เปิดประสบการณ์ช่วยนก รอด หรือ ร่วง
เปิดประสบการณ์ช่วยนก รอด หรือ ร่วง
สวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีประสบการณ์ที่สุดแสนจะน่ารัก(หรือเปล่า) มาเล่าให้ฟัง เนื่องด้วยช่วงนี้ก่อนที่พายุจะเข้าลมจะแรงมาก ทำให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ส่วนมากก็เดือดร้อนกัน ขนาดคนเองยังต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด
ด้วยเหตุนี้ ที่บ้านผู้เขียนก็มีต้นไม้น้อยใหญ่ปะปนกันไป ขณะที่ผู้เขียนกำลังเดินวนรอบตัวบ้าน ก็ได้เจอกับนกตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหายใจแบบถี่ๆ ผู้เขียนจึงได้ทำการเก็บเจ้านกตัวนั้นขึ้นมา เพื่อสังเกตอาการ และคิดว่ามันต้องเป็นอะไรสักอย่างซึ่งเราไม่รู้ แต่ก็อยากช่วย และคาดเดาไปเองว่านี่น่าจะเป็นนกกระจิบ
จากนั้นผู้เขียนก็นำเจ้านกตัวนั้นเข้ามาในบ้าน เพื่อที่จะได้ให้ความอบอุ่น แอบหยอดน้ำลงไปในปากเจ้านกด้วยสองหยด จากการหาข้อมูล เขาแนะนำว่าการที่คิดจะเลี้ยงสัตว์ที่ตกจากรังนั้นควรเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ถ้าจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงจริงๆ ก็ให้นำตัวนกมาห่อด้วยทิชชู่ หรือกระดาษลัง ซึ่งผู้เขียนก็ทำตามนะ
การดูแลนก
เริ่มจากการให้อาหารนก เราควรจำแนกชนิดนกให้ได้ก่อนว่าเป็นนกอะไร เพื่อจะได้เลือกชนิดอาหารให้ถูกต้องและป้อนเมื่อลูกนกร้องขออาหาร ปกติลูกนกจะร้องและอ้าปากขออาหาร หากไม่ร้องหรืออ้าปากขออาจเป็นไปได้ว่ายังไม่หิวหรือป่วย
ข้อควรระวังคือไม่ควรให้อาหารเด็กประเภท “ซีรีแลกซ์” หรือ “นม” เพราะนกไม่มีเอนไซม์สำหรับย่อยโปรตีนในนม นมจึงอาจทำให้นกท้องเสียได้ และพวกอาหารประเภทนี้โปรตีนค่อนข้างต่ำมาก ในขณะที่ลูกนกต้องการโปรตีนสูงกว่านั้น ส่วนอาหารสำเร็จรูปของนกที่วางขายกันนั้นก็ใช้ได้กับนกบางชนิดเท่านั้น แต่หากลูกนกแข็งแรงดีก็ลองฝึกให้จิกกินอาหารจากช้อนได้ ที่สำคัญไม่ควรป้อนน้ำลูกนกเพราะเหมือนเป็นการบังคับทำให้สำลักน้ำเข้าทางเดินหายใจได้ ลูกนกมักจะได้น้ำจากอาหารอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดอยากป้อนน้ำควรให้ลูกนกจิบน้ำเองค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ มีเพื่อนๆ คนไหนเคยช่วยนกที่ตกมาจากรังเหมือนกันบ้าง สุดท้ายแล้วน้องรอดหรือไม่รอดคะ ทางนี้แอบคิดว่าคงจะไม่รอด เพราะตัวเองไม่เคยเลี้ยงมาก่อน แต่ก็จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ (แกคงซวยจริงๆ ที่มาตกในบ้านฉันเนี่ย เจ้านก ฮ่าฮ่า)