Sexual Harassment เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร
อาการ "ตกหลุม" วันนี้ ได้ขออนุญาตน้องที่รู้จักคนหนึ่ง ที่เคยมาปรึกษา และได้ทำการ Healing กันไปจนอาการดีขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาให้กับสมาชิกกัน
น้องคนนี้เป็นผู้หญิง หน้าตาน่ารัก ทำอาชีพเป็นเซลล์ น้องมีแฟนแล้ว กรณีของน้องคือ น้องโดน "sexual harassment" หรือ ถูกคุกคามทางเพศ จากหัวหน้างานของน้องเอง จนน้องต้องเป็นภาวะซึมเศร้า ถึงขนาดต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ และต้องรับยาในที่สุด
น้องเล่าว่า หัวหน้างานของน้องเป็นผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีฐานะดี แต่งตัวดี เริ่มแรกที่น้องโดนกระทำคือ น้องไปออกไปพบลูกค้ากับหัวหน้างาน โดยที่หัวหน้างานแจ้งว่าให้ไปรถคันเดียวกัน จะได้สะดวก ส่วนตัวของน้องไม่ได้คิดอะไรจึงไปกับหัวหน้า แต่พอขึ้นนั่งรถแล้ว หัวหน้าทำตัวเหมือนพระเอกหนัง คือเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับน้อง โดยที่แขนโดนหน้าอกของน้อง แล้วก็หันมองหน้าน้อง โดยที่ไม่มีการกล่าวคำขอโทษใดๆ เลย ซึ่งตัวน้องเองไม่ได้อยากมีปัญหา และคิดว่าคงเกิดจากความไม่ตั้งใจ น้องจึงไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่ได้โวยวาย
หลังจากนั้น น้องก็ต้องเดินทางไปพบลูกค้าที่ต่างจังหวัดกับหัวหน้าที่จังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ครั้งนี้ต้องขึ้นเครื่องกันไป 2 คน น้องก็คิดว่าคงจะปลอดภัยแล้วในระดับหนึ่ง เพราะไม่ต้องนั่งรถไปกันสองต่อสอง แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หัวหน้างานของน้องโทรแจ้งโรงแรมขออัพเกรดห้อง เป็นห้อง Connecting Room (ห้องที่มีประตูเชื่อมหากันได้) ซึ่งน้องก็เอ๊ะใจในวินาทีแรกที่ไปถึง แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ได้แต่ระวังตัวเอง คอยล็อคประตู และเอากระเป๋ามาบังประตูไว้เพื่อไม่ให้เปิดประตูเข้ามาหาน้องได้
ในช่วงที่ลงไปกินข้าวก่อนที่จะพบลูกค้า น้องเล่าให้ฟังว่า มีบทสนทนาอยู่ช่วงหนึ่ง ได้คุยกันเรื่องสัพเพเหระ เกี่ยวกับเรื่องแฟน เรื่องครอบครัว เรื่องการคบหากับแฟน และมีประโยคหนึ่งที่ทำให้น้องต้องตัดบทการสนทนา นั่นคือ หัวหน้างานของน้องบอกกับน้องว่า "ผมทำหมันแล้ว" ด้วยความที่หัวหน้างานผู้ชายกับลูกน้องผู้หญิงเดินทางต่างจังหวัด 2 คน และพักห้องที่เป็น Connecting Room ด้วยแล้ว และยังมีการพูดด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม น้องจึงยิ่งต้องระแวงและคิดหนักมาก น้องเล่าว่าตลอดทริปที่ไปหาลูกค้า 2 คืนที่นอนโรงแรม น้องนอนไม่เคยหลับเลยแม้แต่คืนเดียว คอยระแวงตลอดว่าประตูจะถูกเปิดมาตอนไหน แม้ว่าน้องจะทำทุกทางในการป้องกันตัวเองแล้ว
หลังจากที่น้องไม่มีท่าทีเล่นด้วยกับหัวหน้างาน หัวหน้างานคนนี้ก็พยายามกลั่นแกล้งน้องตลอดด้วยการนำเรื่องยอดขายมาบีบบังคับน้อง ทั้งกดดัน หรือแม้กระทั่งการเรียกเข้าห้องไปคุยกันสองต่อสอง แล้วได้เอาแขนมาถูกับแขนน้องนั้น น้องจีงทำให้รู้สึกว่า น้องไม่ปลอดภัย สถานที่ทำงานไม่ใช่เซฟโซน ไม่ใช่บ้านหลังที่สองที่ปลอดภัยอีกต่อไป น้องคิดมากจนถึงขนาดเริ่มนอนไม่หลับ ปวดหัวตลอดเวลา จากปวดหัวธรรมดาก็กลายเป็นไมเกรน จากวันเป็นเดือน จนน้องทนอาการแบบนี้ไม่ไหวจึงไปหาหมอ และหมอก็ส่งน้องไปแผนกจิตเวช หมอจึงบอกกับน้องว่า อาการของน้องคืออาการของโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้น คุณหมอจึงเริ่มให้น้องทานยา
จากนั้นทางแอดมินมีโอกาสได้พบน้อง น้องจึงมาเล่าเรื่องราวให้ฟัง แอดมินเห็นว่าเคสแบบนี้ต้องทำการ Healing เป็นการด่วน จึงพูดคุยกับน้องประมาณ 2 ชั่วโมง จนน้องมีอาการดีขึ้น หาทางออกให้กับชีวิตได้ดีขึ้น สามารถมีสติ และรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามาต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่ยังต้องทานยาที่หมอสั่งควบคู่กันไปด้วย ปัจจุบันนี้เวลาผ่านมาประมาณ 3 เดือนแล้ว น้องได้มีการติดต่อกลับมาหาแอดมินแจ้งว่า น้องอาการดีขึ้นมา นอนหลับเป็นปกติ อาการปวดหัวก็ดีขึ้นมาก กินข้าวได้แล้ว ไม่ค่อยเครียดเหมือนเดิมอีกแล้ว และน้องได้ลาออกจากที่ทำงานเดิมเรียบร้อยแล้ว
หากคุณสงสัย หรือมีอาการที่คิดว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า หรือเป็นโรคซึมเศร้า หาทางออกไม่ได้ ปรึกษาใครไม่ได้ ลองติดต่อมาหาเรา ลองมาพูดคุยกับเรา ทุกอย่างของคุณก่อนจะเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่น จะต้องได้รับการอนุญาตจากคุณก่อนแน่นอน...ด้วยความห่วงใย
หากคุณไม่มีใคร...คุณยังมีเรา
Healing Heart
ภาพโดย: Freepik.com
สามารถติดตามเพจได้ที่นี่นะ ==>> https://www.facebook.com/thehealingatheart/