จัดไปปลูกกันทั่วหน้า พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ กัญชงกัญชา พากันครื้นเครง
หลังจากที่กฎหมายปลดล็อกกัญชงกัญชามีผลบังคับใช้ ทำให้เกิดความนิยมและเป็นที่สนใจของประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะทุกคนสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขอนุญาตเพียงแค่จดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ากัญชานั้นมีทั้งคุณและโทษ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง อาจจะเกิดอันตรายและผลเสียต่อสุขภาพได้
เมื่อ 13 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) สุพรรณบุรี ร่วมกันเปิดเสวนาเรื่อง "พืชเศรษฐกิจใหม่ กัญชา-กัญชง ภายใต้โครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร" ณ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายชูชีพ พงษ์ไชย รอง ผวจ.สุพรรณบุรี นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอศรีประจันต์ นางดวงพร คุณากรวงศ์ นายอำเภอหนองหญ้าไซ นายวีระศักดิ์ บุญเจริญ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี น.ส.พจนา เสมา เกษตรและสหกรณ์ จ.สุพรรณบุรี นายอุบล เดชอุ่ม สหกรณ์ จ.สุพรรณบุรี นายไพโรจน์ ประสิทธิ์นอก ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี นางดวงแก้ว เลิศรัตนรังสี ประชาสัมพันธ์ จ.สุพรรณบุรี นายปภิณวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จ.สุพรรณบุรี นางอรวิน บุตรวงษ์ ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี นางเรณู พลเสน นายกเทศมนตรีตำบลปลายนา นางอารีย์ บำรุงราษฎร์ ผช.ผอ.สนง.ธกส.จ.สุพรรณบุรี นายแพทย์ประเสริฐ มงคลศิริ อดีต ผอ. รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกรและผู้ที่สนใจปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ กัญชา-กัญชง เข้าร่วมฟังการเสวนาจำนวนกว่า 500 คน
นายประภัตรฯ เล็งเห็นถึงประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ตามโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร และต้องการให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อน จึงเกิดเป็นการเสวนาฯ ในวันนี้ ซึ่งภายในงานได้จัดวิทยากรมาให้ความรู้ความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ เช่น
-ข้อแตกต่างระหว่างกัญชาและกัญชง
-การปลูกและการดูแลรักษา
-ความก้าวหน้าการปลดล็อกกัญชา จากบัญชียาเสพติด
-การใช้ประโยชน์จากกัญชาในภาคครัวเรือน
-ความเข้าใจในการปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชา
และเนื่องด้วยจังหวัดสุพรรณบุรี ได้สนับสนุนยุทธศาสตร์ "เมืองสมุนไพร สุพรรณบุรี" (Herb City)" โดยร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อผลักดันทั้งการผลิต แปรรูป และตลาด ที่มีผู้รับซื้อที่แน่นอนคือโรงพยาบาลอู่ทอง, ผู้ประกอบการเอกชน เป็นต้น ซึ่งในวันงานนายประภัตรฯ ได้นำเมล็ดพันธุ์กัญชา มาแจกให้กับทุกคนที่มาร่วมฟังการเสวนาฟรีคนละ 30 เมล็ด เพื่อนำไปปลูก สำหรับประชาชนที่สนใจปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ กัญชา-กัญชง ได้ศึกษาเรียนรู้ในการปลูกกัญชาเบื้องต้นด้วย
นายประภัตรฯ เผยว่า “เนื่องจากรัฐบาลได้ปลดล็อกการปลูกกัญชา กัญชงแล้ว ราษฎรก็ยังคงไม่เข้าใจ วันนี้ได้มีการเรียกประชุมผู้นำหมู่บ้าน ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ที่ให้ความสนใจ อยากจะรู้ว่าหลังจากที่ปลดล็อกแล้วจะเป็นอย่างไร จึงได้เชิญนักวิชาการ คุณหมอ ตำรวจ มาให้ข้อมูล กับพี่น้องเกษตรกรที่สนใจอยากจะปลูก ว่าปลูกได้ไหม แล้วสรุปแล้วคือปลูกได้ แต่จะทำเป็นธุรกิจการค้านั้นยังมีเงื่อนไขบางประการ ซึ่งต้องทำความเข้าใจต่อไปอีก แต่ปลูกเพื่อกินเอง รักษาตัวเอง แบบนี้ได้ ไม่มีปัญหา จะกี่ต้นก็ได้
ประการสำคัญก็คือว่าวันนี้มีคนคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้ ซึ่งผมก็เห็นด้วย ถ้าเมื่อมีการส่งเสริมให้มีการปลูกอย่างเสรีแบบนี้แล้ว ก็น่าจะให้เขามีรายได้ จากการปลูกกัญชง กัญชา คือแบบรูปได้ สกัดทำยาอย่างอื่นได้ เพราะมิฉะนั้นปลูกกันไม่รู้จะนำไปขายที่ไหน ปลูกแล้วจะเอาไปทำอะไร หากปลูกกันจำนวนมาก คนละไร่สองไร่ จะช่วยเกษตรกรอย่างไร เราก็จะรับข้อมูลนี้ไปแล้วฟังดูว่ากฎหมายกำลังเข้าอยู่ในสภา กำลังแปรญัตติกัน จะแปรอย่างไร ทำให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร วันนี้ทุกคนหวังมาก ว่าจะมีผลประโยชน์ค้าขายเรื่องกัญชง กัญชาได้ แต่พอฟังรายละเอียดลึกๆแล้วก็ทำไม่ได้ แต่สำหรับการกินเป็นยาเนี่ย ผมเห็นด้วย ผมเองก็กินนะ เป็นน้ำกัญชาแบบแคปซูล ทำให้เราหลับลึกขึ้นและทำให้ร่างกายตื่นมาตอนเช้าแล้วสดชื่นขึ้น”
นับว่าเป็นการเสวนาที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ สร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรและประชาชนที่สนใจจะได้นำไปใช้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย การค้า หรือการสร้างรายได้จากพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยนี้