29 กรกฎาคม ของทุกปีวันเสือโคร่ง

เสือโคร่ง (Panthera tigris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและเป็นสัตว์กินเนื้อ มีลำตัวขนาดใหญ่ ความยาวรวมหางแล้วอยู่ที่ประมาณ 140-300 เซนติเมตร น้ำหนักสูงสุดถึง 300 กิโลกรัม สีขนบนลำตัวจะมีสีโทนแดงส้มไปยังเหลืองปนน้ำตาล บริเวณใต้ท้องเป็นสีขาว ลำตัวมีลายพาดผ่านเป็นสีดำและเทาเข้ม ถ้าหากมองผิวเผินเราจะเข้าใจว่าเสือโคร่งมีลวดลายที่เหมือนกัน แต่ความเป็นจริงแล้วในแต่ละตัวจะมีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป

เสือโคร่งเป็นสัตว์ที่ชอบออกล่าในเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน ใช้วิธีซุ่มรอเหมือนกับเสือชนิดอื่นๆ และแมวทั่วไป จะอาศัยต้นไม้ใบหญ้าพรางตัวและค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้เหยื่อที่ด้านหลังหรือด้านข้าง เมื่อได้จังหวะที่เหมาะสมก็จะกระโจนเข้าใส่อย่างรวดเร็ว โดยเลือกที่จะกัดคอบริเวณคอหอยเพื่อให้เหยื่อหายใจไม่ออกและตายในที่สุด

เสือโคร่งมีแนวโน้มประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถูกล่า อาหารที่ลดน้อยลง และการสูญเสียพื้นที่แหล่งอาศัย จึงทำให้เมื่อปี 2553 มีการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเสือโคร่ง ณ กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ประกอบด้วย 13 ประเทศในทวีปเอเชียที่มีเสือโคร่งอาศัยอยู่ (ประเทศบังกลาเทศ ภูฏาน กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย(สุมาตรา) ลาว มาเลเซีย พม่า เนปาล รัสเซีย ไทยและเวียดนาม) ร่วมกันลงนามในปฏิญญาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยมีเป้าหมาย เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งที่อยู่ในขั้นวิกฤตเสี่ยงสูญพันธุ์ จากการประชุมและลงนามในครั้งนั้น ทำให้ทุกวันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์เสือโลก (GLOBAL TIGER DAY)” เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์เสือโคร่ง หยุดการค้า การล่า และทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งนั่นเอง

จากรายงานล่าสุดของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อปี 2563 ประเทศไทยปรากฏการประชากรเสือโคร่งอยู่ราวๆ 250 ตัว จากผืนป่าทั้งหมด โดยพื้นที่ที่พบเสือโคร่งมากที่สุดคือ พื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เชื่อมต่อถึงอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ และอุทยานแห่งชาติคลองลาน ประมาณ 70 ตัว, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ประมาณ 15-20 ตัว และอุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติทับลาน ประมาณ 5 ตัว ผืนป่าใดที่มีเสือโคร่ง ถือได้ว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเสือโคร่งแต่ละตัวจะมีอาณาเขตพื้นที่ของตนเองที่กว้างขวางและไม่ทับซ้อนกับตัวอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า ป่าที่เสือโคร่งจะอาศัยอยู่ได้นั้นต้องกว้างขวางมากพอ อาหารที่เพียงพอ และบ่งบอกถึงการมีชีวิตของสัตว์ที่เป็นเหยื่อของเสือโคร่ง เช่น เก้ง กวาง กระทิง วัว หมูป่า เป็นต้น ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่ง หยุดล่า หยุดค้า หยุดทำลายเสือโคร่ง เพื่อให้ไทยได้เป็นหนึ่งในการมีประชากรเสือโคร่งมากที่สุดและป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดต่อไป