คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
คอมเพรสเซอร์หรือคอมแอร์ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทำความเย็นที่มีความสำคัญต่อระบบทำความเย็นและปรับอากาศเป็นอย่างมาก บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่องคอมเพรสเซอร์เบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็น การทํางานของคอมเพรสเซอร์ หรือประเภทของ Compressor ที่นิยม เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจการทำงานของอุปกรณ์หลักในระบบทำความเย็นกันมากขึ้นไป
Compressor (คอมเพรสเซอร์) คืออะไร
คอมเพรสเซอร์ (compressor) หรือเครื่องอัดไอ ทำหน้าที่ในการดูดสารทำความเย็นที่อยู่ในสถานะแก๊สความดันต่ำ ที่มีอุณหภูมิต่ำจากอีวาพอเรเตอร์เข้ามา และทำการอัดแก๊สนี้ให้มีความดันสูงและมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น จากนั้นจะส่งเข้าไปยังคอนเดนเซอร์เพื่อกลั่นตัวเป็นของเหลวผ่านการระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็นอีกทีหนึ่ง
การทํางานของคอมเพรสเซอร์มีการแบ่งความดันในระบบเป็น 2 รูปแบบ คือ ด้านความดันสูงและด้านความดันต่ำ ซึ่งครอบคลุมทั้งการดูดและอัดสารทำความเย็น อีกหนึ่งความรู้เรื่องคอมเพรสเซอร์ที่ควรระวัง คือ การถูกออกแบบมาให้ดูดอัดสารทำความเย็นในสถานะก๊าซเท่านั้น หากเกิดการดูดอัดในสถานะของเหลวอาจทำให้ Compressor เกิดความเสียหายได้
ความสำคัญของ คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
คอมเพรสเซอร์ (compressor) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อระบบทำความเย็นและปรับอากาศเป็นอย่างมาก เนื่องจากการทํางานของคอมเพรสเซอร์คือการดูดและอัดสารทำความเย็นในสถานะแก๊ส ที่จะทำให้เกิดความเย็นขึ้น รวมถึงทำให้เกิดการหมุนเวียนความเย็นภายในระบบเช่นกัน
เมื่อ Compressor เริ่มทำงาน จะเกิดการส่งสารทำความเย็นที่อยู่ในสถานะก๊าซแรงดันสูงภายในระบบ เมื่อสารทำความเย็นผ่านการคายความร้อนแล้ว จากนั้นจะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวเย็นและระเหยตามลำดับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าไปสู่บริเวณที่ต้องการทำความเย็น จะเห็นได้ว่าคอมเพรสเซอร์เป็นอุปกรณ์ที่นับเป็นหัวใจสำคัญในระบบทำความเย็นอีกหนึ่งชนิดก็ว่าได้
ประเภทของ คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
ประเภทของคอมเพรสเซอร์ (compressor) จากการทํางานของคอมเพรสเซอร์ผ่านการอัดที่ได้รับความนิยมนำมาใช้งานเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สามารถจำแนกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
The Rotary-Screw Compressor (แบบสกรูโรตารี่)
คอมเพรสเซอร์แบบสกรูโรตารี่ (The Rotary-Screw Compressor) เป็นการดูดอัดสารทำความเย็นในสถานะแก๊สผ่านการใช้งานสกรู 2 ตัว คือ สกรูตัวเมีย (Female Rotor) และสกรูตัวผู้ (Male Rotor) ที่นำมาขบกัน ในขณะที่สกรูถูกหมุนจะเกิดการดูดสารทำความเย็นเข้าเก็บและอัดออกทางด้านปลายของสกรูทั้งสองข้าง จากนั้นสารทำความเย็นจะถูกส่งออกทางด้านอัดของคอมเพรสเซอร์ต่อไป
The Reciprocating Compressor (แบบลูกสูบ)
คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ (The Reciprocating Compressor) เป็นการอาศัยการทำงานของเพลาข้อเหวี่ยงที่จะทำให้เกิดการดูดและอัดสารทำความเย็น ซึ่งลูกสูบหนึ่งจะเคลื่อนที่ลงในจังหวะดูดและอีกลูกสูบหนึ่งจะเคลื่อนที่ขึ้นในจังหวะอัดในลักษณะเส้นตรงภายในกระบอกสูบ
สารทำความเย็นที่ผ่านการดูดและอัดจากคอมเพรสเซอร์จะถูกเก็บไว้ภายในกระบอกสูบ เมื่อกระบอกสูบเลื่อนขึ้นความดันสูงจะดันให้ลิ้นเปิด จากนั้นสารทำความเย็นจะไหลออกเพื่อไปยังส่งไปยังคอนเดนเซอร์ เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ความเย็นต่อไป
The Rotary-Vane Compressor (แบบโรตารี่เวน)
คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่เวน (The Rotary-Vane Compressor) เป็นการดูดและอัดสารทำความเย็นในสถานะแก๊สโดยอาศัยการกวาดตัวตามแกนโรเตอร์ (Rotor) ซึ่งมีข้อจำกัดในการทำงาน คือ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับระบบเครื่องทำความเย็นขนาดเล็กไม่เกิน 1-2 ตัน เท่านั้น
ด้วยข้อจำกัดการทำงานทำให้ Compressor ชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ จึงนิยมใช้งานในคอมเพรสเซอร์ตู้เย็น หรือคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน ที่ใช้ฟินคอยล์ในการระบายความร้อน ที่มีขนาดไม่เกิน 36,000 BTU
The Centrifugal Compressor (แบบหมุนเหวี่ยง)
คอมเพรสเซอร์แบบหมุนเหวี่ยง (The Centrifugal Compressor) เป็นการทำงานแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ที่จะดูดสารทำความเย็นในสถานะแก๊สเข้ามาใกล้กับแกนกลางของคอมเพรสเซอร์ และเกิดการอัดตัวจากการเหวี่ยงตัวด้วยตัวใบพัดซึ่งทำให้เกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugal force)
เครื่องอัดไอชนิดนี้จะให้ความแตกต่างแรงดันของสารทำความเย็นที่ถูกดูดเข้าและถูกอัดออกไม่มาก ดังนั้นเพื่อให้ได้แรงดันที่สูงขึ้นจึงทำการส่งต่อแก๊สที่ถูกเหวี่ยงอัดตัวและเข้าไปเหวี่ยงอัดตัวในช่วงต่อไป การต่อวงจรคอมเพรสเซอร์ชนิดนี้จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ ที่มีขนาดตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป
คอมเพรสเซอร์ (Compressor) สรุป
คอมเพรสเซอร์หนึ่งในอุปกรณ์ที่นอกจากจะมีกระบวนการทำงานที่สำคัญต่อระบบทำความเย็นแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญจากการดูดและอัดสารทำความเย็นที่จะทำให้เกิดการหมุนเวียนความเย็นในระบบขึ้นเช่นกัน จึงนับได้ว่า Compressor เป็นหัวใจหลักของระบบทำความเย็นและปรับอากาศก็ว่าได้
ในปัจจุบัน Compressor มีหลากหลายประเภทให้เลือกสรร การเลือกขนาดคอมเพรสเซอร์แอร์ที่เหมาะสมตามขนาดของระบบทำความเย็นจะทำให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้การเลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้ามีคุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคา และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน