สอบติดมหาวิทยาลัยที่หวัง แต่ไม่ใช่คณะที่ตั้งใจ

Ep.3 ต่อกันเลย เล่าลักเลยละกันนะ พอทำความรู้จักรู้จักเพื่อน มีเพื่อนมีกลุ่มแล้ว ก็เรียนมาเรื่อยๆ มีเพื่อนสนิทหลายคนเลย จนถึงม.3 ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้าย บ้างก็เรียนต่อที่เดิม บ้างก็เรียนต่อที่อื่น บางคนก็ทำงานเลย แต่เรากับกลุ่มเพื่อนสนิท เรียนที่เดิม อ้อลืมบอกไปว่า เราอยู่ห้อง1 ซึ่งเป็นห้องเด็กเรียนใช่มั้ย ก็จะมีคนเก่งๆหลายคน แต่มีบางคนที่ไม่เก่งเหมือนกัน ไม่ได้เรียกว่าไม่เก่งแต่เขาดื้อเรียกง่ายๆ ก็คือไม่ค่อยสนใจเรียน น่าจะเป็นเด็กที่หลุดจากการคัดมา

ส่วนเราเรียกว่าขยันละกัน ไม่เก่ง มีเรื่องที่จำขึ้นใจอยู่เรื่องนึง คือเราสอบตกภาษาอังกฤษ ซึ่งเราอยู่ห้อง1 มีคนตก 3 คนมั้งถ้าจำไม่ผิดรวมเรา คือแบบแล้วต้องไปสอบซ่อมรวมกับห้องอื่นคิดดูเรารู้สึกว่าตัวเองด้อยไปเลย อยู่ห้อง1 ละสอบตก แต่รู้ป้ะมันทำให้เราเรียนดีขึ้น ไม่รู้เพราะอะไร ตั้งแต่ตกรอบนั้นคือเราไม่ตกอีกเลย บอกก่อนว่าตอนประถมเราโง่อังกฤษมาก แต่ชอบคณิต คือคำว่า โรงเรียนเรายังเขียนไม่เป็นคิดดู🤣 เล่าละขำตัวเอง จำได้ว่าพึ่งมาได้ภาษาอังกฤษตอนม.2 มั้งนะ เรียนกับครูคนนึง ซึ่งครูสอนดีมากกกกกก ก ไก่ล้านตัว ทำให้เราที่โง่อังกฤษ เข้าใจเฉย😅 พอเรียนม.ต้นไป รู้สึกว่าตัวเองเก่งอังกฤษขึ้นเยอะมากก

ลืมเล่าๆ ขออวดหน่อย เราไม่เก่งขนาดนั้นแต่เป็นเด็กขยันใช่มั้ย ละความขยันอ่ามันทำให้เราได้เป็นนักเรียนดีเด่น ตอนม.ต้น คือแบบ จำได้เลย ได้รับรางวัล เกรดรวมๆ เราดีมาก ได้ที่1 ของระดับเลย แอบดีใจ555 (ทั้งระดับชั้นมีประมาณ 500 กว่าคนนะ มีทั้งหมด 14 ห้องเพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ในอำเภอ) มันรู้สึกดีนะ เวลาเราตั้งใจทำอะไรแล้วมันประสบความสำเร็จ เหมือนกับสิ่งที่ทำมันบรรลุเป้าหมาย😃 มาถึงตรงนี้ยาวจัด เล่าๆมาแล้วเรื่องผุดมาเรื่อยๆ ก็เนาะตั้ง3 ปีที่อยู่ม.ต้นเล่ามาแค่นี้มันแค่เสี้ยวเดียวของทั้งหมด เอาเป็นว่าตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.3 เราเรียนดีมาก ตั้งใจมาก เพราะอยากได้เกรดดีๆ แล้วเราก็ทำได้ ข้ามมาที่

เรากับเพื่อนต่อโรงเรียนเดิมเลยนะ แล้วประเด็นคือ มันมีโควต้าสำหรับนักเรียนเก่าที่เรียนดี ไม่มีปัญหาอะไร เรียนต่อได้โดยไม่ต้องสอบ คือดี~ แต่มีตัวเลือกอีกแล้ว มีสองห้องที่เราต้องเลือกเรียน คือห้อง1 ห้องกิฟเต็ด  กับห้อง2 ห้องวิทย์-คณิต คือจริงๆ ม.ปลายมีหลายสายให้เลือกเรียนนะ มีวิทย์-คณิต ศิลป์ภาษา ศิลป์คำนวล แล้วก็มีสายคล้ายๆเทคนิคให้เรียนด้วย พึ่งเปิดหลักสูตรนี้แหละ เป็นพวกช่างไฟฟ้า อุตสาหกรรมเกษตรแปลรูปอะไรแบบนี้ แต่เราเรียนห้อง1 มาไง แล้วก็รู้มาว่า เรียนสายวิทย์-คณิต จะมีทางเลือกเยอะกว่า

ตอนสอบเข้ามหาลัย เราก็ตั้งใจจะสอบอยู่แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะสอบอะไร อยากเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะสอบติดไหม เลยเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต มาถึงตรงนี้วันนี้เขียนยาวไปละ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อน้า ให้ลองเดาว่าเราเลือกห้อง1ห้องกิฟ หรือห้อง2 ลืมบอกว่าสองห้องนี้ต่างกันที่ ค่าเทอมแล้วก็สวัสดิการเพิ่มเติมเช่นห้องแลป มีแลปมากขึ้น ได้ใช้เครื่องมือเยอะขึ้น ได้ไปเที่ยวดูงานที่ไกลๆ ส่วนห้อง2 เป็นห้องวิทย์-คณิตธรรมดา ค่าเทอมต่างกันตามนี้ 1ประมาณ25000 2ประมาณ5000 🤣 ขอบอกว่าบ้านส่งเรียนไหว ลองเดาดูว่าเราเลือกเรียนอะไร🤔🤓🫣