คุณแม่มือใหม่ต้องรู้การฝากครรภ์ คืออะไร มีประโยชน์อะไรกับการตั้งครรภ์ ?
เมื่อคุณแม่มือใหม่รู้ตัวแล้วว่าตนเองกำลังจะมีลูกน้อยเป็นของตัวเอง อาจจะตื่นเต้นและเตรียมตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
แต่สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากเริ่มตั้งครรภ์คือการฝากครรภ์นั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าการฝากครรภ์ คืออะไร ทำไมต้องฝากครรภ์ มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปฝากครรภ์ แล้วจะไปฝากครรภ์ตอนไหน ที่ไหนดี ในบทความนี้จะค่อย ๆ อธิบายทุกข้อสงสัยให้คุณแม่มือใหม่ได้เข้าใจง่าย ๆ กัน
การฝากครรภ์
ฝากท้องหรือฝากครรภ์ คือ การตรวจสุขภาพคุณแม่และทารกในครรภ์ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงวันที่ลูกน้อยลืมตาดูโลก โดยแพทย์จะนัดคุณแม่เข้ามาตรวจสุขภาพเป็นระยะเพื่อเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ และหากพบความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นก็จะสามารถรับมือและแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
นอกจากนี้การฝากครรภ์แพทย์จะให้ความรู้และข้อแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคุณแม่ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นไปอย่างราบรื่น
ฝากครรภ์พิเศษ คืออะไร
ฝากครรภ์พิเศษ เป็นการฝากครรภ์กับแพทย์เพียงท่านเดียว และแพทย์ท่านนั้นจะคอยดูแลสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ไปตลอดจนการทำคลอด
ข้อดีของการฝากครรภ์พิเศษ คือ แพทย์ที่คอยดูแลคุณแม่จะทราบข้อมูลสุขภาพคุณแม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคุณแม่เองก็จะรู้สึกสะดวกใจเพราะมีแพทย์เพียงท่านเดียวที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เสมือนมีแพทย์ประจำตัวเลยทีเดียว
สำหรับบริการฝากครรภ์พิเศษนี้มักจะมีบริการเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่แพทย์ก็สามารถดูแลคุณแม่ได้ทั่วถึงกว่าจากจำนวนคนไข้ที่ไม่มากเท่าโรงพยาบาลรัฐ
ประโยชน์ของการฝากครรภ์
เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติของครรภ์คุณแม่
โรคบางอย่างที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ เช่น ครรภ์เป็นพิษ โลหิตจาง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสหรือเอสด์ เป็นต้น หากตรวจเช็คเจอความผิดปกติจากโรค แพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ยังตรวจเช็คถึงลักษณะท่าทางของทารกในครรภ์ว่ามีท่าทางที่ผิดปกติหรือไม่ หากตรวจพบความผิดปกติ ก็จะได้หาทางแก้ไขได้ทันที
ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่และทารกในครรภ์
ในอดีต การตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งมีความอันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งความรู้ในการดูแลครรภ์ที่ไม่มากพอ ไม่สามารถตรวจความผิดปกติของครรภ์ได้ชัดเจน ทำให้เกิดการแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด หรือเด็กเสียชีวิตหลังคลอดก็มาก หรือแม้แต่การเสียชีวิตของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์และขณะคลอดก็ไม่น้อย
ในปัจจุบันนั้นด้วยความรู้ที่มากขึ้น อีกทั้งมีการฝากครรภ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่และทารกในครรภ์ จึงลดอัตราการเสียชีวิตของคุณแม่และทารกขณะตั้งครรภ์ได้อย่างมาก
ช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
การฝากครรภ์สามารถป้องกันอาการหรือโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ได้ เพราะแพทย์จะคอยเฝ้าระวัง และแนะนำการดูแลครรภ์ให้ดีที่สุด
แต่หากพบอาการหรือโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ แพทย์ก็สามารถลดความอันตรายของอาการหรือโรคแทรกซ้อนนั้นได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่
การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง หากสุขภาพร่างกายและจิตใจคุณแม่เป็นปกติก็จะทำให้ทารกในครรภ์แข็งแรงไปด้วย
ดังนั้นการฝากครรภ์แพทย์จะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ข้อควรระวัง และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้อย่างราบรื่น
ช่วยดูแลทารกในครรภ์ให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสม
การฝากครรภ์แพทย์จะช่วยดูแลทารกในครรภ์ให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสม มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม หากตรงไหนที่ควรเสริม แพทย์ก็จะให้คุณแม่เสริมเพื่อให้ทารกได้มีพัฒนาการที่เป็นปกตินั่นเอง
การเตรียมตัวฝากครรภ์ครั้งแรก
ไม่ว่าจะคุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่ท้องสอง สาม สี่ก็มักจะมีความตื่นเต้นและกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ สำหรับการฝากครรภ์นั้นเพื่อให้คุณแม่ได้รับผลประโยชน์และไขข้อสงสัยมากที่สุด ก็ควรจะเตรียมตัวก่อนจะไปฝากครรภ์ ในบางครั้งเมื่อพบแพทย์แล้วคุณแม่อาจกังวลจนลืมคำถามที่ต้องถามแพทย์
ดังนั้นเพื่อความสะดวกคุณแม่อาจจดข้อมูล คำถามที่สงสัยในกระดาษ หรือในมือถือก็ได้เช่นกัน แต่โดยปกติแล้วข้อมูลที่สำคัญแพทย์มักจะชี้แจงคุณแม่ไว้ก่อนอยู่แล้ว
และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวเมื่อไปฝากครรภ์คือประวัติสุขภาพของคุณแม่ เพราะแพทย์จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาถึงความปลอดภัยของทารกในครรภ์ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ได้
ควรฝากครรภ์ครั้งแรกตอนไหน อายุครรภ์กี่เดือน
ควรฝากครรภ์ตอนไหน ? คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจพอรู้มาบ้างว่าควรจะเข้าไปฝากครรภ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรฝ่กครรภ์ตอนไหนดี ? หากคุณแม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ควรจะไปฝากครรภ์ทันทีที่รู้ตัว เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจสุขภาพและดูแลทารกในครรภ์ได้เร็วที่สุด หากเกิดความผิดปกติใน ๆ จะได้แก้ปัญหาได้ทัน
แต่หากรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ช้ามาก ๆ หากจะไปฝากครรภ์ สามารถฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน ? หากตามความเหมาะสมแล้ว การฝากครรภ์ไม่ควรเกิดอายุครรภ์ครบ 12 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามหากรู้ตัวช้ามาก ๆ ก็สามารถไปฝากได้ทันที ถึงแม้การฝากครรภ์จะช้ากว่าปกติ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยไปไม่เข้าฝากครรภ์เลย
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก
สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่อาจไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมเอกสารหรือข้อมูลอะไรไปบ้างเมื่อต้องการฝากครรภ์ สามารถจัดเอกสารและข้อมูลตามลิสนี้เลย
- บัตรประชาชนของตนเองและสามี
- ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพทั้งของตนเองและสามี ไม่ว่าจะเป็นประวัติการรักษาโรคต่าง ๆ โรคประจำตัว ประวัติเสี่ยงโรคทางพันธุกรรม (หรือสำหรับผู้ที่เคยมีบุตรแล้วอาจต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์คร้้งก่อน ๆ หรือประวัติการแท้งบุตรด้วย)
- ประวัติการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย ให้นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย
ขั้นตอนการฝากครรภ์
ขั้นตอนการฝากครรภ์ เมืื่อคุณแม่ติดต่อกับคลีนิกหรือโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วแพทย์จะทำการซักประวัติสุขภาพของคุณแม่ เช่น ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ปกติแล้วประจำเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ จากข้อมูลนี้แพทย์จะทราบระยะเวลาตั้งครรภ์ที่แน่นอน
นอกจากนี้แพทย์จะซักถามประวัติการรักษาของคุณแม่ ว่ามีโรคประจำตัวอะไรไหม มีใช้ยาอะไรเป็นประจำบ้าง เคยเป็นโรคอะไรมาบ้าง ประวัติการแพ้ยา รวมถึงประวัติสุขภาพของบุคคลใกล้ชิด เพื่อดูว่าทารกในครรภ์อาจมีโรคทางพันธุกรรมหรือไม่ และหากไม่ใช่ครรภ์แรกแพทย์จะถามถึงการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ๆ ด้วย
หลังจบการซักประวัติ แพทย์จะให้คุณแม่เข้าตรวจร่างกาย โดยตรวจตั้งแต่พื้นฐานที่คุณแม่ทุกคนต้องตรวจ จนไปถึงหากคุณแม่มีข้อมูลสุขภาพที่น่าสงสัยแพทย์อาจส่งคุณแม่ไปตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม
ฝากครรภ์ครั้งแรก ตรวจอะไรบ้าง
เมื่อเข้าพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ครั้งแรก โดยพื้นฐานแล้วจะมีการตรวจร่างกายคุณแม่ดังนี้
ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
น้ำหนักกับส่วนสูงคุณแม่มีผลต่อการคลอดลูก หากคุณแม่รูปร่างเล็ก แต่ขนาดตัวลูกในครรภ์ไม่ได้สัดส่วนกับตัวคุณแม่ก็อาจทำให้คลอดลูกยากกว่าปกติ
ตรวจปัสสาวะ
เมื่อเข้าฝากครรภ์แล้ว สิ่งหนึ่งที่แพทย์ต้องให้ตรวจแน่ ๆ คือการตรวจปัสสาวะ เพราะการตรวจปัสสาวะคุณแม่สามารถบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่างได้ ทั้งตรวจการตั้งครรภ์เป็นการยืนยันการตั้วครรภ์ ตรวจสิ่งแปลกปลอมที่ปนมากับปัสสาวะอย่างน้ำตาลหรือโปรตีนหรือไม่
หากพบน้ำตาลในปัสสาวะนั่นอาจหมายความว่าคุณแม่อาจมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือถ้าพบโปรตีนในปัสสาวะ ก็สามารถบอกได้ว่าไตมีปัญหา และถ้าพบร่วมกับความดันโลหิตสูง ก็อาจมีความเสี่ยงที่ครรภ์เป็นพิษได้
วัดความดันโลหิต
ก่อนเข้ารับการรักษาทุกอย่าง สิ่งที่จะต้องตรวจเลยคือความดันโลหิต กับการฝากครรภ์ก็เช่นกัน เพราะความดันโลหิตที่ผิดปกติอาจบ่งบอกถึงการที่สุขภาพร่างกายคุณแม่มีปัญหา อย่างเช่นหากพบความดันโลหิตสูงร่วมกับตรวจเจอโปรตีนในปัสสาวะ ก็อาจเกิดครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น
ตรวจเลือด
แพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างเลือดจากคุณแม่และส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ ในเลือดสามารถบอกถึงกรุ๊ปเลือด ความเข้มข้นของเลือดว่าเข้าข่ายภาวะโลหิตจางหรือไม่ บอกถึงความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น โรคธาลัสซีเมีย โรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่นไวรัสตับอักเสบ ซิฟิลิส เอดส์ เป็นต้น
อัลตราซาวด์
การทำอัลตราซาวด์ หรือตรวจดูภายในครรภ์ผ่านทางหน้าท้อง แพทย์จะสามารถเห็นลักษณะของทารกในครรภ์ว่ามีท่าทาง หรืออวัยวะครบปกติตามอายุครรภ์หรือไม่ รวมถึงสามารถเช็คเพศของทารกได้เมื่ออายุครรภ์อยู่ช่วงไตรมาสที่ 2 แล้ว
ฝากครรภ์กี่ครั้ง
เมื่อเข้าฝากครรภ์ แพทย์จะนัดห้คุณแม่เข้าพบแพทย์เพื่อติดตามการตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นระยะ โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ไตรมาส ในแต่ละไตรมาสมีการตรวจและความถี่ในการนัดพบที่แตกต่างกัน ดังนี้
ไตรมาสแรก (เริ่มตั้งครรภ์ถึง 14 สัปดาห์)
ในไตรมาสแรกแพทย์จะตรวจครรภ์คุณแม่ค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นเช็คความปลอดภัยของการตั้งครรภ์และการเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ เช่น
- การตรวจปัสสาวะ ยืนยันการตั้งครรภ์
- การตรวจการติดเชื้อในช่องคลอดหรือกระเพาะปัสสาวะ
- การตรวจเลือดเพื่อเช็คว่าคุณแม่มีโรคติดต่อใด ๆ ที่สามารถเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี
- การตรวจเลือดเพื่อคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม สามารถส่งต่อมายังทารกในครรภ์ได้
- อัลตราซาวด์คัดกรองการพัฒนาการที่ผิดปกติของทารกในครรภ์ และกำหนดอายุครรภ์
ในไตรมาสแรกแพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 1 เดือน
ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 15-28 สัปดาห์)
ช่วงอายุครรภ์ในไตรมาสที่ 2 การพัฒนาการของทารกในครรภ์เริ่มมากขึ้น การตรวจของไตรมาสที่ 2 มีดังนี้
- ตรวจเลือดคัดกรองภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- อัลตราซาวด์ดูเพศของทารก และดูพัฒนาการของทารกในครรภ์ว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่
- เจาะน้ำคร่ำตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ เช็คความผิดปกติ โรคทางพันธุกรรมของทารกได้
ในไตรมาสที่ 2 แพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 1 เดือน
ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์)
ไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว การตรวจครรภ์ไตรมาสสุดท้ายนี้ เช่น
- อัลตราซาวด์ดูสุขภาพโดยรวมของทารกในครรภ์
- ตรวจเลือดเช็คความผิดปกติของการตั้งครรภ์
นอกจากนี้แพทย์จะให้คุณแม่ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และบาดทะยักด้วย และอาจแนะนำการสังเกตลูกน้อยในครรภ์อย่างการดิ้น หรืออาการที่บ่งยอกว่าใกล้คลอดแล้ว เป็นต้น
ในไตรมาสที่ 3 แพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 2 สัปดาห์
วิธีเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่ไหนดี
ในปัจจุบันมีคลีนิกและโรงพยาบาลที่มีบริการากครรภ์อยู่มากมาย แต่จะเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่ไหนดี ? สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกสถานที่ฝากครรภ์นั้นควรจะต้องเดินทางสะดวก หรือหากใกล้บ้านที่อาศัยได้จะยิ่งดี เพราะการฝากครรภ์นั้นเราจำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ทุกเดือนจนกว่าจะคลอด และหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นจะได้เข้าพบแพทย์ได้ทันที
หากเป็นสถานพยาบาลที่คุณแม่มีประวัติการรักษา หรือเป็นสถานพยาบาลประจำได้ก็จะดีมาก เพราะทางสถานพยาบาลจะต้องมีข้อมูลการรักษาของคุณแม่ แพทย์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้พิจารณาได้
นอกจากนี้สถานพยาบาลนั้นควรจะมีสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง เพื่อสามารถตรวจและเฝ้าระวังถึงความปลอดภัยในการตั้งครรภ์ได้
และอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงคือค่าใช้จ่ายสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนก็มีคลีนิกฝากครรภ์เกือบทั้งนั้น คุณแม่สามารถพิจารณาเลือกจากงบที่มีได้เลย
นอกจากนี้ สำหรับโรงพยาบาลรัฐแพทย์มักมีประสบการณ์มากมาย เคสแปลก ๆ ก็มีไม่น้อย ดังนั้นการรักษาของแพทย์รัฐก็จะค่อนข้างชำนาญ แถมยังราคาถูกกว่าอีกด้วย แต่อาจแลกกับการที่จำนวนคนไข้ที่ค่อนข้างมาก การดูแลและบริการคนไข้อาจไม่ทั่วถึง
แต่สำหรับโรงพยาบาลหรือคลีนิกเอกชน ถึงแม้ประสบการณ์การดูแลคนไข้อาจไม่ได้มากเท่าแพทย์โรงพยาบาลรัฐ แต่แพทย์สามารถดูแลและบริการคนไข้ได้อย่างทั่วถึงมากกว่า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฝากครรภ์
ฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน
ในความเป็นจริงควรเข้ารับการฝากครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ แต่หากรู้ตัวช้าหรือเลย 12 สัปดาห์ไปแล้วควรเข้ามาฝากครรภ์ทันทีที่ทราบถึงการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เพื่อแพทย์จะได้ตรวจประเมินการตั้งครรภ์ ช่วยให้การตั้งครรภ์นั้นเป็นไปอย่างปลอดภัย
ฝากครรภ์คลินิก คลอดโรงพยาบาลได้ไหม
ไม่จำเป็นว่าจะต้องคลอดที่เดียวกับที่ฝากครรภ์ ดังนั้นจะฝากครรภ์ที่คลีนิกแล้วค่อยไปคลอดลูกและพักฟื้นที่โรงพยาบาลก็สามารถทำได้
ไม่ได้ฝากครรภ์ คลอดได้ไหม
ถึงแม้คุณแม่จะไม่ได้ฝากครรภ์ก็ยังสามารถคลอดลูกได้ แต่อย่างไรก็ตามควรฝากครรภ์ทันที่ที่รู้ถังการตั้งครรภ์จะดีกว่า เพราะการตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งไม่ได้รับประกันว่าลูกในครรภ์จะแข็งแรงสมบูรณ์และอยู่ได้จนถึงวันคลอด หากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจและสังเกตการตั้งครรภ์ก็จะช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ด้วยดี
ข้อสรุป
การฝากครรภ์เป็นการตรวจสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยแพทย์จะติดตามตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงการคลอด เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์นั้นสามารถมีพัฒนาการที่เป็นปกติ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวันที่จะลืมตามดูโลก และหากพบความผิดปกติใด ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ แพทย์ก็สามารถช่วยลดระดับความอันตรายลงได้
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
กฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้น
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้น
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
ทำไมต้องเศร้าตอนพระอาทิตย์ตกดิน
วัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลีย
สื่อนอกเจาะลึกความสูญเสีย รายงานข่าวทหารกัมพูชาบาดเจ็บ 400 นายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 นาย พื้นที่เขาพระวิหารรัฐบาลสั่งปิดข่าว
สมาคมศิษย์เก่าเกาหลีแห่งกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ สืบสวนคำกล่าวอ้างว่ากองทัพอากาศไทยใช้เครื่องบินขับไล่T-50TH ที่ผลิตโดยเกาหลีใต้
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย
ทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลก


