หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ปราสาทสิกิริยา(ศรีลังกา) ที่ถูกทิ้งร้าง!!

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

ปราสาทสิกิริยา(ศรีลังกา) ที่ถูกทิ้งร้าง
Sigiriya เรียกอีกอย่างว่า Lion Rock ศิลาสิงห์โต หรือ Lion Mountain ภูสิงห์ เดิมเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ภูผี ภูเทวดา ภูพราหมณ์ ก่อนพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ และเป็นศาสนสถานทางศาสนาพุทธ ก่อนที่กษัตริย์จะฮุบ/เข้ายึดครอง สร้างวัง/สร้างเมืองสิกิริยา ที่มีชื่อเสียงด้านซากปรักหักพังของพระราชวังบนยอดหินสูง 180 เมตรที่รายล้อมไปด้วยซากปรักหักพัง ของ สวน อ่างเก็บน้ำ/พัง/สระพัง/บาราย และโครงสร้างอื่นๆ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 5


แหล่งน้ำบนนี้มาจากน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ช่างก่อสร้างจึงสร้างที่กักเก็บน้ำ/พัง/สระพัง/บาราย เป็นขั้นบันไดจากที่สูงลงไปที่ต่ำกว่า พร้อมระบบท่อน้ำ แบบค่อย ๆ ลดระดับลงมา ใช้หลักแรงโน้มถ่วง มีจุดพักน้ำ/ช่องเปิดให้เป็นน้ำพุ เพื่อลดแรงดันน้ำ ทำเป็นนำ้พุ เพื่อกันท่อแตก/พัง ก่อนไหลลงทึ่กักเก็บน้ำ/พัง/สระพัง/บาราย ที่สร้างเป็นรูปขั้นบันได น้ำส่วนเกินก็ระบายให้ไหลลงด้านล่างภูเขา มีพัง/สระพัง/บารายเฉพาะของกษัตริย์ ป้องกันการวางยาพิษ/ลอบปลงพระชนม์
******************************
กษัตริย์สิงหลที่ 1 แห่งแคว้นสิงหล (ครองราชย์ ในปี ค.ศ. 477–495) ได้สร้างวัง/สิงห์โตขนาดมหึมา บนพื้นที่หลายไร่บนยอดเขา เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันศัตรู อย่างไรก็ตาม กษัตริย์พ่ายแพ้ในปี ค.ศ. 495 (บางตำนานว่าถูกทหารล้อมทางขึ้นเขา ไม่ให้มีคนขนส่งเสบียงอาหารขึ้นไปให้ จนอดอาหารตาย)
เมืองหลวง/พระราชวังถูกละทิ้ง หลังจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ ต่อมา สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่แสวงบุญ และปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ผู้เยี่ยมชมเริ่มต้นการขึ้นสู่ยอดเขา ผ่านอุ้งเท้าของสิงห์โต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งของพระราชวังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ และยังมีภาพเขียนหินอัปสราจำนวน 21 ภาพ (นักร้องและนักเต้นจากสวรรค์)
ปราสาทสิกิริยาได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1982
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
น้ำที่นี่คงไม่ขาดแคลนมาก เพราะศรีลังกา ติดทะเลล้อมรอบ จึงมีมรสุม/ร่องฝนผ่านเป็นประจำ แบบปักษ์ใต้ จะมีฝนตกทุกเดือน มากบ้างน้อยบ้าง ถ้าระนองก็ฝนแปด แดดสี่ (แบบเดา/นับจำนวนวันที่ฝนไม่ตก)
จังหวัดสงขลา มีพังที่จะทิ้งพระ มีพังสนามชัยใหญ่ที่สุดในภาคใต้ อยู่ใกล้กับวัดพะโคะ/ถ้ำคูหา ต้นกำเนิดหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ พื้นที่แถบบก (ระโนฎ/จะทิ้งพระ/หัวไทร) แผ่นดินงอกทับพื้นที่ทะเล ที่นี่ พื้นที่ส่วนใหญ่ ถ้าขุดบ่อลึกเกินกว่า 10-20 เมตร น้ำจะเน่าเหม็นแบบกลิ่นหญ้าเน่า/สาบโคลนมาก เพราะด้านล่างคาดว่าเป็นพืชน้ำ ที่ถูกแผ่นดินงอกลงมาทับถม ที่นี้จึงต้องสร้างพังเก็บน้ำ หรือใช้วิธีขุดบ่อน้ำตื้นไม่เกิน 2-5 เมตร เพื่อใช้น้ำกินน้ำใช้ มีพังราว 200 กว่าแห่งในภาคใต้ ตามงานวิจัยของมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย บางแห่งก็ถูกชาวบ้านถมทิ้ง/ทำไร่นา/สร้างบ้านไปแล้ว
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
สมัยพระนารายณ์มหาราช มีการว่าจ้างวิศวกรฝรั่งเศส/ดัชต์ ในการสร้างวังที่ลพบุรี (ตอนนี้ฝูงลิงเข้าไปอยู่เป็นจำนวนมาก) เพื่อหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงจากกลุ่มขุนนางเก่า กับป้องกันการรัฐประหาร มีการว่าจ้างทหารรับจ้างชาวต่างชาติคุ้มกันจำนวนหนึ่ง เพราะไม่ไว้ใจทหารสยาม (แต่ทหารรับจ้างรบเพื่อเงิน ไม่ใช่รบเพื่อนายหรือยอมตายแทนนาย ในวันสุดท้ายที่พระเพทราชาก่อการรัฐประหาร จึงสวรรคตแบบเดียวดาย) มีในบันทึกของฝรั่งเศส
ในเมืองลพบุรี มีการสร้างระบบประปาที่นำน้ำจากแหล่งน้ำ 2 แหล่ง คือ ทะเลสาบชุบศร มีประตูปากน้ำจั่น กับ ห้วยซับเหล็ก ทึ่บีบช่องเขาทำลำราง/ฝาย บังคับให้น้ำไหลผ่านเข้าท่อประปาดินเผา มีลักษณะเป็นท่อวงกลมทรงกระบอก ปลายด้านหนึ่งมีส่วนคอนเล็กลงกว่าปลายอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้สวมกันเป็นท่อยาวได้ มีความหนาประมาณ 4 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางท่อกว้างประมาณ 26 เซนติเมตร มีความยาวแต่ละท่อประมาณ 48 เซนติเมตร เมื่อเรียงสวมต่อกันแล้วจะเชื่อมหุ้มรอยต่อระหว่างท่อ ป้องกันการรั่วของน้ำด้วยปูนผสมหิน
ระหว่างเส้นทางแนวท่อน้ำเข้าสู่เมืองลพบุรี มีการสร้างท่อ (ปล่อง) ระบายความดันของน้ำไว้เป็นระยะ ๆ เพื่อใช้เป็นจุดผ่อนคลายแรงดันของน้ำในฤดูที่มีน้ำมาก กระแสน้ำไหลแรง ป้องกันมิให้แรงน้ำสูงมากเกินไป จนเกินกำลังรับน้ำของท่อน้ำดินเผาที่ทำให้ท่อแตกได้ และจุดนี้มักจะมีน้ำพุ ถ้าตกแต่งดีดี สร้างความสวยงาม/บันเทิงอารมณ์ได้ แบบน้ำพุในกรุงโรม กับ หลายประเทศในยุโรป ก็ใช้การชักน้ำจากแหล่งน้ำนอกเมือง ตามแม่น้ำ ลำคลอง กับระบบท่อประปา ที่มักจะมีน้ำพุ (ป้องกันท่อแตก) เข้ามาใช้ในเมือง กับตามบ้านเรือน
ประปา แปลว่า น้ำ/ระบบน้ำ เป็นคำภาษาสันสกฤตโบราณ อาจารย์ภาควิชาสันสกฤต มหาวิทยาลัยในอินเดีย ท่านหนึ่ง บอกว่าเป็นปลื้มกับดีใจมาก ที่เมืองไทยยังใช้คำนี้ในภาษาไทย และคงจะดีใจมาก ถ้ารู้ว่า เขมรยังไม่เคลมว่าเป็นภาษาเขมร

โพสท์โดย: พระบิดา
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/100042409957890/posts/pfbid02tYkRfjCzVBew1ybnwULcFp9GRAJdfCNEq12f4vxP2F7ZTfkNCAxZnzomFceqLX6dl/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: เป็ดปักกิ่ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"รักเมียต้องจัดให้! หนุ่มจีนศัลยกรรมตาเลียนแบบพระเอกดัง ผลลัพธ์สุดปัง""อบอุ่นไม่เปลี่ยน! เบิร์ด ธงไชย จากวันวานอุ้มรุ่นพ่อ สู่วันนี้อุ้มรุ่นลูก"ฟิล์ม ถูกกล่าวหาหลอกผู้เสียหาย ลงทุนน้ำมัน พบผู้เสียหายหลายร้อยคน มูลค่ารวมเกือบ 800 ล้านเพนตากอนรายงาน "UFO เกือบชนเครื่องบินโดยสาร!"เลขมงคล ท่านผู้หญิงอรอนงค์ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานย้อนคำทำนาย "หมอปลาย" เคยเตือนเรื่องชฎา ก่อนเหตุการณ์หลุดกลางเวที Miss Universe 202410 อันดับเลข ยอดฮิต หวยแม่จำเนียร 16/11/67เจ้าหญิงยูริโกะของญี่ปุ่น สิ้นพระชนม์แล้วราคาทองร่วงหนัก"ว่าที่บ่าวสาว แม็ค-วิว เปิดบ้านสุดอบอุ่นที่แคนาดา พร้อมโมเมนต์สุดพิเศษ""ทรัมป์" แต่งตั้งนักต่อต้านวัคซีน คุมกระทรวงสาธารณสุขยืนยัน กฤษอนงค์-ฟีล์ม รัฐภูมิ ผิดจริง?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ลอยกระทงดิจิทัล 2567: สืบสานประเพณีไทยวิถีใหม่ รักษ์สิ่งแวดล้อมแบบทันสมัยดวงประจำสัปดาห์ 18-24 พ.ย. 67 by ภูริดา พยากรณ์เลขมงคล ท่านผู้หญิงอรอนงค์ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน
ประโยชน์ของชาเขียวโครงการช่วยเหลือให้เกิดสภาพคล่องของเศรษฐกิจรู้หรือไม่? แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้ข้อมูลอะไรหลอกลวงคุณแผนที่ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรปอายุ 4,000 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่