7 พฤติกรรมคนเกาหลี ที่คนต่างชาติไม่เข้าใจ
7 พฤติกรรมคนเกาหลี ที่คนต่างชาติไม่เข้าใจ
1. การวางหินบนภูเขา
เคยสังเกตมั้ยว่า บริเวณทางเข้าภูเขาและวัดในเกาหลีมักจะมีก้อนหินเล็กๆ วางก่อกันจำนวนมากค่ะ นอกจากนั้นในภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องก็มีฉากที่ตัวละครช่วยกันก่อกองหิน วางซ้อนๆกัน และจากจากนั้นก็อธิฐานขอพรกันด้วยค่ะ
เวลาที่คนเกาหลีคนอื่นๆ เดินผ่านกองหินที่วางไว้ ก็มักจะหยิบหินก้อนเล็กๆ มาวางบนยอดต่อขึ้นไปอีก 1-2 ก้อนด้วยค่ะ
แล้วคนเกาหลีมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำแบบนั้น? แล้วใครเป็นคนที่เริ่มก่อหินแบบนี้กันนะ?
ความจริงการก่อหินแบบนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยอดีต เรียกว่านาน.........มากแล้วค่ะ โดยเริ่มจากสมัยก่อนคนเกาหลีมีความเชื่อและบูชาเทพเจ้าแห่งภูเขาก่อนที่จะมีการนับถือศาสนาพุทธค่ะ ในอดีตคนเกาหลีมีความเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นภูเขา, แม่น้ำหรือต้นไม้มักจะมีเทพอยู่ ดังนั้นจึงเริ่มมีการก่อหินนั้นเพื่อเป็นการขอพรต่อเทพเจ้านั้นเองค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเกาหลีทุกคนจะต้องก่อกองหินเพื่อบูชาเทพเจ้านะคะ
จนถึงปัจจุบันธรรมเนียมการก่อหินแบบนี้มักจะทำที่ภูเขาหรือวัด เพื่อเป็นการขอพรหรืออธิฐานสิ่งเล็กๆของคนเกาหลี ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมแบบโบราณที่ดูแล้วก็น่ารักอยู่นะคะ
2. ชอบเอามือไปรองในเครื่องทำกาแฟก่อนที่กาแฟจะออกมา
อย่างที่ทุกคนรู้ว่า คนเกาหลีเป็นคนที่ชอบทำอะไรแบบ ปัลลี่ ปัลลี่ หรือชอบอะไรแบบเร็วๆค่ะ และด้วยความที่ชอบอะไรที่เร็วๆจึงมีการแสดงพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำเอาคนต่างชาติงง หนึ่งในนั้นคือการชอบเอามือไปรอกาแฟจากเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติก่อนที่กาแฟจะทำเสร็จค่ะ
ความจริงแล้วพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าอันตราย และมีความเสี่ยงที่จะโดนลวกได้ค่ะ แต่ก็มีคนเกาหลีหลายคนที่ยังติดนิสัยชอบเอามือไปรอรับกาแฟตอนที่ยังทำไม่เสร็จ (รีบไปไหน)
โดยมากคนเกาหลีที่ใจร้อนแบบสุดๆ จะชอบเอามือไปจับแก้วกระดาษขณะที่เครื่องกำลังทำกาแฟ ตามรูปด้านบนค่ะ เห็นแล้วก็แอบสงสัยว่าการเอามือไปจับแก้วรอแบบนี้มันช่วยให้ได้กาแฟเร็วขึ้นตรงไหนกันนะร้อนมือเปล่าๆ ว่ามั้ยคะ
3. กินข้าวคำใหญ่ๆเมื่อก้างปลาติดคอ
ทุกคนเคยมีประสบการณ์ก้างปลาติดคอกันบ้างมั้ยคะ? คนที่เคยมีประสบการณ์คงรู้ว่าความรู้สึกทรมานมากแค่ไหน
สำหรับที่เกาหลี เวลาที่เกิดเหตุการณ์ก้างปลาติดคอขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะพูดว่า "맨밥 먹어!" (แมนบับ มอกดา) แปลว่า ให้รีบกินข้าวเปล่าเลยนะ!
ซึ่งคนเกาหลีตั้งแต่อดีตเชื่อว่า การกินข้าวเปล่าๆก้อนใหญ่ๆโดยที่ไม่ต้องเคี้ยวจะช่วยให้ก้างปลาที่ติดที่คอ หลุดออกไปได้ (แต่เราว่ามันก็ช่วยจริงๆนะคะ แต่ก็เจ็บมากกว่าเดิมด้วย )
ซึ่งความจริงแล้ววิธีนี้ก็ไม่ใช่วิธีการแย่ หรือเลวร้ายอะไร แต่สำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะที่มาจากฝั่งที่ไม่ใช่เอเชีย คงตกใจน่าดูถ้าจู่ๆโดนบอกว่า "กินข้าวคำใหญ่ๆซิ!"
แต่ถึงแม้วิธีนี้อาจได้ผล! แต่ก็ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด เพราะบางครั้งนอกจากก้างปลาจะไม่หลุดแล้ว ข้าวคำใหญ่ๆอาจจะไปติดคอจนเกิดอันตรายด้วยค่ะ
แล้วเวลาที่ทุกคนก้างปลาติดคอ มีวิธีไหนที่ช่วยทำให้ก้างหลุดออกบ้างคะ? สำหรับเราแนะนำให้ลองดื่มน้ำก่อนจะดีที่สุดค่ะ
4. การตัดเนื้อด้วยกรรไกร
อย่างที่รู้กันว่าอาหารเกาหลีที่ฮิตตลอดกาลคือ เนื้อย่าง ไม่ว่าจะเป็นหมูสามชั้น เนื้อ หรือเมนูปิ้งย่างต่างๆ เกือบ 100% ของร้านปิ้งย่างที่เกาหลีจะต้องมีกรรไกรแน่นอนค่ะ
ร้านส่วนใหญ่ที่เกาหลีจะให้เนื้อมาแบบชิ้นใหญ่ๆ จากนั้นก็ให้ปิ้งจนเกือบสุกจากนั้นก็ต้องใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นเล็กๆอีกทีค่ะ
สำหรับคนเกาหลีแล้ว การใช้กรรไกรในการตัดเนื้อถือเป็นเรื่องปกติมากๆ แต่สำหรับคนต่างชาติที่มาเกาหลีครั้งแรก ตอนที่ต้องใช้กรรไกรตัดเนื้อคงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยค่ะ
สารภาพตรงๆว่าตอนที่เรามาเกาหลีครั้งแรก และต้องใช้กรรไกรที่ร้านหมูย่างก็แอบรู้สึกแปลกใจเหมือนกันค่ะ แต่พอใช้ไปนานๆก็รู้สึกว่าการใช้กรรไกรตัดเนื้อ สะดวกกว่าการใช้มีดค่ะ
หลังจากที่ตัดเนื้อย่างเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำแล้วก็ถึงขั้นตอนการกิน ที่คนเกาหลีส่วนใหญ่จะกินเนื้อย่างคู่กับใบงา หรือผักกาด แค่คิดก็หิวแล้วใช่มั้ยคะ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมการกินของเกาหลีที่แตกต่างจากชาติอื่นอย่างชัดเจน ดังนั้นเวลาที่ไปกินร้านปิ้งย่างที่เกาหลีอย่าลืมมองหากรรไกร แต่ถ้าจะให้ดีต้องนั่งข้างๆเพื่อนคนที่ถือกรรไกรดีที่สุดค่ะ คีบง่ายดี
วิธีการเจาะหัวแม่โป้งด้วยเข็ม ถือเป็นวิธีการรักษาแบบดั้งเดิมของเกาหลี ถึงแม้จะไม่มีการยืนยันทางการแพย์ แต่คนเกาหลีส่วนมากก็เชื่อว่าวิธีการนี้สามารถในการรักษาอาการปวดท้อง หรือท้องอืดได้ดีเลยค่ะ
จุดที่เจาะตรงหัวแม่มือเรียกว่า "จองฮยอล" คือจุดเชื่อมต่อระหว่าเล็บมือตามภาพค่ะ
ทริคการเจาะหัวแม่โป้งแบบนี้ คนเกาหลีมักจะใช้ตอนที่รู้สึกว่าอาหารไม่ย่อย ขั้นตอนการเจาะก็ง่ายๆเพียงแค่เจาะตามตำแหน่งตามภาพด้านบน และเจาะเบาๆให้เลือดออกมาเล็กน้อยค่ะ
คนเกาหลีเชื่อว่าถ้าเลือดที่ออกมาสีเข้มมากแค่ไหน แสดงว่าอาการค่อนข้างหนัก ดังนั้นหลังจากเอาเลือดพวกนั้นออกมาแล้วจะทำให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ
แต่ความจริงแล้ววิธีการนี้ ไม่มีผลพิสูจน์ที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นการทำเพื่อความสบายใจมากกว่าค่ะ ซึ่งความจริงแล้วเลือดสีเข้มที่ออกมา ไม่ใช่เพราะร่างกายผิดปกติ แต่เป็นเพราะหัวแม่มือถูกบีบแน่นจากการเกร็งเพราะถูกเจาะด้วยเข็มมากกว่าค่ะ
ใครที่เคยมีประสบการณ์ลองเจาะหัวแม่มือมาแล้ว ได้ผลบ้างมั้ยคะ? แต่บอกเลยว่าว่ามันเป็นแค่ทริคเท่านั้น...!
6. กินโซจูผสมพริกเวลาเป็นหวัด
ใครว่าการเจาะหัวแม่มือพีคแล้ว ! ต้องมาเจอการดื่มโซจูผสมพริกซะก่อน วิธีการนี้ก็ถือเป็นการรักษาแบบพื้นบ้านของคนเกาหลีเช่นกันค่ะ คนเกาหลีเชื่อกันว่าหากรู้สึกว่าเป็นไข้ต้องกินโซจูผสมกับพริก แล้วจะทำให้อาการดีขึ้นค่ะ
เพราะว่าเวลาที่ผสมพริกลงในโซจู จะทำให้มีเหงื่ออกมามาก หลังจากเหงื่อออกก็จะรู้สึกดีขึ้นทำให้รู้สึกว่าวิธีการนี้ได้ผลค่ะ
เอาจริงๆเลยว่า วิธีการนี้อาจเป็นแค่ข้ออ้างของคนที่ไม่สบายแล้วอยากดื่มเท่านั้นค่ะ
ดังนั้นคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันจึงไม่ค่อยใช้วิธีการนี้แล้วค่ะ (ใครจะใช้ล่ะ แค่ฟังก็แปลกแล้ว )
สำนักงานข่าวในเกาหลีรายงานว่าการผสมพริกในโซจู ไม่ได้ช่วยทำให้อาการหวัดดีขึ้น
ที่สำคัญวิธีการนี้ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ แถมยังอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำตอนที่เป็นหวัดจนเกิดอันตรายได้ด้วยค่ะ
ถึงแม้ว่าเรายังไม่เคยดื่มโซจูผสมพริกเลยซักครั้ง แต่แค่นึกภาพก็พอเดาได้ว่ารสชาติต้องแย่แน่ๆค่ะ
7. เวลาโดนผึ้งต่อยให้ทาทเวนจัง (ซอสถั่วหมัก)
การรักษาอาการผึ้งต่อยวิธีนี้ ถือเป็นการรักษาแบบพื้นบ้านของเกาหลีและยังไม่มีผลทางการแพทย์ที่พิสูจน์ได้ว่าได้ผลค่ะ
คนเกาหลีเชื่อว่าหากโดนผึ้งต่อยหรือมีแผลไฟไหม้ให้เอาทเวนจังทาบริเวณนั้นค่ะ (กรี๊ดดดด แผลอักเสบ)
แค่นึกว่าต้องทาทเวนจังลงบนแผลสดๆก็แสบจนอยากร้องไห้แล้วค่ะ
วิธีการรักษาแบบนี้เป็นที่รู้จักและใช้กันมาเป็นเวลานานแล้วค่ะ อาจเพราะสมัยก่อนที่เกาหลีแต่ละบ้านมักจะเก็บทเวนจังไว้ในตู้เย็นหรือเอาไว้ที่ไหฝังไว้ในดิน ซึ่งจะทำให้ทเวนจังมีความเย็นตลอดเวลาค่ะ
เวลาที่โดนผึ้งต่อยหรือแผลไฟไหม้จะรู้สึกแสบร้อน ดังนั้นการทาด้วยอะไรเย็นๆแบบทเวนจังก็อาจทำให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ แต่ความจริงแล้วการทาทเวนจังเป็นเพียงการลดอุณภูมิเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่อาจส่งผลเสียและอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงด้วยค่ะ
แต่สำหรับคนแก่ในเกาหลีก็ยังคงใช้วิธีการนี้อยู่บ้าง เพราะยังเชื่อว่าเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลค่ะ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ในเกาหลีไม่นิยมใช้วิธีการนี้แล้วค่ะ
ดังนั้นใครที่มีเพื่อนเป็นคนเกาหลี ถ้าเกิดมีอุบัติหตุโดนผึ้งต่อยหรือแผลไฟไหม้ ก็บอกว่าเพื่อน "อย่าหาทำ" โดยการทาแผลด้วยทเวนจังนะคะ ไม่งั้นแผลจะติดเชื้อเอา
เป็นยังไงบ้างกับ 7 พฤติกรรมของคนเกาหลีที่ต่างชาติแบบเราไม่เข้าใจ เราว่าบ้างอย่างก็คล้ายกับของไทย บางอย่างก็สุดโต่งมากๆเลยค่ะ แล้วทุกคนละ? เคยใช้วิธีการไหนบ้างมั้ยคะ? ถ้ามีคอมเมนต์บอกเราหน่อยนะว่าได้จริงหรือเปล่า