หลับในคืออะไร?

        หลับในคือภาวะที่ภายในร่างกายเราเข้าสู่โหลดพักผ่อน หรือโหมดหลับตื้น พูดง่าย ๆ ก็คือง่วงนั่นแหละค่ะ แค่การหลับในภายนอกอาจจะดูปกติ แต่ภายในอาจจะทำงานช้าลงเหมือนเวลาเราหลับตามปกติเลย สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือบางครั้งเกิดจากผลข้างเคียงจากยาบางตัว หรือการไม่ได้ขยับร่างกายเป็นเวลานาน หลังจากทานข้าวอิ่ม ๆ ก็จะเกิดอาการง่วงได้

        การหลับในเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อเกิดขึ้นบางครั้งก็สามารถดึงสติกลับมาได้ แต่บางเหตุการณ์ที่เราเห็นตามข่าว ก็ยากที่จะดึงสติกลับมา รู้ตัวอีกทีก็อาจจะสายเกินไปแล้ว สำหรับคนที่นั่งข้างคนขับ คุณสามารถสังเกตอาการผู้ขับว่าเขากำลังหลับในรึเปล่า โดยสังเกตอาการคนขับดังนี้

        สัญญาณทางร่างกายและการตอบสนองกลับ เมื่อร่างกายเข้าสู่โหลดหลับใน เขาจะรู้สึกหน่วง ๆ หาวบ่อย กระพริบตาบ่อย เบิกตากว้างเป็นบางครั้ง อาการเหมือนคนง่วงทั่วไป หรือบางครั้งอาจจะนิ่งผิดปกติ แต่ยังลืมตาอยู่นะคะ แบบนี้อันตรายมาก ต้องเรียกเขาให้รู้สึกตัว หรือชวนคุยก็ได้ค่ะ

        สัญญาณทางความคิด การตอบสนองช้าเมื่อเราถาม การที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่อยู่กับร่องกับรอย คิดเรื่องอื่นไปไกลจนลืมโฟกัสเรื่องการขับรถ หรืออาจจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ไม่ได้ 

        สัญญาณจากพฤติกรรมการขับรถ หากขับทางตรงแล้วมีการขับเข้าเลนอื่นเรื่อยๆ ก่อนจะตีกลับเลนเดิม หรือการขับแบบส่ายไปมา หรือขับคร่อมเลยเป็นเวลานาน ถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ต้องเรียกเขานะคะ เพราะมันอันตรายกับรถของตัวเองและรถที่กำลังจาะขับสวนมาด้วย

        การหลับในไม่ได้อันตรายแค่คนขับรถเท่านั้น สำหรับคนที่ทำงานอยู่กับเครื่องจักร อาจก่อให้เกิดความเสียหายและอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะบางครั้งความผิดพลาดแค่เสี้ยววินาที ก่อให้ผลร้ายแรงจนแก้ไม่ได้ ซึ่งเราสามารถบรรเทาหรือลดการเกิดภาวะหลับในได้ โดยฝึกนิสัยการนอนที่ดี และเพียงพอ เมื่อรู้ว่าต้องขับรถทางไกลก็ต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อมด้านร่างกายดี ๆ ต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ถ้าง่วงจริง ๆ ก็จอดพักยืดเเข้งยิดขา ล้างหน้าล้างตา ดื่มกาแฟ อย่าคิดว่าเหลืออีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว หลายคนคิดแบบนี้นะคะ ซึ่งมันอันตรายมาก ๆ

        นอกจากนี้ คนที่เป็นโรคประจำที่ต้องทานยาเป็นประจำ ซึ่งยาบางตัวอาจส่งผลให้เกิดอาการง่วงนอน ถ้าเปลี่ยนไปเป็นคนนั่งแทนคนขับก็จะดีมาก แต่ถ้าจำเป็นต้องขับจริง ๆ ก็ควรมีเพื่อนร่วมทาง และประเมินอาการเบื้องต้นของตัวเองก่อนขับรถหรือใช้เครื่องมือหรือเครื่องจักรใด ๆ ก็ตาม