เกิดเป็นพิมรี่พายต้องแกร่งแค่ไหน..ฝ่าดราม่าจากทำความดี
พิมรี่พายทำอะไรก็เจอดราม่า...คนทำความดี ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะท้อ...หันหลังไม่เอาต่อแต่เธอคือคนแกร่ง..ล่าสุดกับเหตุการณ์นี่
ช่วยคนที่เขา...
จนต้องแถลงข่าว
การแถลงของ #พิมรี่พาย รอบนี้ขอชื่นชมว่าเตรียมตัว ข้อมูลมาดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมอารมณ์ น้ำเสียงและท่าทาง ได้ซีนรับมงไปเลย ขอให้เรื่องนี้จบด้วยดี (แค่ฝั่งพิมพ์)pic.twitter.com/i0gcjoPGJx
— เฮ้ยนี่มันสาระนี่หว่า (@wowmakessense) May 15, 2022
สรุปดราม่า พิมรี่พาย คุณส้ม
1. ปี 2564 พิมรี่พาย ได้ให้ความช่วยเหลือ ‘’คุณส้ม’’ ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งป่วยเป็น ‘’โรคกล้ามเนื้อสลาย’’ โดยพิมรี่พายได้ให้ความช่วยเหลือกับคุณส้มหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกค่ารักษาพยาบาล การให้ที่พักอาศัย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ
2. พฤษภาคม 2565 หลังจากคุณส้มได้รับการช่วยเหลือไปกว่า 1 ปี ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ตนเองยังเดินไม่ได้ ไม่ได้รับการช่วยเหลือในฐานะคนพิการ ไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง สูญเสียทรัพย์สินจากการทำความสะอาดห้อง รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่ตรงกับที่พิมรี่พายได้เคยออกมาให้ข้อมูล
3. 15 พฤษภาคม 2565 พิมรี่พายชี้แจงกรณีคุณส้ม ในหลายๆ ประเด็น ดังนี้
• กรณีคุณส้มไม่มีบัตรผู้พิการ เนื่องจากคุณหมอที่ทำการรักษาวินิจฉัยว่า เคสของคุณส้มมีโอกาสรักษาให้หายได้ แต่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 16 ครั้ง และเนื่องจากที่พักอาศัยของคุณส้มค่อนข้างคับแคบแออัด อากาศไม่ถ่ายเท อาจส่งผลต่อการรักษา (ตามคำวินิจฉัยของคุณหมอ) จึงให้บริษัทรับจ้างทำความสะอาด เข้าทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของคุณส้ม ซึ่งในขณะทำความสะอาด คุณแม่ของคุณส้มก็ได้เก็บทรัพย์สิน สิ่งของต่างๆ เอาไว้หลายอย่าง
ทั้งนี้ตนเองยังได้เช่าห้องเพิ่มให้อีก 1 ห้อง เพื่อใช้เป็นห้องสำหรับเก็บสิ่งของ โดยเช่าให้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2564 ถึง มกราคม 2565
4. พิมรี่พาย ออกค่ารักษาพยาบาล ค่าบริษัททำความสะอาด ค่ารถพยาบาล ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ รวมเป็นเงิน 120,000 บาท
5. มกราคม 2565 คุณส้มโทรมาแจ้งกับทีมงานว่ายังเดินไม่ได้ ทีมงานจึงได้เช่าห้องพักต่ออีก 3 เดือน รวมทั้งหมดเป็น 6 เดือน ซึ่งจากเดิมทำสัญญาเช่าพักไว้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
6. กรณีที่คุณส้มยังเดินไม่ได้ ทางพิมรี่พายชี้แจงว่าเป็นเรื่องจริง แต่ที่คุณส้มยังเดินไม่ได้ เป็นเพราะคุณส้มขอหยุดพักการรักษาเอง ไม่ใช่เพราะทีมงานของพิมรี่พายไม่ให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด
7. หากย้อนไปดูเอกสารบันทึกการรักษา ของวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรักษา ในบันทึกระบุว่า ‘’ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ช่วยเหลือตัวเองได้ เปลี่ยนอิริยาบทจากนอนเป็นนั่ง และจากนั่งเป็นยืนได้ด้วยตัวเอง’’
8. จากบันทึกการรักษายังพบว่า ผู้ป่วยมีอาการปวดหลัง ปวดหัว เป็นไข้ และคนไข้ขอหยุดการทำกายภาพ ตั้งแต่ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป โดยอ้างว่า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทั้งนี้ยังได้รับคำยืนยันจากคุณหมอว่า ‘’คนไข้ไม่อยากเข้ารับการรักษาแล้ว’’
9. 26 พฤศจิกายน 2564 คุณส้มไลน์มาขอให้พิมรี่พาย ชดใช้ค่าเสียหายกรณีบริษัททำความสะอาด ขนของในห้องไปทิ้งจนเกือบหมด เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 32,415 บาท ซึ่งพิมรี่พายได้พยายามชี้อแจงว่า ไม่ได้มีการขนสิ่งของมีค่า หรือมีมูลค่าไปทิ้งแต่อย่างใด ทิ้งเฉพาะกล่องลัง กับอาหาร ที่ใช้ไม่ได้ หรือบริโภคไม่ได้แล้วเท่านั้น
10. พิมรี่พาย ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมคุณส้มได้รับการช่วยเหลือจากพิมรี่พายแล้ว แต่ยังชอบโพสต์ขอรับบริจาค ขอความช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ เพราะพิมรี่พายก็ให้ความช่วยเหลือที่เพียงพออยู่แล้ว ซ้ำร้ายคุณส้มยังเคยแจ้งกับทีมงานของพิมรี่พายอีกว่า ‘’เป็นเพราะพิมรี่พายมาช่วยเหลือทำให้ยอดบริจาคน้อยลงกว่าแต่ก่อน’’
11. ช่วงเย็นของวันที่ 15 พฤษภาคม ภายหลังเสร็จสิ้นการชี้แจงของพิมรี่พาย คุณส้มได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุคส่วนตัวว่า ‘’ขอบคุณที่ออกมาพูดเเต่การเก็บของกับการเอาของไปมันไม่ตรงกันเลย เเละการที่หมอมานี่ตรงกันข้ามเลยนะ (หมอนี่เก่งอ่ะ) ความจริงคือความจริงนะไม่มีใครอยากโกหกเเน่นอน’’
ขอบคุณข้อมูลภาพ