หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ธรรมเนียมสินสอดของเกาหลี

โพสท์โดย tyuoi

ธรรมเนียมสินสอดของเกาหลี

ธรรมเนียมดั้งเดิมของการแต่งงานเกาหลี

ธรรมเนียมการแต่งงานแบบดั้งเดิมของเกาหลีถือว่าแตกต่างกับธรรมเนียมการแต่งงานของประเทศอื่นๆ

 

ที่อยู่ใกล้เคียงกัน  หลายประเทศในแถบเอเชียรวมถึงไทยที่ส่วนใหญ่เวลาที่ผู้หญิงแต่งงานจะเป็นการแต่งออกจากบ้านเพื่อไปอยู่กับเจ้าบ่าว

แต่การแต่งงานแบบดั้งเดิมของเกาหลีที่มีมาตั้งแต่สมัยโกรยอ (고구려) เรียกว่า "서옥제" (ซออกเจ)

ซึ่งถือธรรมเนียมที่เมื่อแต่งงานฝ่ายชายจะต้องย้ายมาอยู่บ้านของผู้หญิง โดยบ้านของฝ่ายหญิงจะสร้างบ้านหลังเล็กๆให้กับคู่แต่งงานใหม่ และทั้งคู่จะต้องอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าลูกจะโต (หรืออายุประมาณ 10 ปี) ค่ะ

 

ซึ่งเมื่อฝ่ายหญิงต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านฝ่ายชาย จะนำอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆติดตัวไปด้วยและหากครอบครัวฝ่ายหญิงมีฐานะร่ำรวย

ทางครอบครัวก็จะส่งของมีค่า, คนรับใช้และข้าวสารให้ไปด้วย เพื่อหวังว่าลูกสาวจะมีชีวิตที่สุขสบายค่ะ

ที่เกาหลีไม่มีธรรมเนียมการให้สินสอด (Dowry) มาตั้งแต่สมัยอดีต โดยมีความเชื่อว่า "การรับเงิน, ทองหรือของมีค่าสำหรับการแต่งงานเป็นเรื่องที่น่าอับอาย

เพราะเหมือนเป็นการขายลูกสาว" ดังนั้นตั้งแต่อดีตฝ่ายเจ้าบ่าวจะมอบเป็นผลผลิตการเกษตรหรือวัวเป็นของขวัญแต่งงานแทนการมอบเงินค่ะ

 

 

แต่ช่วงปลายของสมัยโชซอนระบบปิตาธิปไตย (Patriarchy: 가부장제) หรือระบบที่ถือผู้ชายเป็นใหญ่ ได้เริ่มมีบทบาทในสังคม ทำให้มีการนำแนวคิดว่า

"การแต่งงานควรจัดที่บ้านของฝ่ายชาย" มาใช้ แต่สุดท้ายแล้วคนเกาหลีในยุคนั้นก็ไม่ได้ทำตาม และยังคงจัดการแต่งงานที่บ้านเจ้าสาวค่ะ

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือธรรมเนียม "서옥제" (ซออกเจ)

โดยเปลี่ยนเป็นคู่แต่งงานที่เป็นลูกคนโตจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่อายุมาก

และคู่แต่งงานที่เป็นลูกคนรองหรือลูกคนเล็ก จะอาศัยอยู่กับพ่อแม่เพียงระยะหนึ่งและจะแยกบ้านออกมาอยู่เองในเวลาต่อมาค่ะ

ธรรมเนียมการแต่งงานที่เปลี่ยนไป

 

ช่วงปี 1960-1970 เป็นช่วงที่เกาหลีใต้เริ่มเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม คนวัยหนุ่มสาวจะนิยมมาทำงานในตัวเมือง

ขณะที่พ่อแม่จะทำการเกษตรอยู่ที่นอกเมือง

ต่เมื่อแต่งงานแล้วคู่บ่าวสาวยังคงยึดธรรมเนียมการอยู่กับพ่อแม่ซักระยะและหลังจากนั้นก็จะแยกออกมาอยู่เองค่ะ

หลังจากช่วง IMF ธรรมเนียมการอาศัยอยู่กับพ่อแม่หลังแต่งงานก็ค่อยๆหายไป

แต่เมื่อแต่งงานแล้วคู่บ่าวสาวยังคงยึดธรรนอกทันทีหลังจากแต่งงาน แต่ความคิดเรื่องการแต่งงานที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ

"ความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายซื้อบ้าน" (남자는 집, 여자는 혼수) ค่ะ

โดยความคิดเรื่องการแต่งงานแบบนี้คือ ผู้ชายจะเป็นผู้จัดเตรียมบ้านในขณะที่ผู้หญิงจะเป็นผู้จัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นในบ้านและเงินสด

(10%~20%ของราคาบ้าน) ถูกปลูกฝังและเผยแพร่ให้คนเกาหลี ทำให้เชื่อกันว่านี่เป็นธรรมเนียมการแต่งงานที่ถูกต้องและเหมาะสมค่ะ

 

 

แม้ว่าเราจะพยายามค้นหาเหตุผลที่แท้จริงของธรรมเนียมการแต่งงานนี้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่อธิบายอย่างชัดเจน

แต่จากการวิเคราะห์และพูดคุยกับคนเกาหลีทำให้เชื่อว่า

สมัยก่อนสังคมเกาหลีเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นหลัก ส่วนใหญ่ผู้ชายจะมีบทบาทในการหาเงินและมีโอกาสทำงานมากกว่า

นอกจากนั้นแม้ว่าจะทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดียวกัน แต่มีแนวโน้มว่าผู้ชายจะได้รับเงินที่มากกว่าผู้หญิง

ดังนั้นในการแต่งงานผู้ชายจึงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลักก็คือ "การซื้อบ้าน" ในขณะที่ผู้หญิงจะเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านค่ะ

สำหรับธรรมเนียมการแต่งงานแบบนี้ศาสตราจารย์ด้านวัฒนธรรมการแต่งงานของ Keimyung University กล่าวว่า

"นี่ไม่ใช่ธรรมเนียมที่ถือปฎิบัติมาตั้งแต่ดั้งเดิมของเกาหลี เป็นเพียงธรรมเนียมที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไม่กี่ 10 ปีก่อนเท่านั้น"

และธรรมเนียมนี้ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับคู่บ่าวสาวและพ่อแม่ที่ต้องหาเงินจำนวนมากค่ะ

 

ธรรมเนียมการแต่งงานในปัจจุบัน

 

 

จากการสำรวจเมื่อปี 2021 พบว่าค่าบ้านของคู่แต่งงานคือ 192.71 ล้านวอน (5.5 ล้านบาท) ในขณะที่ค่าเครื่องใช้ที่ฝ่ายหญิงต้องจัดเตรียมนั้น 13,090,000 วอน

(370,000 บาท) ซึ่งรวมกับของขวัญที่ฝ่ายหญิงต้องเตรียมอีกประมาณ 13.48 ล้านวอน (380,000 บาท)ค่ะ

จะเห็นว่าภาระค่าใช้จ่ายของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต่างกันมาก

โดยผู้ชายต้องรับผิดชอบมากถึง 61% ขณะที่ผู้หญิงรับผิดชอบ 39% ทำให้หลายคู่เลือกที่จะไม่แต่งงานเพราะปัญหาด้านการเงิน และหลายคู่ที่แต่งงานก็ต้องเจอปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการทำตามธรรมเนียมค่ะ 

 

 

แต่เนื่องจากความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น ทำให้คู่แต่งงานเกาหลีรุ่นใหม่เริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับธรรมเนียมการแต่งงาน โดยเรียกว่า

"การแต่งงานคนละครึ่ง" (반반 결혼) ซึ่งหมายความว่าทั้งสองฝ่ายจะรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายในปริมาณที่เท่าๆกันค่ะ

ซึ่งคู่แต่งงานจะทุ่มงบไปที่ค่าใช่จ่ายที่มากที่สุดก็คือ "บ้าน" โดยการรวบรวมเงินทั้งหมดที่พวกเขามี หรือกู้เงินหรือขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่

และเลือกที่จะลดค่าใช้ที่ไม่จำเป็นเช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับพิธีการหรือของขวัญที่ไม่จำเป็น และประหยัดเงินโดยทุ่มงบประมาณจำนวนมากสำหรับฮันนีมูนหรือเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ค่ะ

 

 

แต่ความคิดของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับธรรมเนียมการแต่งงานมักขัดแย้งกับการรับรู้เรื่องการแต่งงานของคนรุ่นพ่อแม่ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง

เนื่องจากผู้ใหญ่มักมองถึง "ความเหมาะสม" ตามความคิดของตนเอง ซึ่งทำให้คู่แต่งงานบางคู่เกิดปัญหาร้ายแรงกับพ่อแม่ระหว่างเตรียมงานก็มีค่ะ 

เนื้อหาโดย: tyuoi
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tyuoi's profile


โพสท์โดย: tyuoi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นด่วน ปภ.แจ้งเตือนสงขลา ฝนตกหนัก 3 อำเภอ ระวังน้ำท่วมและดินถล่มย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วจึ้งตั้งแต่ช็อตแรก! “เบสท์ รักษ์วนีย์” ปล่อยภาพชุดว่ายน้ำวันพีซ ริมสระ ทำไอจีลุกเป็นไฟ 🔥ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จึ้งตั้งแต่ช็อตแรก! “เบสท์ รักษ์วนีย์” ปล่อยภาพชุดว่ายน้ำวันพีซ ริมสระ ทำไอจีลุกเป็นไฟ 🔥ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจหุ้น Facebook ลงเกือบ 30% ในคืนเดียวอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีให้คะแนนไทยในการจัดซีเกมส์ 100 เต็ม 10 พร้อมส่งกำลังใจถึงทีมชาติช้างศึกหลังพลาดเหรียญทอง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
"สกีบก" ของเล่นเด็กในฐาน สามัคคีคือพลังเก้าเท้าพร้อมกันสร้างความผูกพันที่มีความแข็งแกร่งขอวนักวางแผน"รถไต่ถัง"ผจญภัยที่มากกว่าทุกสิ่งอย่าง การทรงตัวต้องมีความมั่นคงการพังทลายของปราสาทที่รอการบูรณะซ่อมแซม (กัมพูชา)ร่องรอยบนใบหน้านั้นอาจจะเลือนลาง พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลติเตศวร
ตั้งกระทู้ใหม่