“ยายสำอาง เลิศถวิล” วณิพกเพลงขอทานคนสุดท้าย นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ “แอ๊ด คาราบาว”
“ยายสำอาง เลิศถวิล” วณิพกเพลงขอทานคนสุดท้าย นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ “แอ๊ด คาราบาว” แต่งสองบทเพลงเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวตำนานเพลงเพื่อชีวิต เมื่อประมาณปี พ.ศ.2525-2527 นับเป็นเพลงดังในอดีตที่ฟังติดหูจนร้องกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง นั่นคือเพลง “วณิพก” และ “ยายสำอาง
“ยายสำอาง เลิศถวิล” เป็นชาวตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พ่อเป็นคนจีน เมื่อแรกคลอดออกมาเป็นลูกสาว ด้วยธรรมเนียมจีนที่ต้องการลูกชายจึงไม่เป็นที่ชอบใจของผู้เป็นพ่อ ประกอบกับแรกเกิดมาไม่ค่อยแข็งแรงนัก พ่อและแม่จึงนำไปวางทิ้งไว้ที่ศาลาวัดบางน้อย เดชะบุญที่มีวณิพกสองคนผัวเมียผ่านมาพบเข้า จึงนำไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
พ่อแม่บุญธรรมนั้นเป็นวณิพกยากจนแต่ไม่จนน้ำใจ ได้พาเด็กน้อยออกร่อนเร่พเนจรร้องเพลงขอทานเรื่อยไป แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่ออายุได้สี่ขวบเด็กน้อยก็ตาบอดสนิทลงทั้งสองข้าง เนื่องจากตาเป็นเกล็ดกระดี่และมีอาการเจ็บตาเรื่อยมาโดยไม่ได้หาหมอรักษา จนกระทั่งตาบอดสนิทมองไม่เห็นในที่สุด
“เพลงขอทาน” ที่ได้ยินได้ฟังมาแต่เล็กแต่น้อยถูกซึมซับหลอมจนเป็นจิตวิญญาณของศิลปินโดยแท้จริง ยายสำอางจึงสามารถขับร้องเพลงขอทานเป็นสัมมาชีพได้อย่างเชี่ยวชาญ ถึงแม้จะไม่เคยได้รับการศึกษาระดับสูง แต่ปริญญาชีวิตนั้นมีไม่แพ้ใคร
เราลองนึกภาพตาม... ในสมัยก่อนยังไม่มีช่องทางโซเชียล โทรทัศน์และวิทยุยังเป็นของที่มิใช่ทุกบ้านจะซื้อหามาได้โดยง่าย โรงหนังโรงละครยิ่งแล้วใหญ่ไม่ต้องพูดถึง นานทีปีหนจึงจะมีงานบุญจัดมหรสพมาให้ความบันเทิงกันสักครั้ง จึงเกิดวณิพกเที่ยวร่อนเร่พเนจรไปทุกถิ่นที่ ขับกล่อมเพลงแก่ชาวบ้านให้ได้รื่นเริงใจ แลกเงินแลกอาหารเพื่อประทังยังชีพ
“วณิพกเพลงขอทาน” นั้นจะแตกต่างจากเพลงลูกทุ่งหรือลูกกรุงที่วณิพกทั่วไปนำมาร้องกัน นับว่าเพลงขอทานเป็นศิลปะเพลงพื้นบ้านซึ่งมีมาแต่ครั้งโบราณเลยทีเดียว
“เพลงขอทาน” หมายถึง เพลงพื้นบ้านภาคกลางชนิดหนึ่ง อย่างเพลงลำตัด เพลงฉ่อย เพลงเรือ แต่มีท่วงทำนองเป็นของตนเอง มักขับร้องเล่าเรื่องราวเป็นตอนๆ ในนิทานชาดก นิทานพื้นบ้าน หรือวรรณคดีไทย ความยาวแล้วแต่เรื่องที่จะร้อง เช่น พระรถเมรี ขุนช้างขุนแผน จันทโครพ ฯลฯ โดยผู้ร้องหรือลูกคู่จะตีกรับ โหม่ง โทน ฉิ่ง หรือฉาบ เพื่อประกอบการเข้าจังหวะตามแต่ถนัด บางครั้งก็มีลูกคู่ร้องรับกันหลายคนด้วย
แม้จะผ่านความทุกข์ยากลำเค็ญแค่ไหนในสายตาของคนทั่วไป แต่นั่นไม่ใช่ตัวชี้วัดดัชนีความสุขของยายสำอาง แกไม่ค่อยวิตกทุกข์ร้อนต่อชะตาชีวิตที่พลิกผัน ทั้งยังเป็นคนอารมณ์ดี ร่ำรวยอารมณ์ขัน ตลกสนุกสนาน เข้ากับคนง่าย คำพูดจาฉะฉานคล่องแคล่ว และมีไหวพริบปฏิภาณว่องไว แม้จะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือก็ตาม
...จึงไม่แปลกใจที่ยายสำอางจะมีลูกเล่นแพรวพราวขณะยังเป็นวณิพกพเนจรขับร้องเพลงขอทานเลี้ยงชีพ ด้วยความสามารถและเสียงก้องกังวานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อถึงเนื้อเรื่องตอนสนุกสนานก็ร้องล้อไปกับเสียงโทนและฉิ่งได้อย่างครึกครื้น และเมื่อถึงคราวต้องเศร้าก็ขับกล่อมได้โศกสลดชนิดสะกดจิตกระชากใจคนดูเลยทีเดียว ถ้าเป็นสมัยนี้คิดว่าน่าจะมีแฟนคลับติดตามเยอะแน่ๆ
ยายสำอางเคยมีสามีมาก่อนสองคน แต่ตายจากกันไปเสียทั้งคู่ จนมาอยู่กับสามีคนที่สาม อายุ 80 กว่าปี ชื่อว่า ตาผาด (บันทึกไว้เมื่อปี พ.ศ.2527 คาดว่าเสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน) ซึ่งถือว่าตาผาดเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของยายสำอาง เป็นเสมือนดวงตาคอยมองทาง จูงไม้จูงมือเวลาไปไหนมาไหนโดยไม่เดือดร้อนนัก
ยายสำอางเป็นวณิพกเพลงขอทานเที่ยวร่อนเร่พเนจรไปตามที่ต่างๆ หลายสิบปี จนกระทั่งประมาณปี พ.ศ.2525 แกได้มาขับร้องเพลงขอทานอยู่แถวหน้าบ้านของ “อาจารย์อภัย นาคคง” ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่เพาะช่าง จนต่อมาเรื่องราวของยายสำอางรู้ถึง “คุณเอนก นาวิกมูล” จึงได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพและบทความเรื่อง ชีวิตวณิพก ในหนังสือ อยู่อย่างชาวสยาม จากนั้น “แอ๊ด คาราบาว” ได้นำเรื่องราวชีวิตไปแต่งบทเพลง “วณิพก” และ “ยายสำอาง” จนโด่งดัง
หลังจากนั้นยายสำอางก็ได้รับความช่วยเหลือ โดยได้พาไปโชว์การขับร้องเพลงขอทานที่ศูนย์สังคีตศิลป์ และออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ หลายช่องในสมัยนั้น ทำให้คนทั่วไปได้รู้จัก “เพลงขอทาน”
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งยายสำอางเคยถูกกรมประชาสงเคราะห์พาไปดูแลให้เป็นอยู่สุขสบาย การได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไปวันๆ ทำให้แกรู้สึกอึดอัดใจเป็นที่สุด จึงขอออกมาใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอยู่ที่ชุมชนข้างวัดบางแวก สุดซอยพาณิชยการธนบุรี (ซอยจรัลสนิทวงศ์ 13)
ถึงแม้ขณะนั้นยายสำอางจะเข้าสู่วัยชราเจ็ดสิบกว่าปี ไม่ได้หาเลี้ยงชีพเป็นวณิพกเพลงขอทานแล้ว แต่ทว่าหญิงชราตาบอดสองข้างก็มิเคยงอมืองอเท้า ยังคงสู้ชีวิตต่อไปด้วยการหาเลี้ยงชีพเหลาลำไม้ไผ่ให้เป็น “ไม้เสียบไก่ปิ้ง” มีความชำนิชำนาญคล่องแคล่วชนิดคนตาดีเทียบฝีมือไม่ได้เลยก็แล้วกัน
ยายสำอาง เลิศถวิล เสียชีวิตอย่างสงบในบ้านซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 เมื่อปี พ.ศ.2539
ภาพยายสำอาง “ถือมีดปาดตาลคู่ชีวิต” ยังคงเป็นภาพที่จดจำติดตรึงใจแก่ผู้พบเห็น ความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาตลอดชีวิตที่สร้างความสุขแก่คนทั่วไป แสดงถึงความเข้มแข็งของจิตใจที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคความยากลำบากใดๆ
ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยไม่เบียดเบียนสร้างความเดือดร้อนทุกข์ใจแก่ผู้อื่น
“มีดวงตาก็ไร้ความหมาย...
หากดวงใจมืดบอด”
ด้วยจิตคารวะ ครูเพลงขอทานพื้นบ้าน “ยายสำอาง เลิศถวิล” วณิพกเพลงขอทานคนสุดท้าย
บันทึกไว้ในความทรงจำ จากลูกหลานคนแม่กลอง 10.07.19
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/107082924136412/photos/a.107084684136236/503706274474073/
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เขมรหลอกเขมร! สายทหารเขมรหลุดแผนลับ "หักหลังฮุนเซน" รบในจอ รอรับตังค์ โกยเงินหลักล้าน อัดฉีดคลังแสงไม่อั้น
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศ
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
สุขสันต์วันคริสต์มาส...



