เซลลูไลท์ คืออะไร? ดูดไขมันแล้วจะหายไปด้วยไหม?
บรรดาปัญหาเรื่องของไขมันส่วนเกินหรือเรื่องของปัญหาสัดส่วน ที่ถือว่าเป็นปัญหายอดฮิตนั่นก็คือ เรื่องของเซลลูไลท์หรือ ผิวเปลือกส้ม และประจวบเหมาะกับการที่หลาย ๆ คนมักให้ความสนใจกับการเสริมความงามพอดีโดยเฉพาะ" การดูดไขมัน"
แต่เรื่องนี้บางคนเองก็ยังงง ๆ ปน ๆ ระหว่างผิวหนังที่หย่อนคล้อยกับเซลลูไลท์วันนี้เราจะมาอธิบายและมีวิธีแนะนำในการสังเกตร่างกายมาฝาก พร้อมบอกถึงผิวแบบไหนจะสามารถดูดไขมันได้และไม่ได้มาฝากกัน
ผิวหนังหย่อนคล้อย Vs เซลลูไลท์
ผิวหนังหย่อนคล้อย คือ Stubborn Fat ภาวะของปัญหาผิวที่มีหลายปัจจัยเกี่ยวข้องทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายใน คือ
สุขภาพไม่ดี เครียด ขาดสารอาหาร ท้องลายจากการคลอดบุตร (นับเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก)
และปัจจัยภายนอก คือ
แสงแดดทำร้าย ผอมอย่างรวดเร็ว ไม่บำรุงผิว เป็นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ความหย่อนคล้อยของผิวลักษณะนี้แม้ว่าจะลดน้ำหนักได้แล้ว คุมการรับประทานอาหารแล้ว รวมถึงการออกกำลังกายก็ไม่สามารถที่จะกำจัดออกไปได้ อาจเรียกได้ว่าเป็น "ไขมันจอมดื้อ"แต่จะดีขึ้นได้หลังการดูดไขมัน
วิธีสังเกต: เมื่อใช้มือยกหรือดันก้นทั้งก้น แล้วเห็นว่ารอยริ้ว ๆ ที่เคยมีอยู่นั้นจะหายไป แบบนี้ไม่เรียก เซลลูไลท์
เพราะน้ำหนักที่ทำให้ ก้น และขา ห้อยลง จะยกขึ้นเนื่องจากมีไขมัน ทำให้โดนลากโดยแรงโน้มถ่วงของโลกนั่นเอง
ส่วนเซลลูไลท์ คือ มีองค์ประกอบของการเกิดเซลลูไลท์นั้นเกิดมาจาก ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังที่เราเรียกว่า Subcutaneous Fat Tissue เกาะตัวกันเป็นก้อนรวมถึงมีการดึงรั้งของพังผืด ใต้ผิวหนังจึงทำให้เราเห็นว่าผิวมีความไม่เรียบแล้วก็เป็นรอยบุ๋ม ขรุขระ อย่างที่เราเรียกว่าผิวเปลือกส้ม
ส่วนใหญ่แล้วบริเวณที่จะเกิดเซลลูไลท์ก็จะได้แก่บริเวณก้น สะโพก หรือบริเวณขา โดยที่พบว่า 80% ของคนที่เป็นเซลลูไลท์จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
ในการแบ่งระดับความรุนแรงของเซลลูไลท์
ก็สามารถแบ่งคร่าว ๆ ได้ 3 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 ก็คือเป็นเซลลูไลท์ที่ปกติแล้ว ถ้าเราดูผิวเผินก็ยังดูเรียบอยู่ แต่เมื่อใดที่เราจับผิวหรือบีบผิวขึ้นมาจะเห็นเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำนั่นก็คือระดับที่ 1
ระดับที่ 2 ระดับปานกลางระดับนี้ก็จะมีลักษณะที่มากกว่า ระดับแรกขึ้นมานิดหน่อยก็คือ จะเกิดเซลลูไลท์ให้เห็นได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้บีบผิวขึ้นมาแต่จะเป็นในบางอิริยาบท อย่างเช่น เวลาเรายืนขึ้น แต่เมื่อเรานอนลงหรือมีการผ่อนคลาย ผิวเปลือกส้มก็สามารถหายไปได้เอง
ส่วนในระดับสุดท้ายคือระดับที่ 3 เป็นระดับที่มีความรุนแรงเซลลูไลท์จะสามารถเห็นได้ในทุกอิริยาบทไม่ว่าเราจะยืน นอนหรือนั่ง
สาเหตุ
สำหรับสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ที่แท้จริง เราอาจจะไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากมีปัจจัยมากมายจริงๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์
แบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ ๆ เพื่อให้ทุกคนทำความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
ปัจจัยที่1: ฮอร์โมนที่มีผลต่อการเกิดเซลลูไลท์
ยกตัวอย่าง เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงประเภทชายนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไมร้อยละ 80 ของคนไข้ที่มีเซลลูไลท์นั้นจะเป็นเพศหญิง
ซึ่งในงานรีวิววิจัย Cellulite : an evidence-based review.เรื่อง เซลลูไลท์:จากการตรวจสอบตามหลักฐาน โดย Stefanie Luebberding ที่ก็พบว่า80-90% จะพบเซลลูไลท์เป็นภาวะปัจจัยที่มีอยู่ในผู้หญิงหลังวัยแรกรุ่น และยังเป็นปัญหาด้านความงาม
ที่แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทรีทเม้นท์รสเซลลูไลท์จะมีมากมายแต่ก็ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของตัวเลือกการรักษาที่มีอยู่ของเซลลูไลท์
ปัจจัยที่2: ฮอร์โมนอินซูลิน
ฮอร์โมนอินซูลินจะสัมพันธ์กับการบริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต
ซึ่งประกอบไปด้วยแป้ง ข้าว น้ำตาล อินซูลินมีผลต่อ fax Cell ดังนั้นเมื่อเราบริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น อินซูลินจะเพิ่มมากขึ้น และส่งผลทำให้fax Cellมีขนาดใหญ่ขึ้นดังนั้น เซลลูไลท์ก็จะแย่ลง
ปัจจัยที่3: พันธุกรรม
ในบางคนก็จะมีในเรื่องของพันธุกรรมที่ทำให้เป็นเซลลูไลท์ได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ อันนี้ก็จะเป็นปัจจัยภายในซึ่งเราอาจจะไม่สามารถคอนโทรลได้ปัจจัยสุดท้ายก็คือในเรื่องของไลฟ์สไตล์ซึ่งก็จะประกอบไปด้วยทั้งการบริโภค การออกกำลังกาย การพักผ่อนและความเครียด
เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุของเซลลูไลท์ได้เช่นกันหลังจากที่เราพอจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์กันแล้ว
"เซลลูไลท์จึงไม่ได้เกิดในคนอ้วนหรือในคนที่มีไขมันเสมอไปอาจจะเกิดในคนผอมก็ได้ เพราะรอยบุ๋มสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีถิ่นกำเนิดมาจากน้ำหนัก"
เรื่องของการดูแลและรักษาเซลลูไลท์
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเราไม่สามารถจะกำจัดเซลลูไลท์ไปได้ทั้งหมด 100% แต่เราสามารถดูแลให้เซลลูไลท์ดีขึ้นได้ดังนี้
อันดับแรก
-การบริโภค
อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตแป้งข้าวน้ำตาลจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้น
ดังนั้นจะขอแนะนำว่าการบริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเราควรบริโภคให้พอเหมาะไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้ฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มสูงขึ้นและเซลลูไลท์ก็จะแย่ลง
สำหรับคำแนะนำอีกอย่างในการที่จะลดฮอร์โมนอินซูลินนั่นก็คือการทำIntermittant Fasting Diet ก็จะสามารถช่วยควบคุมให้อินซูลินลดลงได้
-การดื่มน้ำ
เราควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 1.5-2 ลิตรในแต่ละวันก็จะช่วยทำให้เซลลูไลท์ดีขึ้นได้
-การออกกำลังกาย
อย่างที่เราทราบว่าถ้าเราอยากสุขภาพดีก็ควรจะออกกำลังกายให้เป็นประจำสม่ำเสมอใช่ไหม
เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรงขึ้นนั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย
ที่จะทำให้เซลลูไลท์ดีขึ้น รวมถึงการไหลเวียนโลหิตบริเวณใต้ผิวหนังที่ดีขึ้นจะทำให้การบวมน้ำลดลงเซลลูไลท์ก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน
-ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
เมื่อเกิดความเครียดขึ้นในร่างกายเราจะเกิดฮอร์โมน Cortisol สูงขึ้น
เมื่อฮอร์โมน Cortisol สูงขึ้นก็จะมีผลโดยตรงทั้งฮอร์โมนอินซูลินที่สูงขึ้นด้วยรวมถึง Growth Hormone ที่ลดลง
อันเป็นปัจจัยทำให้เซลลูไลท์นั้นแย่ลงด้วย
หากเราลดปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดรวมถึงการนอนหลับพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพให้เพียงพอด้วยเช่นกัน
คำถาม : เซลลูไลท์ พอจะใช้วิธีการดูดไขมัน เข้ามาช่วยได้ไหม?
คำตอบ : กระบวนการดูดไขมันไม่สามารถที่จะแก้ไขได้
หลายครั้งที่ได้มีการแก้ไข ผลปรากฏว่า
พังผืดกลับมาในตำแหน่งเดิม คล้ายมีการบาดเจ็บ เลยไปสร้างพังผืดมาใหม่เพื่อซ่อมแซม แล้วดึงใหม่ให้เกิดรอยบุ๋ม ทั้งนี้ทางการแพทย์พยายามหาวิธีการแก้ไขอยู่ เพื่อแก้ไขปัญหาพังผืดให้ไม่กลับมาเป็นอีก เนื่องจากยังเป็นวิธีการที่ยากอยู่
โดยปัจจุบันนี้ทางการแพทย์พยายามหาวิธีในการแก้ไข เซลลูไลท์แบบนี้เพื่อแก้ไขปัญหาพังผืดจากการดึงผิวจนบุ๋มลงไป
หนึ่งในวิธีที่คาดว่าจะช่วยแก้ไขได้ คือ การใช้อุปกรณ์ Vaser Smooth เข้าไปตัด ที่มีลักษณะคล้ายกับการดูดไขมัน เพียงแต่จะแตกต่างตรงที่ตัวอุปกรณ์ เมื่อพังผืดถูกตัดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะทำให้ เซลลูไลท์นี้ดีขึ้น
ทั้งนี้ก็ยังมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยเสริม ในการดูแลเรื่องของเซลลูไลท์ให้ดีขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุหรือ Radio Frequency โดยที่หลักการก็คือจะเป็นตัวช่วยในการไหลเวียนของเลือด ลดการบวมน้ำอันเป็นปัจจัยที่ทำให้เซลลูไลท์ที่เกิดดูดีขึ้นได้เช่นกัน
ดังนั้นแพทย์มักจะให้ความสำคัญต่อการรักษา การรักษาได้กับการรักษาแล้วได้ผลที่ดี นั่นต่างกัน การรักษาที่ได้ผลที่ดี คือ การรักษาที่ต้องไม่กลับคืนมาด้วย เพราะบางรายทำ3-4สัปดาห์ แล้วก็พบว่ามีปัญหาของการกลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งเสี่ยงต่อการเจ็บตัว อันตรายจากการผ่าตัดแล้วไม่ได้อะไรยังเสียเงินด้วย นี่ไม่ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้ผล
Reference
1.Luebberding S, Krueger N, Sadick NS. Cellulite: an evidence-based review. Am J Clin Dermatol. 2015 Aug;16 (4) :243-256. doi: 10.1007/s40257-015-0129-5. PMID: 25940753.
2.Alizadeh Z, Halabchi F, et al. “Review of the mechanisms and effects of noninvasive body contouring devices on cellulite and subcutaneous fat.” Int J Endocrinol Metab. Epub ahead of publication Jul 3, 2016.
Apex Profound Beauty
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
How to เคล็ดลับคนตัวหอม หอมละมุนจนคนอยากอยู่ใกล้!
การเลือกลิปสติกในหน้าหนาว
ขอเปะเป็นคำถาม-คำตอบยอดฮิตที่บ่อยมาก ๆ ถ้าต้องเจอในช่วงนี้เกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
🚍 “รถเมล์ครีมน้ำเงิน สาย 11” บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ – บรรยากาศกรุงเทพฯ ยุค พ.ศ. 2534 ที่ยังไม่เคยเลือนหาย