บวงสรวงเปิดกล้องละครวรรณกรรมธรรมะ “ระบำนาคี”

 

 

“แคทรียา อิงลิช” รับบทนางรำพ่อปู่พญานาคครั้งแรก
หลังจากประสบความเร็จกับผลงานด้านละครสร้างสรรค์ อาทิ เมนูลับฉบับวังนาคี,บุพเพนาคราช,เรือนนครา และพระคุณแม่ผู้ยิ่งใหญ่ ล่าสุด “มหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่น” โดย 2 ผู้บริหาร ดร.ณรามิล วิชณุซัน คุ้มรักษ์ กับ รัชดาภรณ์ เกตุเทศ (อี๊ด ชบาแก้ว)

 

 

ได้ฤกษ์บวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่องใหม่แนววรรณกรรมธรรมะเรื่อง “ระบำนาคี” ณ ปรัมพิธี วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 15.30 น. ซึ่งมี ดร.ประกาย ณ สงขลา ประธานสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียนและคณะ ประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงละครในครั้งนี้ ซึ่งละครจะออกอากาศทางช่อง 9 MCOT HD30 ในวันที่ 17,18 และ 24 ตุลาคม 2565
โดยมีนักแสดงนำ แคทรียา อิงลิช กับบท “รัตนา” นางรำพ่อปู่พญานาคครั้งแรก ผู้ออกทยานคำลาปจึงบังเกิดขึ้น พร้อมด้วยทีมนักแสดง ไวท์-กุลธวัช บัวเจริญ , น้องแพรไหม-ศิวาพัชญ์ เบญจไตรพัฒน์ , กานต์-ทัศนศักดิ์ ถนอมสิทธิ์ , รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์ (ป้าแมวดาวพระศุกร์), ฟิลิป นักมายากล , ดร.ประกาย ณ สงขลา , รัชดาภรณ์ เกตุเทศ (อี๊ด ชบาแก้ว), ฮากีม ดลภาวิจิต , มหาเทพ ธเนศภัทรกุล , ภัทริยา สุวรรณนุรักษ์ น้องชินบี ,น้องเพลง, อาจารย์จุฑามาศ ณ สงขลา , จ่าสิบตำรวจลิขิต แก้วโยธา , ดร.อโณทัย ดวงดารา , น้องใบเพรา ภัทร์รวี , สุรีย์พร หาญรักษ์ , อชิรญา หนองใหญ่ , จณิษตา วะลัยพันธ์ , น้องฮีโร่-เมธาสิทธิ์ จารุธธีรัชพงค์ , น้องมายด์-ณัฐิดา มั่นยืน , กันตา ยศรุ่งโรจน์ , น้องชาเม่-ฐิรญา เชาวนะ , จิรัชย์ชา ขวาแซ้น , พรรณนภัส สว่างวัน , ณัฎฐากร นิยมกูล , แสงแข เพชรล้อม , ปุณิกา เพ็ญสุวรรณ , มาทิชา เศวตภาธรย์ , สุรดี นิลเอวะ , ลลิตา เฉลิมวงษ์ , มณีรัตน์ ศรีวิบูลย์ , จีระนันท์ พ้องเสียง , พิมพ์ณดา พิชญาจิระพงศ์ , กุมารี แก้วน้ำทิพย์ , ณัชชา มั่นยืน และ สุรีรัตน์ หาญรักษ์

 

 

สำหรับละครเรื่องระบำนาคี บทประพันธ์โดย ดร.ซัน มหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่น ซึ่งมีเรื่องย่อคือ เป็นเรื่องเล่าจากแม่ชีผู้ทรงศีลกับหนูน้อยที่เดินหลงทางเข้ามาในวัดด้านหลังกุฏิ ซึ่งรัตนาหญิงสาวหน้าสวย ผู้มาจำศีลหลังกุฏิ เทอคือ นางรำศาลพ่อปู่นาคี ผู้เคยขอพรพ่อปู่เพื่อให้แม่ หายป่วย เทอคือ นางรำที่พ่อปู่พญานาคหวงมาก
แม่ของรัตนามีพี่สาวที่เคยแท้งลูก และฝันถึงเด็กผู้หญิง ที่มาเดินตาม เพื่อคอยบอกถึงโชค และ ลางร้าย บอกเหตุ รัตนามีแฟนเป็นทหารชั้นผู้น้อย ทุกเดือนเธอจะมีปัญหาเรื่อง ค่าเช่าบ้าน ค่าจิปาถะ ตลอดจนทำให้มีปากเสียงกับประวิทย์เสมอ เธออยากไปรำที่ต่างประเทศ แต่ไม่มีเงินไป จากนั้นเธอฝันเห็นเด็กสาว มาให้โชค แล้วถูกล็อตเตอรี่เลขท้าย 2 ตัว จำนวน 5 ใบ จึงรวบรวมเงินเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
เธอพบกับเสี่ยที่มาชอบเธอ ที่ร้านอาหารในกรุงเทพฯ ที่เธอมารำและเป็นผู้ช่วยนักมายากล อยู่ที่นี่ เธอดื่มมากไปแล้วเห็นเงาเด็กในร่างพี่สาวมาเตือนว่าอย่าดื่ม
ทั้งนี้เธอมาเจอนักมายากลระดับโลกอย่าง ฟิลิป ได้ใช้มายากลในการเล่น เสกนก เสกของที่เธออยากได้ และได้เผลอไปจับตัวเธอ หน้าฟิลิ กลายเป็นสีเขียวคล้ำ ในวันนั้นวันรุ่งขึ้นฟิลิปได้เสียชีวิตลงอย่างปริศนา โดยมีรอยคล้ำสีดำบนคอ รัตนาได้ทราบข่าวจึงรีบหนีออกมาจากที่ร้านอาหารแห่งนั้น ซึ่งเกือบถูกรถชนจากผู้กองราเมศ เหมือนอุบัติรัก เธอขึ้นรถไปกับผู้กองเพื่อพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลและเข้าไปพักรักษาตัว ขากลับผู้กองได้อุ้มเธอและเผลอไปแตะต้องตัวเธอ ทำให้อาถรรพ์พ่อปู่พญานาคหน้าศาลที่เธอต้องมนต์ขับรถผ่านขึ้นมาบนรถด้วย เธอมองไปที่กระจกเงารถ ด้วยความตกใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร ทันใดนั้น หน้าของผู้กองก็เริ่มเขียวคล้ำลงจากรถ เดินได้ไม่ถึง 5 ก้าว ก็เป็นลมเสียชีวิตโดยมีใบหน้าหน้าเขียว กระทั่งเธอรีบขึ้นรถแท็กซี่หนี ไปด้วยความกลัว
วันรุ่งขึ้นมีคนจ้างให้เธอมารำแก้บนพญานาค แต่ในงานทุกคนกลับเห็นเป็นเด็กน้อยมารำที่ศาล สร้างความตกใจให้กับทุกคนยิ่งนัก

 

 

วันหนึ่งเธอไปดูดวงหมอดูทักว่า เธอผิดต่อพ่อปู่ ผิดต่อคำสาบาน ควรรีบกลับไปถือศีล โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น แม่โทร.มาว่า แม่หายใจไม่ค่อยออก ให้รีบกลับมาหาแม่ด่วน เธอจึงรีบกลับบ้านไป เอาพวงมาลัยไปขอโทษแม่ ทันใดนั้นอาการป่วยแม่ก็หายทันใด กลิ่นธูป กลิ่นดอกไม้ หอมตลบทั้งห้อง รัตนาร้องไห้ บอกต่อไปจะไม่ผิดคำสาบานพ่อปู่
พ่อปู่ปรากฏตัวขึ้น เธอกราบพ่อปู่ ภาพเธอมารำ ต่อหน้าศาลพ่อปู่ ต่อมาศักดิเทพมาทำบุญที่ศาลแห่งนี้ พร้อมเล่าข่าวดีว่า ขายที่มรดกได้เงินมา 10 ล้านบาท จะมาขอสู่ขอรัตนา เธอบอกว่าให้ขอพ่อปู่พญานาคก่อน ว่าอนุญาตไหม แต่จะรับรำแก้บนที่นี่เหมือนเดิม
แล้วเธอได้ตัดสินใจขอบวชชี ที่นี่ 3 เดือน เพื่ออุทิศบารมีให้พ่อปู่พญานาค และ พี่สาวที่เคยแท้งลูกที่คอยช่วยเหลือ เธอกวาดพื้นลาดวัดด้วยความปีติสุข และพบเด็กน้อยคนนั้น ซึ่งภาพย้อนกลับไปในตอนแรก