคดีสำหรับรับชมเพิ่มเติม

- และสุดท้าย หลายท่านคงทราบแล้วว่าคองคอร์ดเคยบินมาบ้านเราด้วยนะ

ขอขอบคุณภาพคองคอร์ดในไทยจาก Thanatorn Klinpayorm

ข้อมูลโดย Aerospace Magazine

.

การเดินทางโดยเครื่องบินมีความปลอดภัยสูง
กระทู้นี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นความรู้ และอุทิศให้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เราเรียนรู้
เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในการเดินทางให้ดียิ่งๆขึ้น
.