หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คุณแม่มือใหม่ต้องรู้การฝากครรภ์ คืออะไร มีประโยชน์อะไรกับการตั้งครรภ์ ?

โพสท์โดย tothemoon555

เมื่อคุณแม่มือใหม่รู้ตัวแล้วว่าตนเองกำลังจะมีลูกน้อยเป็นของตัวเอง อาจจะตื่นเต้นและเตรียมตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

แต่สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากเริ่มตั้งครรภ์คือการฝากครรภ์นั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าการฝากครรภ์ คืออะไร ทำไมต้องฝากครรภ์ มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปฝากครรภ์ แล้วจะไปฝากครรภ์ตอนไหน ที่ไหนดี ในบทความนี้จะค่อย ๆ อธิบายทุกข้อสงสัยให้คุณแม่มือใหม่ได้เข้าใจง่าย ๆ กัน

การฝากครรภ์

ฝากท้องหรือฝากครรภ์ คือ การตรวจสุขภาพคุณแม่และทารกในครรภ์ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงวันที่ลูกน้อยลืมตาดูโลก โดยแพทย์จะนัดคุณแม่เข้ามาตรวจสุขภาพเป็นระยะเพื่อเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ และหากพบความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นก็จะสามารถรับมือและแก้ปัญหาได้ทันท่วงที

นอกจากนี้การฝากครรภ์แพทย์จะให้ความรู้และข้อแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคุณแม่ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นไปอย่างราบรื่น

ฝากครรภ์พิเศษ คืออะไร

ฝากครรภ์พิเศษ เป็นการฝากครรภ์กับแพทย์เพียงท่านเดียว และแพทย์ท่านนั้นจะคอยดูแลสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ไปตลอดจนการทำคลอด 

ข้อดีของการฝากครรภ์พิเศษ คือ แพทย์ที่คอยดูแลคุณแม่จะทราบข้อมูลสุขภาพคุณแม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคุณแม่เองก็จะรู้สึกสะดวกใจเพราะมีแพทย์เพียงท่านเดียวที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เสมือนมีแพทย์ประจำตัวเลยทีเดียว

สำหรับบริการฝากครรภ์พิเศษนี้มักจะมีบริการเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่แพทย์ก็สามารถดูแลคุณแม่ได้ทั่วถึงกว่าจากจำนวนคนไข้ที่ไม่มากเท่าโรงพยาบาลรัฐ

ประโยชน์ของการฝากครรภ์

เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติของครรภ์คุณแม่

โรคบางอย่างที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ เช่น ครรภ์เป็นพิษ โลหิตจาง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสหรือเอสด์ เป็นต้น หากตรวจเช็คเจอความผิดปกติจากโรค แพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ยังตรวจเช็คถึงลักษณะท่าทางของทารกในครรภ์ว่ามีท่าทางที่ผิดปกติหรือไม่ หากตรวจพบความผิดปกติ ก็จะได้หาทางแก้ไขได้ทันที

ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่และทารกในครรภ์

ในอดีต การตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งมีความอันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งความรู้ในการดูแลครรภ์ที่ไม่มากพอ ไม่สามารถตรวจความผิดปกติของครรภ์ได้ชัดเจน ทำให้เกิดการแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด หรือเด็กเสียชีวิตหลังคลอดก็มาก หรือแม้แต่การเสียชีวิตของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์และขณะคลอดก็ไม่น้อย

ในปัจจุบันนั้นด้วยความรู้ที่มากขึ้น อีกทั้งมีการฝากครรภ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่และทารกในครรภ์ จึงลดอัตราการเสียชีวิตของคุณแม่และทารกขณะตั้งครรภ์ได้อย่างมาก 

ช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์

การฝากครรภ์สามารถป้องกันอาการหรือโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ได้ เพราะแพทย์จะคอยเฝ้าระวัง และแนะนำการดูแลครรภ์ให้ดีที่สุด 

แต่หากพบอาการหรือโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ แพทย์ก็สามารถลดความอันตรายของอาการหรือโรคแทรกซ้อนนั้นได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่

การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง หากสุขภาพร่างกายและจิตใจคุณแม่เป็นปกติก็จะทำให้ทารกในครรภ์แข็งแรงไปด้วย 

ดังนั้นการฝากครรภ์แพทย์จะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ข้อควรระวัง และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้อย่างราบรื่น

ช่วยดูแลทารกในครรภ์ให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสม

การฝากครรภ์แพทย์จะช่วยดูแลทารกในครรภ์ให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสม มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม หากตรงไหนที่ควรเสริม แพทย์ก็จะให้คุณแม่เสริมเพื่อให้ทารกได้มีพัฒนาการที่เป็นปกตินั่นเอง

การเตรียมตัวฝากครรภ์ครั้งแรก

ไม่ว่าจะคุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่ท้องสอง สาม สี่ก็มักจะมีความตื่นเต้นและกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ สำหรับการฝากครรภ์นั้นเพื่อให้คุณแม่ได้รับผลประโยชน์และไขข้อสงสัยมากที่สุด ก็ควรจะเตรียมตัวก่อนจะไปฝากครรภ์ ในบางครั้งเมื่อพบแพทย์แล้วคุณแม่อาจกังวลจนลืมคำถามที่ต้องถามแพทย์ 

ดังนั้นเพื่อความสะดวกคุณแม่อาจจดข้อมูล คำถามที่สงสัยในกระดาษ หรือในมือถือก็ได้เช่นกัน แต่โดยปกติแล้วข้อมูลที่สำคัญแพทย์มักจะชี้แจงคุณแม่ไว้ก่อนอยู่แล้ว

และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวเมื่อไปฝากครรภ์คือประวัติสุขภาพของคุณแม่ เพราะแพทย์จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาถึงความปลอดภัยของทารกในครรภ์ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ได้

ควรฝากครรภ์ครั้งแรกตอนไหน อายุครรภ์กี่เดือน

ควรฝากครรภ์ตอนไหน ? คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจพอรู้มาบ้างว่าควรจะเข้าไปฝากครรภ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรฝ่กครรภ์ตอนไหนดี ? หากคุณแม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ควรจะไปฝากครรภ์ทันทีที่รู้ตัว เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจสุขภาพและดูแลทารกในครรภ์ได้เร็วที่สุด หากเกิดความผิดปกติใน ๆ จะได้แก้ปัญหาได้ทัน

แต่หากรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ช้ามาก ๆ หากจะไปฝากครรภ์ สามารถฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน ? หากตามความเหมาะสมแล้ว การฝากครรภ์ไม่ควรเกิดอายุครรภ์ครบ 12 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามหากรู้ตัวช้ามาก ๆ ก็สามารถไปฝากได้ทันที ถึงแม้การฝากครรภ์จะช้ากว่าปกติ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยไปไม่เข้าฝากครรภ์เลย

เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก

สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่อาจไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมเอกสารหรือข้อมูลอะไรไปบ้างเมื่อต้องการฝากครรภ์ สามารถจัดเอกสารและข้อมูลตามลิสนี้เลย

ขั้นตอนการฝากครรภ์

ขั้นตอนการฝากครรภ์ เมืื่อคุณแม่ติดต่อกับคลีนิกหรือโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วแพทย์จะทำการซักประวัติสุขภาพของคุณแม่ เช่น ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ปกติแล้วประจำเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ จากข้อมูลนี้แพทย์จะทราบระยะเวลาตั้งครรภ์ที่แน่นอน 

นอกจากนี้แพทย์จะซักถามประวัติการรักษาของคุณแม่ ว่ามีโรคประจำตัวอะไรไหม มีใช้ยาอะไรเป็นประจำบ้าง เคยเป็นโรคอะไรมาบ้าง ประวัติการแพ้ยา รวมถึงประวัติสุขภาพของบุคคลใกล้ชิด เพื่อดูว่าทารกในครรภ์อาจมีโรคทางพันธุกรรมหรือไม่ และหากไม่ใช่ครรภ์แรกแพทย์จะถามถึงการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ๆ ด้วย

หลังจบการซักประวัติ แพทย์จะให้คุณแม่เข้าตรวจร่างกาย โดยตรวจตั้งแต่พื้นฐานที่คุณแม่ทุกคนต้องตรวจ จนไปถึงหากคุณแม่มีข้อมูลสุขภาพที่น่าสงสัยแพทย์อาจส่งคุณแม่ไปตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม

ฝากครรภ์ครั้งแรก ตรวจอะไรบ้าง 

เมื่อเข้าพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ครั้งแรก โดยพื้นฐานแล้วจะมีการตรวจร่างกายคุณแม่ดังนี้

ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง

น้ำหนักกับส่วนสูงคุณแม่มีผลต่อการคลอดลูก หากคุณแม่รูปร่างเล็ก แต่ขนาดตัวลูกในครรภ์ไม่ได้สัดส่วนกับตัวคุณแม่ก็อาจทำให้คลอดลูกยากกว่าปกติ 

ตรวจปัสสาวะ

เมื่อเข้าฝากครรภ์แล้ว สิ่งหนึ่งที่แพทย์ต้องให้ตรวจแน่ ๆ คือการตรวจปัสสาวะ เพราะการตรวจปัสสาวะคุณแม่สามารถบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่างได้ ทั้งตรวจการตั้งครรภ์เป็นการยืนยันการตั้วครรภ์ ตรวจสิ่งแปลกปลอมที่ปนมากับปัสสาวะอย่างน้ำตาลหรือโปรตีนหรือไม่ 

หากพบน้ำตาลในปัสสาวะนั่นอาจหมายความว่าคุณแม่อาจมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือถ้าพบโปรตีนในปัสสาวะ ก็สามารถบอกได้ว่าไตมีปัญหา และถ้าพบร่วมกับความดันโลหิตสูง ก็อาจมีความเสี่ยงที่ครรภ์เป็นพิษได้

วัดความดันโลหิต

ก่อนเข้ารับการรักษาทุกอย่าง สิ่งที่จะต้องตรวจเลยคือความดันโลหิต กับการฝากครรภ์ก็เช่นกัน เพราะความดันโลหิตที่ผิดปกติอาจบ่งบอกถึงการที่สุขภาพร่างกายคุณแม่มีปัญหา อย่างเช่นหากพบความดันโลหิตสูงร่วมกับตรวจเจอโปรตีนในปัสสาวะ ก็อาจเกิดครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น

ตรวจเลือด

แพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างเลือดจากคุณแม่และส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ ในเลือดสามารถบอกถึงกรุ๊ปเลือด ความเข้มข้นของเลือดว่าเข้าข่ายภาวะโลหิตจางหรือไม่ บอกถึงความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น โรคธาลัสซีเมีย โรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่นไวรัสตับอักเสบ ซิฟิลิส เอดส์ เป็นต้น

อัลตราซาวด์

การทำอัลตราซาวด์ หรือตรวจดูภายในครรภ์ผ่านทางหน้าท้อง แพทย์จะสามารถเห็นลักษณะของทารกในครรภ์ว่ามีท่าทาง หรืออวัยวะครบปกติตามอายุครรภ์หรือไม่ รวมถึงสามารถเช็คเพศของทารกได้เมื่ออายุครรภ์อยู่ช่วงไตรมาสที่ 2 แล้ว

ฝากครรภ์กี่ครั้ง

เมื่อเข้าฝากครรภ์ แพทย์จะนัดห้คุณแม่เข้าพบแพทย์เพื่อติดตามการตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นระยะ โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ไตรมาส ในแต่ละไตรมาสมีการตรวจและความถี่ในการนัดพบที่แตกต่างกัน ดังนี้

ไตรมาสแรก (เริ่มตั้งครรภ์ถึง 14 สัปดาห์)

ในไตรมาสแรกแพทย์จะตรวจครรภ์คุณแม่ค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นเช็คความปลอดภัยของการตั้งครรภ์และการเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ เช่น

ในไตรมาสแรกแพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 1 เดือน

ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 15-28 สัปดาห์)

ช่วงอายุครรภ์ในไตรมาสที่ 2 การพัฒนาการของทารกในครรภ์เริ่มมากขึ้น การตรวจของไตรมาสที่ 2 มีดังนี้

ในไตรมาสที่ 2 แพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 1 เดือน

ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์)

ไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว การตรวจครรภ์ไตรมาสสุดท้ายนี้ เช่น

นอกจากนี้แพทย์จะให้คุณแม่ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และบาดทะยักด้วย และอาจแนะนำการสังเกตลูกน้อยในครรภ์อย่างการดิ้น หรืออาการที่บ่งยอกว่าใกล้คลอดแล้ว เป็นต้น

ในไตรมาสที่ 3 แพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 2 สัปดาห์

วิธีเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่ไหนดี

ในปัจจุบันมีคลีนิกและโรงพยาบาลที่มีบริการากครรภ์อยู่มากมาย แต่จะเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่ไหนดี ? สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกสถานที่ฝากครรภ์นั้นควรจะต้องเดินทางสะดวก หรือหากใกล้บ้านที่อาศัยได้จะยิ่งดี เพราะการฝากครรภ์นั้นเราจำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ทุกเดือนจนกว่าจะคลอด และหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นจะได้เข้าพบแพทย์ได้ทันที

หากเป็นสถานพยาบาลที่คุณแม่มีประวัติการรักษา หรือเป็นสถานพยาบาลประจำได้ก็จะดีมาก เพราะทางสถานพยาบาลจะต้องมีข้อมูลการรักษาของคุณแม่ แพทย์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้พิจารณาได้

นอกจากนี้สถานพยาบาลนั้นควรจะมีสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง เพื่อสามารถตรวจและเฝ้าระวังถึงความปลอดภัยในการตั้งครรภ์ได้

และอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงคือค่าใช้จ่ายสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนก็มีคลีนิกฝากครรภ์เกือบทั้งนั้น คุณแม่สามารถพิจารณาเลือกจากงบที่มีได้เลย

นอกจากนี้ สำหรับโรงพยาบาลรัฐแพทย์มักมีประสบการณ์มากมาย เคสแปลก ๆ ก็มีไม่น้อย ดังนั้นการรักษาของแพทย์รัฐก็จะค่อนข้างชำนาญ แถมยังราคาถูกกว่าอีกด้วย แต่อาจแลกกับการที่จำนวนคนไข้ที่ค่อนข้างมาก การดูแลและบริการคนไข้อาจไม่ทั่วถึง 

แต่สำหรับโรงพยาบาลหรือคลีนิกเอกชน ถึงแม้ประสบการณ์การดูแลคนไข้อาจไม่ได้มากเท่าแพทย์โรงพยาบาลรัฐ แต่แพทย์สามารถดูแลและบริการคนไข้ได้อย่างทั่วถึงมากกว่า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฝากครรภ์

ฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน

ในความเป็นจริงควรเข้ารับการฝากครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ แต่หากรู้ตัวช้าหรือเลย 12 สัปดาห์ไปแล้วควรเข้ามาฝากครรภ์ทันทีที่ทราบถึงการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เพื่อแพทย์จะได้ตรวจประเมินการตั้งครรภ์ ช่วยให้การตั้งครรภ์นั้นเป็นไปอย่างปลอดภัย

ฝากครรภ์คลินิก คลอดโรงพยาบาลได้ไหม

ไม่จำเป็นว่าจะต้องคลอดที่เดียวกับที่ฝากครรภ์ ดังนั้นจะฝากครรภ์ที่คลีนิกแล้วค่อยไปคลอดลูกและพักฟื้นที่โรงพยาบาลก็สามารถทำได้

ไม่ได้ฝากครรภ์ คลอดได้ไหม

ถึงแม้คุณแม่จะไม่ได้ฝากครรภ์ก็ยังสามารถคลอดลูกได้ แต่อย่างไรก็ตามควรฝากครรภ์ทันที่ที่รู้ถังการตั้งครรภ์จะดีกว่า เพราะการตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งไม่ได้รับประกันว่าลูกในครรภ์จะแข็งแรงสมบูรณ์และอยู่ได้จนถึงวันคลอด หากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจและสังเกตการตั้งครรภ์ก็จะช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ด้วยดี

ข้อสรุป

การฝากครรภ์เป็นการตรวจสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยแพทย์จะติดตามตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงการคลอด เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์นั้นสามารถมีพัฒนาการที่เป็นปกติ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวันที่จะลืมตามดูโลก และหากพบความผิดปกติใด ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ แพทย์ก็สามารถช่วยลดระดับความอันตรายลงได้

เนื้อหาโดย: tothemoon555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tothemoon555's profile


โพสท์โดย: tothemoon555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนรู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำเผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69กฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้นพชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้น"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลกทำไมต้องเศร้าตอนพระอาทิตย์ตกดินวัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลียสื่อนอกเจาะลึกความสูญเสีย รายงานข่าวทหารกัมพูชาบาดเจ็บ 400 นายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 นาย พื้นที่เขาพระวิหารรัฐบาลสั่งปิดข่าวสมาคมศิษย์เก่าเกาหลีแห่งกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ สืบสวนคำกล่าวอ้างว่ากองทัพอากาศไทยใช้เครื่องบินขับไล่T-50TH ที่ผลิตโดยเกาหลีใต้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัวทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจียทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตั้งกระทู้ใหม่