ย้อนรอย!! ไทยเคยโดน "ติดธงแดง" ยังไม่มีการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนอย่างเพียงพอภายใต้มาตรฐานของ ICAO
มาย้อนรอยไทยเคยโดน "ติดธงแดง" ในช่วงปี 2558 ไทยเผชิญปัญหาวิกฤตการบิน จาก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่ได้เข้ามาตรวจสอบ อย่างเต็มรูปแบบ เจอในข้อบกพร่อง 7 ด้าน ได้แก่ ด้านกฎหมายและระเบียบ, ด้านการจัดการองค์กรกำกับดูแล, ด้านการออกใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่, ด้านการปฏิบัติการบิน, ด้านความสมควรเดินอากาศของอากาศยาน, ด้านบริการการเดินอากาศ และด้านสนามบิน
"ธงแดง" ของ ICAO นั้นหมายความว่า ในตอนนั้น ไทยถูก ICAO ประเมินว่า เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน จากการที่ไทยไม่สามารถกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยการบินของประเทศให้ได้ตามมาตรฐานสากล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติ หรือพูดเป็นภาษาชาวบ้านคือ ICAO มองว่า เครื่องบินและบุคลากรทางการบินของไทย ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอในการให้บริการด้านการบินนั่นเอง
ซึ่งพบว่า ไทยมีข้อบกพร่องมากถึง 33 ข้อ ที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกระบวนการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ
1. ICAO (International Civil Aviation Organization) เข้ามาตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 โดยตรวจพบว่า มีข้อบกพร่อง จำนวน 572 ข้อ และมีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns: SSC) อยู่ 33 ข้อ ซึ่งขณะนั้นหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการบินพลเรือน คือ กรมการบินพลเรือน
2. ทาง ICAO ได้ประกาศติดธงแดงไทยบนเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า ไทยยังไม่มีการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนอย่างเพียงพอภายใต้มาตรฐานของ ICAO
3. ปรับโครงสร้างองค์การกำกับดูแลการบินพลเรือน ไม่ให้เกิดการ ทับซ้อน และมีประสิทธิภาพ แยกหน่วยงานปฏิบัติกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนออกจากกันอย่างเด็ดขาด โดยได้ยุบกรมการบินพลเรือนและจัดตั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT
ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยและกิจการการบินพลเรือน โดยภารกิจด้านสนามบินได้โอนให้กรมท่าอากาศยาน และภารกิจด้านการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัย และการสอบสวนอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับอากาศยาน โอนให้เป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
4. ได้ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนการทำงาน คู่มือ Checklist รวมถึงจัดการฝึกอบรมที่เหมาะสมให้กับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนปรับปรุงระบบการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Air Operator Certificate) ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ICAO กำหนด
5. ในที่สุด 6 ตุลาคม 2560 ICAO SSC Committee ได้พิจารณาเห็นชอบให้ประเทศไทยพ้นจากการเป็นประเทศที่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns) และด้วยผลจากมติดังกล่าว สถานภาพในเว็บไซต์ของ ICAO ในส่วนของ Safety Audit Results ซึ่งเคยมีรูปธงแดงอยู่ด้านหน้าชื่อประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2558 ได้รับการถอดออก ทำให้ประเทศไทยสามารถ “ปลดธงแดง” ได้สำเร็จ
อีกทั้ง FAA หรือ องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration) ได้เข้าตรวจสอบไทยมาแล้ว 2 ครั้ง และเคยถูกลดอันดับเป็น Category 2
ซึ่งประเทศที่ถูกลดอันดับจาก Category 1 มาเป็น Category 2 ส่งผลกระทบโดยตรงที่ไทยได้รับนอกจากการห้ามเพิ่มเที่ยวบิน การห้ามทำ Code Sharing แล้วสายการบินของไทยที่ทำการบินเข้าสหรัฐฯ จะถูกตรวจสอบ ณ ลานจอด อย่างเข้มข้นขึ้น
1.โดยในปี 2539 เป็นปีแรกที่ FAA เข้าตรวจไทย และไทยถูกลดมาอันดับเป็น Category 2 เนื่องจากผู้ตรวจของกรมการบินพลเรือน มีเพียงนักบินพาณิชย์ตรี แต่นักบินเหล่าพาณิชย์ตรีนั้นต้องตรวจนักบินพาณิชย์เอกของสายการบินต่างๆ อาทิ การบินไทย ประกอบกับไทยยังไม่มีคู่มือสำหรับปฏิบัติใดๆ ซึ่งไทยสามารถทำการแก้ไขจนกลับมาเป็น Category 1 ในระยะเวลา 6 เดือน
2. กพท.ต้องมีการทบทวนการออกใบอนุญาตนักบินให้กับสายการบินต่างๆ รวมแล้วกว่า 5 พันคน และมีการแจ้งกับ FAA ว่าจะใช้วิธีมอบอำนาจให้นักบินเข้ามาช่วยกพท.ในการตรวจสอบนักบิน ช่วยลดเวลาออกใบอนุญาตนักบิน
2. ปี 2550 หลังจากมีเหตุการณ์สายการบิน One To Go ตกที่ จ.ภูเก็ต FAA จึงขอเข้าตรวจไทย และพบข้อบกพร่องของ ICAO ในปี 2548 ในเรื่อง กบร.4 ครั้งนี้ไทยไม่ถูกลดอันดับ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อแก้ไขโดยการออกข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนตามมาอีกหลายฉบับ
3. มีการตรวจประเมินตามโครงการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยตามการประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA: International Aviation Safety Assessment) ของ FAA โดยมีเป้าหมายเดิมคือเพื่อยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 ในปี 2564 ที่ผ่านมา
และนี่คือผลการประเมินเบื้องต้นที่ผ่านมาตรฐานสากลแล้ว แต่กิจกกรรม และการบริหารในอุตสาหกรรมทางการบินของไทยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นที่จับตาของทั้ง ICAO FAA และ EASA และเข้ามาประเมินมาตรฐานได้ทุกเมื่อ
อ้างอิงจาก: https://www.pmdu.go.th/unlock-icao-red-flag/
https://www.facebook.com/sonicethaicrew/posts/1130637140346360/
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย