เรามีโอกาสถูกหวยกี่เปอร์เซนต์
หวยเป็นอะไรที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเริ่มมาจากคนจีนที่เอาเข้ามาเล่นกัน โดยภาษาจีนเป็นภาษาตัวอักษร ที่ต้องใช้วิธีจดจำ และ คนส่วนใหญ่ ก็เขียนภาษาจีน ไม่ค่อยได้ ดังนั้น จึงใช้วิธีการเอารูปภาพดอกไม้มาใช้ในการเล่นหวย โดย เขาเรียกว่า 花會 หรือ "ฮัวฮุ่ย" ซึ่งแปลว่า มวลหมู่ดอกไม้ โดยภาษาแต้จิ๋ว จะออกเสียงว่า "ฮวยหวย" หลังจากนั้น ก็มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบัน
โดยปัจจุบัน กองสลากพิมพ์หวย ทั้งสิ้น จำนวน 100 ล้านใบ ต่อครั้ง ซึ่งก็หมายความว่า มีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้มากที่สุด 100 ใบ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 600 ล้านบาท
กองสลากพิมหวยออกมา 100 ล้านใบ ถ้าขายกันในระบบ ใบละ 100 บาท ก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามา 1 หมื่นล้านบาท โดยที่ ทางกองสลาก จะจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 48% ของยอดรายได้ทั้งหมด หรือ 4,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ อีก 52% ก็เป็นกำไร ของผู้ขาย พ่อค้าคนกลาง และ เข้ากองสลากกันไปครับ เป็นอีกธุรกิจหนึ่ง ที่มียอดเงินหมุนเวียนไม่น้อยเลย เพราะ ถ้าดูยอดเงิน หมื่นล้านต่อรอบ จะมีเงินหมุนเวียนสูงถึง สองแสนสี่หมื่นล้านต่อปีเลยทีเดียวนะครับ
จำนวนสลาก 100 ล้านใบ มีรางวัลสูงถึง 4,800 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของยอดเงินทั้งหมดที่ซื้อ แต่ว่า เมื่อมาดูจำนวนของรางวัล จะอยู่ที่ 1,416,800 เท่านั้น หรือ พูดง่าย ๆ ว่า โอกาสที่เราจะถูกหวยมีเพียง 1.4% เท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ ถ้าลุงซื้อหวยทุกเดือน ติดต่อกัน 72 เดือน อย่างน้อยลุงก็จะมีโอกาสถูกหวยซักใบครับ
72 เดือน ก็ 3.5 ปี พอดีครับ กับการถูกหวย ซึ่ง ถ้าลุงลงทุนไปใบละ 100 บาท ก็เท่ากับว่า ลุงจะใช้เงินทั้งหมด 7,200 บาท ซึ่งฟังดูก็ไม่น่าเกลียดนะครับ
แต่ รางวัลที่ลุงจะได้สิครับ 70% ของโอกาสที่จะได้รางวัลอยู่ที่ 2,000 บาท และ อีก 28% อยู่ที่ 4,000 บาท
หรือพูดง่าย ๆ 98% ของโอกาสที่จะได้รางวัล จะอยู่ไม่เกิน 4,000 บาท หรือ เฉลี่ยที่ 2,571 บาท เท่านั้น
จากที่เขียนมานี้ คงบอกได้แล้วนะครับ ว่าการเล่นหวยมันคุ้ม หรือ ไม่คุ้มกับการลงทุนไปครับ
เคยถามคนที่เขาซื้อหวยครับ ว่าเขาซื้อทำไม ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว ว่าแทบจะไม่มีโอกาสถูกเลย คำตอบที่เขาให้ลุงกลับมาก็คือ "ความหวัง" ครับ
สำหรับคนบางคน เงิน 100 บาท อาจจะเอาสร้างความสุข หรือ ไปทานข้าวกับครอบครัวซักมื้อแล้วก็หมดไป แต่สำหรับเขา 100 บาท ทำให้เขามีความหวังไปอีก 15 วัน อันนี้ ก็แล้วแต่มุมมองครับ