สมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กษัตริย์กัมพูชาผู้เจ็บพระทัยสวรรคตเพราะเสียดินแดนให้ไทย
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (เขมร: ព្រះបាទស៊ីសុវតិ្ថមុនីវង្ស) เอกสารไทยในบางแห่งเรียกว่า สมเด็จพระศรีสวัสดิ์มณีวงศ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 111 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์รองของ พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองสีสุวัตถิ์) กษัตริย์แห่งกัมพูชาสมัยใหม่องค์ที่ 3 พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์กษัตริย์แห่งกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2470
จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2484 ในรัชสมัยของพระองค์ กัมพูชาเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส พระองค์ถือเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่สืบสายราชสกุลราชสกุลสีสุวัตถิ์
เสด็จพระราชสมภพเมี่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2418 ที่พนมเปญ และเสด็จสวรรคตเมี่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2484 พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์รองของ พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองสีสุวัตถิ์)กษัตริย์แห่งกัมพูชารัชกาลที่ 110 พระองค์ประสูติแต่พระมารดาคือ นักมณีเนียง วณ ภายหลังมีพระนามว่า สมเด็จพระวรราชินี (วณ) พระมเหสีที่ได้มีประสูติกาลพระราชบุตรองค์ที่ห้าของพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีนถือเป็นคราวที่กัมพูชาเสียดินแดนพระตะบอง, เสียมราฐ และศรีโสภณในปี ค.ศ. 1941 แม้ว่าฝรั่งเศสจะไม่ยอมคืนนครวัดให้แก่ไทยก็ตาม แต่ก็เทียบไม่ได้กับดินแดนขนาดใหญ่ที่สูญเสียไป
ด้วยเหตุนี้พระองค์ก็ทรงขัดเคืองและขมขื่นพระหฤทัยเป็นอันมาก ทรงปฏิเสธที่จะพบเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสและไม่รับสั่งภาษาฝรั่งเศสอีกเลย เพราะทรงเห็นว่าฝรั่งเศสไม่สามารถปกป้องดินแดนของพระองค์ไว้ได้ จนกระทั่งทิวงคตในเดือนเมษายนปีเดียวกันนั้น มีนักประวัติศาสตร์ชาวกัมพูชาคนหนึ่งบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ว่า
"โดยเจ็บพระทัยกับการแย่งชิงของสยามนี้ พระสุขภาพต้องทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว แล้วพระบาทสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์เสวยทิวงคต"
แต่ธิบดี บัวคำศรี ให้ความเห็นว่า "ข้อที่ว่าการเสียดินแดนเป็นเหตุให้สมเด็จพระสีสุวัตถิ์ [มุนีวงศ์] ทรงตรมพระทัยถึงแก่สุรคุตนั้นจะจริงเท็จประการใดอาจไม่สำคัญเท่ากับการชี้ให้เห็นว่า ไม่เฉพาะแต่กษัตริย์เท่านั้น ชั้นแต่ไพร่ฟ้าพลเมืองก็ให้ความสำคัญต่อ "ดินแดน" ที่สูญเสียไปอย่างมาก"
หลังจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2484 องค์รัชทายาท คือ สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ พระราชโอรส ไม่ได้เป็นกษัตริย์สืบต่อมา เนื่องจากวิชีฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นผู้ปกครองเขมรอยู่ในขณะนั้น ได้คัดเลือกให้ หม่อมราชวงศ์นโรดม สีหนุ ซึ่งเป็นพระนัดดาที่ประสูติจาก พระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิริวัฒนา พระราชธิดาของพระองค์และเป็นเหลนของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ขึ้นครองราชย์แทน เนื่องจากฝรั่งเศสเห็นว่าบังคับบัญชาง่ายกว่า
ทำให้การสืบราชสันตติวงศ์กลับไปยังสายของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร หรือ นักองราชาวดีอีกครั้งหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์