10 อันดับทะเลที่เล็กที่สุดในโลก / Top 10 World’s Smallest Seas
ทะเล เป็นส่วนชายขอบของมหาสมุทร ที่ล้อมรอบด้วยแผ่นดิน เกาะ หมู่เกาะ หรือคาบสมุทร อย่างไรก็ตาม มีทะเลหลายแห่ง ที่จริง ๆ แล้วไม่ใหญ่กว่าทะเลสาบขนาดใหญ่มากนัก ทะเลเล็กๆ เหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วโลก
และแต่ละแห่งก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และรายการต่อไปนี้คือทะเลที่เล็กที่สุดบางส่วนของโลก
10. Hudson Bay (1,230,000 km²)
แหล่งน้ำเค็มขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแคนาดา ตั้งชื่อตามเฮนรี่ ฮัดสัน ชาวอังกฤษ ที่แล่นเรือให้กับบริษัท Dutch East India โดยอ่าวฮัดสันมีพื้นที่ 1,230,000 ตารางกิโลเมตร
และถือเป็นอ่าวที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากอ่าวเบงกอล แม้ว่าจะไม่ชัดเจนในทางภูมิศาสตร์ แต่ด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศ จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอาร์กติก โดยอ่าวฮัดสันตอนเหนือมีภูมิอากาศแบบขั้วโลก
ทำให้มีระดับความเค็มเฉลี่ยต่ำกว่าน้ำทะเลในมหาสมุทร เนื่องจากอัตราการระเหยต่ำ และมีน้ำแข็งปกคลุมเกือบทั้งปี
9. Yellow Sea (382,000 km²)
ทะเลชายขอบของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ตั้งอยู่ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และคาบสมุทรเกาหลี และถือได้ว่าเป็นส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลจีนตะวันออก ทะเลเหลืองได้ชื่อมาจากตะกอนที่ไหลลงมาจากแม่น้ำผ่านทะเลโป๋ไห่
ตะกอนเหล่านี้ร่วมกับพายุทรายทำให้เกิดสีเหลือง อย่างไรก็ตามมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมทำให้ทะเลกลายเป็นสีน้ำตาลมากกว่าสีเหลือง ซึ่งเป็นทะเลที่ตื้นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความลึกเฉลี่ยเพียง 44 ม.
โดยมีมีพื้นที่ 382,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทะเลเหลืองถือเป็นพื้นที่ทางทะเลที่เสื่อมโทรมมากที่สุดในโลก
8. Baltic Sea (377,000 km²)
ทะเลชายขอบของมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปเหนือ ห้อมล้อมด้วยคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย แผ่นดินใหญ่ของภูมิภาคยุโรปเหนือ ภูมิภาคยุโรปตะวันออก ภูมิภาคยุโรปกลาง และหมู่เกาะของประเทศเดนมาร์ก
ครอบคลุมพื้นที่ 377,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกเฉลี่ยเพียง 55 เมตร จึงเป็นทะเลที่ค่อนข้างตื้น ที่พัฒนาขึ้นเมื่อแผ่นน้ำแข็งล่าถอยเมื่อประมาณ 10,000 ถึง 15,000 ปีก่อน จึงถือเป็นทะเลที่มีอายุน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังเป็นทะเลน้ำกร่อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อทะเลถูกปิดกั้น และได้รับกระแสน้ำไหลบ่าจากบริเวณโดยรอบเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์
7. Persian Gulf (251,000 km²)
ทะเลชายขอบของมหาสมุทรอินเดีย ครอบคลุมพื้นที่ 251,000 ตารางกิโลเมตร อ่าวเปอร์เซีย หรือบางชาติเรียก อ่าวอาหรับ เป็นอ่าวในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เป็นส่วนต่อจากอ่าวโอมาน อยู่ระหว่างคาบสมุทรอาหรับกับประเทศอิหร่าน
อ่าวเปอร์เซียเป็นแหล่งน้ำมันดิบแบบเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ตั้งของแท่นขุดเจาะน้ำมันอัลซะฟะนียะ (Al-Safaniya) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอยตัวอยู่กลางอ่าวเปอร์เซีย ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรน้ำมัน
และแก๊สธรรมชาติ ส่งผลให้ประเทศรอบอ่าวเปอร์เซียเป็นประเทศอุตสาหกรรมน้ำมันสำคัญ ซึ่งมีชื่อเรียกรวม ๆ ว่า รัฐรอบอ่าวเปอร์เซีย
6. Sea of Cortez (160,000 km²)
อ่าวกาลิฟอร์เนีย ทะเลคอร์เตส หรือ ทะเลเบร์เมโฆ เป็นทะเลชายขอบของมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเม็กซิโก ระหว่างคาบสมุทรบาฆากาลิฟอร์เนีย กับพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของเม็กซิโก
พื้นที่อ่าวเกิดจากการที่แนวเปลือกโลกเคลื่อนตัวสวนทางกัน ยาวขึ้นไปทางเหนือถึงสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นแนวรอยเลื่อนแซนแอนเดรอัส ครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางกิโลเมตร
อ่าวนี้ถือเป็นทะเลที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นที่อยู่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก มากกว่า 5,000 สายพันธุ์
5. Seto Inland Sea (23,203 km²)
เป็นทะเลที่ขั้นกลางระหว่างเกาะฮนชู, เกาะชิโกกุ, และเกาะคีวชู สามเกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลญี่ปุ่น สามารถเชื่อมต่อไปยังอ่าวโอซากะ
และเชื่อมโยงการขนส่งทางทะเลไปยังศูนย์กลางอุตสาหกรรมในภูมิภาคคันไซ พื้นที่แถบทะเลเซโตะใน มีภูมิอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเกือบจะคงที่ตลอดปี และมีปริมาณน้ำฝนที่ต่ำ บ่อยครั้งมักถูกเรียกว่า
ดินแดนที่มีสภาพอากาศเท่าเทียม
4. Ligurian Sea (15,000 km²)
ทะเลขนาดเล็ก ระหว่างชายฝั่งอิตาลีริวีเอรา (แคว้นลีกูเรียและแคว้นทัสกานี) กับเกาะคอร์ซิกา และเกาะเอลบา เชื่อกันว่าลิกูเรียน มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวลิกูเรสโบราณ ที่เคยอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งแถบนี้
ทะเลลิกูเรียนมีอาณาเขตติดกับฝรั่งเศส อิตาลี และโมนาโก ทางทิศตะวันออกติดกับทะเลติร์เรเนียน ขณะที่ทิศตะวันตกติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
3. Sea of Marmara (11,350 km²)
ทะเลที่เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลอีเจียน ซึ่งแยกตุรกีในทวีปเอเชียจากตุรกีในทวีปยุโรป ทางตอนเหนือช่องแคบบอสฟอรัสเชื่อมกับทะเลดำ ทางตอนใต้ช่องแคบดาร์ดาเนลส์เชื่อมกับทะเลอีเจียน
ทะเลมาร์มะราเป็นทะเลขนาดเล็กที่มีเนื้อที่มีพื้นที่ทั้งหมด 11,350 ตารางกิโลเมตร
2. Wadden Sea (10,000 km²)
เป็นเขตน้ำตื้นริมฝั่งบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลเหนือ ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปภาคพื้นทวีปตะวันตกเฉียงเหนือ กับแนวหมู่เกาะฟรีเชียน ก่อให้เกิดบริเวณน้ำตื้นที่มีที่ลุ่มราบน้ำขึ้นถึงกับพื้นที่ชุ่มน้ำ
บริเวณนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และเป็นพื้นที่สำคัญในการผสมพันธุ์และการอพยพของนก ในปี 2009 ทะเลวัดเดนส่วนดัตช์และเยอรมัน ถูกประกาศเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก
1. Samar Sea (3,498 km²)
ทะเลขนาดเล็ก ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก ภายในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ตั้งอยู่ระหว่างเขตบิโคลแห่งเกาะลูซอนและวิซายัสตะวันออก มันถูกล้อมรอบด้วยหมู่เกาะ ซามาร์ มาสเบต ลูซอน และเลย์เต
ทะเลซามาร์ประสบกับความเสื่อมโทรมที่สำคัญของทรัพยากรทางทะเล เนื่องจากการตกโดยไม่มีการควบคุม การตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่โดยรอบ ทำให้เกิดตะกอนเพิ่มขึ้นจากภูเขา ซึ่งเกาะแนวปะการังไว้