[รีวิวหนังใหม่] ใครอยากดูหนังฟรี ที่สุดแห่งความดี มาทางนี้!! พบกับ หยาดน้ำเพื่อชีวิต My King My Strength 10 หนังสั้น 10 ผู้กำกับ
.
.
ฟังรีวิวแบบจัดเต็มๆได้ในคลิป
.
.
หยาดน้ำเพื่อชีวิต My King My Strength (งดเว้นการให้คะแนนละกัน)
.
.
เอาหน่อย ในเมื่อจัดฉายฟรีแบบนี้
ไม่ว่าตัวคอนเทนต์จะมีจุดยืนอย่างไร แต่เราก็อยากเข้าไปสำรวจ 10 หนังสั้น 1 แรงบันดาลใจ ว่าในพ.ศ.นี้ หนังที่มีเนื้อหาประมาณนี้ จะถูกถ่ายทอดออกมาในฟิลไหนบ้าง
โอเค เขียนเป็นข้อๆดีกว่า รีวิวให้ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเลยอ่ะ
.
.
1. เอาจริงๆ target ของหนังชัดอยู่นะ เพราะเราดูโรงพารากอน แต่คนมาดูราวๆครึ่งโรงเลย เห็นได้ชัดว่าเกือบ 100% เป็นลุงๆป้าๆ คุณตา คุณยาย และในวัยที่อาจจะเข้าโรงไม่บ่อยนัก หน้าโรงก็เห็นป้าสองคนถ่ายรูปหน้าโรงกัน ทั้งที่ไม่มีป้ายโปสเตอร์หรือสัญลักษณ์ชื่อหนัง ก็คือถ่ายกันหน้าโรงเฉยๆนั่นแหละ ซึ่งก็ไม่เป็นไร เราก็เดินเข้าไป ไม่เจอใครที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันหรือใกล้เคียงเลย มีแต่สว.รายล้อม
.
.
2. เราตรงไปยังที่นั่งตามบัตร แต่ก็พบว่าตรงนั้น สว.นั่งทั้งแถบแล้ว แกว่าแกไม่พอใจที่นั่งเก่าแกอะไรสักอย่าง เลยมานั่งที่นั่งในบัตรเราแทน และบอกให้เราไปเลือกหาที่นั่งใหม่เองนะหลานนะ (อ่ะเคร ฟิลแบบคนไทยช่วยๆกันนิดๆหน่อยๆไรงี้!?)
.
.
3. ก็โชคดีเจอที่นั่งว่างอยู่ ไม่ไกลกันจากที่เดิม
เช็คแล้ว ไม่มีใครนั่ง เราก็นั่ง และจากนั้นก็ยืน
เมื่อถึงเวลาที่ต้องยืน สังเกตเห็นว่า มีป้าข้างๆคนนึง
กวาดลูกตาไปรอบโรงราวกับสกรีนว่า มีใครมาดูหนังเรื่องนี้
แล้วกล้าไม่ยืนไหม
.
.
4. อ้อ ก่อนหนังเริ่มฉาย มียายสว.คนนึง เอ่ยปากดังๆขึ้นมาในโรง ประมาณว่า ชั้นจะถ่ายรูป ไม่รู้ยายอยากถ่ายรูปหน้าโรงหรืออะไร แต่จู่ๆแกก็ลุกไปจากโรงเลยจ้า แล้วหนังก็เริ่ม
.
.
5. เรื่องแรกเปิดมา ราวกับข่าวพระราชสำนัก หนังมีความอธิบายคุณงามความดีตั้งแต่ร.1ไปจนถึงร.10 พร้อมจัดช๊อตสวยๆด้วยโดรน และแน่นอน ไม่ต้องมีคอนฟลิคอะไรทั้งนั้น เน้นให้ข้อมูลรัวๆ ส่วนคนที่ซาบซึ้งอยู่แล้วก็น่าจะอิ่มเอมกันไป ปัญหาคือ ตอนแรกมันเริ่มหยอดยารอนหลับให้แล้วสิ
.
.
6. ตอน2-4 ดูไปหลับไป
.
.
7. มาตั้งใจดูอีกทีในตอนของพี่เผด็จ และก็หลังจากนั้นเลยตอน5ขึ้นไป ป้าๆยายๆลุงๆเริ่มสมาธิหายละ เริ่มดูไปคุยไป ที่หนักสุดคือยายข้างหลังกระแอมเสียงราวกับจะขากสเลทตลอดเวลา
.
.
8. เราต้องใช้ความอดทนพอตัวในการนั่งอยู่ตรงนั้น
จนกระทั่งได้ดูตอนที่พี่ปื๊ดกำกับ ครูข้างถนน ที่นำแสดงโดยพี้อ๊อฟ กลายเป็นว่า ตอนนี้ได้มาช่วยชีวิตหนังเรื่องนี้ไว้ทั้ง10เรื่อง คือเล่าดีสุด แสดงธรรมชาติ มีความเรียล ไม่ต้องอวยจนเกินไป โอเคถือว่าเป็นตอนแรกที่เรารู้สึกว่า โอเคในบรรดาที่ดูมา แต่ไม่โอเคคือยายข้างหลังเริ่มเป็นเอามาก ทั้งกระแอมทั้งเสียงดัง แถมหันไป แกเก้ๆกังๆจะถอดแมสใส่แมสด้วย เราเลยลุกเลย ว่าจะลุกออกจากโรงเลยดีไหม
.
.
9. แต่เมื่อเท้ากำลังจะก้าวจากโรง ไปเจอที่นั่งริมๆปลอดคนว่าง เราเลยคิดอีกทีว่า ในเมื่อคงไม่น่ามีโอกาสได้กลับมาดูซ้ำ ก็สู้ดูให้จบไปเลยดีกว่า สุดท้ายก็นั่งดูต่อ เพราะพบชื่อตอนที่น่าสนใจฉายเป็นเรื่องถัดไป หนังมีชื่อตอนว่า "เด็กชายกะทิ" อิอิ
.
.
10. ไม่รู้จงใจไหม แต่กลายเป็นว่าชื่อนี้ มีผลทำให้เราตั้งใจดูทั้งเรื่อง ซึ่งตัวหนังก็มีความอวยแหละ แต่วิธีการเล่าทำได้น่ารักดี ชอบเพลงที่เขานำมาใส่ ถือว่าเป็นเรื่องที่2 ที่คิดว่ามีการเล่าที่ใช้ได้ (ส่วนเนื้อหาใครชอบไม่ชอบก็แล้วแต่คนน่ะนะ)
.
.
11. อีกเรื่องที่พอโอเคในบรรดาทั้งหมดคือเรื่องสุดท้าย
ชื่อว่า รักต่อรัก>>ต่อไป ซึ่งตอนแรกคิดว่าชื่อแปลกมาก แต่หนังยาวใช้ได้ เล่าเรื่องได้ลงตัวในแบบของมัน
.
.
.
12. กระนั้นแล้ว หากมองภาพรวม
หนังเรื่องนี้ก็มีเจตนาอยากให้คนรุ่นใหม่ๆ(หรือรุ่นใหญ่ๆ)
รำลึกถึงคุณงามความดีสถาบันพระมหากษัตริย์
แต่ด้วยวิธีการเล่า บางทีพอมันชัดมากๆ แล้ว10เรื่องต่อกัน
คุณน่าจะจินตนาการได้ว่าเป็นอย่างไร (โดยเฉพาะเวลาเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ร.10หรือแม้แต่ร.9ปรากฏขึ้นเป็นระยะตลอดทั้ง10เรื่อง) ถ้าคอนเทนต์ทริบิวที่เล่าสมูธโดยไม่ต้องอัดเข้าไปเยอะ หนังอย่าง 'พรจากฟ้า' ก็ดูจะมีความกลมกล่อมมากกว่า
.
.
13. อีกจุดคือมีหลายเรื่องที่นักแสดงเล่นไม่ถึง หรือบท และการเล่าเรื่องยังไม่คม ทำให้พาตัวคอนเทนต์ไปได้ไม่สุด (แม้มันจากโปรฝั่งขวา แต่บางคอนเทนต์ที่ทำถึง มันก็จะสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้เช่นกัน อย่าง ทวิภพ อะไรแบบนี้)
.
.
14. โปสเตอร์มันดูไม่ค่อยเหมือนโปสเตอร์หนังเท่าไหร่
คนที่มาเห็นก็อาจงงๆได้ อาจนึกว่าเป็นคอนเสิร์ตรวมศิลปินเพื่อการกุศล อันนี้ความเห็นส่วนตัว
.
.
15. 10เรื่อง ความยาวรวมยาวกว่าหนังDoctor Strangeภาคต่ออีก ซึ่งพอดูแล้วรู้สึกว่ายาวไปจริงๆ เรื่องหลังๆคุณยายคนนึงก็พูดกลางโรงว่า 'ยังไม่จบอีกเหรอ' ขึ้นมาดังๆเฉยเลย ทั้งที่ตัวคอนเทนต์ แกน่าจะเอนจอยได้ไม่ยากนะ แปลว่าสำหรับยาย หนังอาจยาวมากไปแล้วนี๊สนึง (พลีส อย่าหันมาถามเราว่าคิดว่ามันควรจบตั้งแต่เรื่องไหน?)
.
.
16. ยังไงก็ตาม หนังดูฟรีถึงวันที่3 พค. นี้ รอบบ่ายสอง กับสองทุ่มมั้งถ้าจำไม่ผิด มีที่พารากอน รัชโยธิน เอสพลานาดแคราย หรือที่อื่นๆอีกสามสี่ที่ ยังไงใครสนใจก็ไปเชคข้อมูลเอาน่อ เขาแจกบัตรก่อนหนังฉาย 1 ชม.
.
.
17. แต่การได้ดูหนังสั้น 10 เรื่องในโรงครั้งนี้ ทำให้เราคิดถึงการไปดูหนังสั้นธีสิสของน้องๆนศ.หลายสถาบันในช่วงหลังๆเหมือนกันนะ เพราะงานน้องๆเหล่านั้น วิธีคิด วิธีเล่า รวมถึงการหานักแสดงมารับบทในหนัง คือโคตรโปร โคตรล้ำ คุณภาพงานและการผลิตสูงมาก จนอดคิดไม่ได้ว่า อยากให้ผลงานน้องๆเหล่านั้นมีโอกาสเผยแพร่จัดฉายในวงกว้างแบบนี้บ้างจัง