“จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 แห่งรัสเซีย (Nicholas I of Russia)” ผู้ที่ “วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin)” ยกให้เป็น “ต้นแบบ (Role Model)” ของตน
ในเวลานี้ ข่าวที่กำลังร้อนแรงของโลก ก็คงไม่พ้นเรื่องราวของรัสเซียกับยูเครน
และชื่อที่เป็นที่พูดถึงบ่อยที่สุดในช่วงนี้ ก็คงไม่พ้นชื่อของ “วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin)” ผู้นำรัสเซีย
แต่สำหรับบทความนี้ เป็นเรื่องของผู้ที่ปูตินยกย่องและยกให้เป็นต้นแบบของตน และจากการศึกษาเรื่องราวของบุคคลที่ปูตินชื่นชอบ อาจจะทำให้เข้าใจตัวตนของปูตินมากขึ้น
บุคคลนั้นคือ “จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 แห่งรัสเซีย (Nicholas I of Russia)” ผู้ซึ่งปกครองรัสเซียตั้งแต่ค.ศ.1825-1855 (พ.ศ.2368-2398)
เราลองมาดูเรื่องราวของพระองค์กันครับ
“จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 แห่งรัสเซีย (Nicholas I of Russia)” เสด็จพระราชสมภพในปีค.ศ.1796 (พ.ศ.2339) โดยเป็นพระราชโอรสใน “จักรพรรดิพอลที่ 1 แห่งรัสเซีย (Paul I of Russia)” และเป็นพระราชนัดดาใน “จักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนมหาราชินี (Catherine the Great)”
อันที่จริง พระองค์ไม่น่าจะได้ขึ้นครองราชย์ เนื่องจากพระองค์มีพระเชษฐาถึงสองพระองค์ หากแต่ “จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย (Alexander I of Russia)” พระเชษฐาของพระองค์ ได้สวรรคตในปีค.ศ.1825 (พ.ศ.2368) โดยปราศจากพระราชบุตร ส่วน “แกรนด์ดยุกคอนสแตนติน ปาฟโลวิชแห่งรัสเซีย (Grand Duke Konstantin Pavlovich of Russia)” พระเชษฐาอีกองค์ ก็ไม่ได้ตอบรับขึ้นครองราชย์ บัลลังก์จึงตกเป็นของพระองค์
หลังจากขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็เป็นจักรพรรดิพระองค์แรกแห่งรัสเซียที่ต้องเผชิญกับการปฏิวัติอย่างเป็นระบบ นั่นคือ “กบฏธันวาคม (Decembrist Revolt)” ในปีค.ศ.1825 (พ.ศ.2368)
เพื่อตอบโต้ จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้จัดตั้งกองกำลังตำรวจลับ รวมทั้งกองกำลังตำรวจแห่งชาติ
ตำรวจลับซึ่งอยู่ใต้การปกครองของจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้ทำการแทรกแซงข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเพื่อให้ได้ข้อมูล และหาทางจับกุมผู้ชุมนุมต่อต้าน
หนึ่งในสิ่งที่จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ทรงนำมาใช้ ก็คือการเข้าแทรกแซงสื่อ มีการตรวจสอบสื่อทุกประเภท อีกทั้งยังให้มีการโฆษณาชวนเชื่อหรือโพรพากันด้าในโรงเรียนรัฐบาลทั่วประเทศ
การโฆษณาชวนเชื่อในระบบการศึกษา ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์จักรพรรดิและคริสตจักรออร์ทอดอกซ์นั้นดูดี น่าเลื่อมใส และพระองค์ยังมีรับสั่งให้จับตาดูเหล่าผู้ต่อต้าน รวมทั้งการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และสั่งห้ามการสอนในสิ่งที่จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ทรงมองว่าเป็นแนวคิดที่อันตราย ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่พระองค์ทรงมองว่าอันตราย ก็คือ “ประชาธิปไตย”
นอกจากนั้น รัชสมัยของพระองค์ยังเป็นช่วงที่รัสเซียทำการโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกใจให้ประชาชนคิดว่าชาวรัสเซียและชาวสลาฟ คือชาติพันธุ์ที่เป็นเลิศ เหนือกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ
จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้แสดงความกดขี่ชาวยิวอย่างชัดเจน โดยพระองค์ทรงออกกฎ กำหนดว่าชายชาวยิวทุกคนต้องเข้ารับราชการในกองทัพรัสเซียเป็นเวลา 25 ปี
แนวคิดนี้ของพระองค์ ก็คือการล้างสมอง ทำให้ชาวยิวกลายเป็นรัสเซีย และผลที่ได้ ก็ทำให้ชาวยิวหลายคนเข้ามานับถือศาสนาคริสต์ ในขณะที่อีกจำนวนมากก็หนีออกจากรัสเซียไปที่อื่น
อีกจุดประสงค์ของจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ก็คือการป้องกันไม่ให้ดินแดนต่างๆ ในรัสเซียได้รับเอกราช โดยพระองค์ทรงรวบอำนาจและระบบองค์กรต่างๆ เข้ามารวมศูนย์อยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ทรงปกครองรัสเซียอย่างเข้มงวด และมีการใช้กำลังทหารอย่างรุนแรงนอกอาณาจักร
นโยบายด้านต่างประเทศของพระองค์ก็ค่อนข้างจะแปลกและรุนแรง โดยพระองค์ทรงสนับสนุนการปฏิวัติหนึ่งครั้งในกรีซ หากแต่ก็ต้องการจะใช้กองทัพในการบดขยี้กลุ่มกบฏในเบลเยี่ยมและฝรั่งเศส
ในปีค.ศ.1831 (พ.ศ.2374) โปแลนด์คิดจะแข็งข้อ จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 จึงทรงส่งกองทัพรัสเซียมาปราบปราม
จากนั้น พระองค์ก็ทรงประกาศให้โปแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ในปีค.ศ.1848 (พ.ศ.2391) พระองค์ทรงส่งกองทัพไปปราบปรามกลุ่มปฏิวัติในฮังการี และพระองค์ยังทรงทำสงครามกับอีกหลายอาณาจักร ทั้งเปอร์เซียและจักรวรรดิอ็อตโตมัน และยังขัดแย้งกับดินแดนอื่นๆ
ในยุคค.ศ.1840 (พ.ศ.2383-2392) จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ทรงมีพระประสงค์จะแผ่อำนาจของรัสเซียไปยังกรีซและตะวันออกกลาง หากแต่ก็มีกองทัพตุรกีเป็นก้างขวางคอ
เพื่อที่จะเข้าควบคุมดินแดนในแถบนี้ จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 จำเป็นต้องส่งกองเรือจากทะเลดำเข้ามายังเมดิเตอเรเนียน
วิธีเดียวที่จะล่องเรือจากทะเลดำมาถึงเมดิเตอเรเนียน ก็คือต้องเข้ามาทางช่องแคบบอสพอรัสและช่องแคบดาร์ดาเนลส์ ซึ่งตุรกีควบคุมอยู่
ในปีค.ศ.1853 (พ.ศ.2396) จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้พยายามจะเข้าควบคุมช่องแคบทั้งสองด้วยการส่งกองเรือเข้าไป และทำการจมกองเรือตุรกี
การกระทำของพระองค์ สร้างความหวาดกลัวให้อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองชาตินี้ต่างก็มีผลประโยชน์ในตะวันออกกลาง
ในปีค.ศ.1854 (พ.ศ.2397) อังกฤษ จักรวรรดิอ็อตโตมัน ฝรั่งเศส และราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย ต่างก็รวมกลุ่มกันเพื่อยับยั้งรัสเซีย เช่นเดียวกับออสเตรียและปรัสเซีย ที่ก็ได้ตกลงจะร่วมมือกันเพื่อต้านรัสเซีย
ในไม่ช้า รัสเซียก็ตกอยู่ท่ามกลางชาติมหาอำนาจที่ต่างก็ต่อต้านรัสเซีย ซึ่งก็อาจจะไม่ต่างจากสถานการณ์ของรัสเซียในเวลานี้
ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็คือ “สงครามไครเมีย (Crimean War)”
สงครามนี้ สมรภูมิหลักอยู่ในไครเมีย โดยอังกฤษ ตุรกี อิตาลี และฝรั่งเศส ต่างก็ส่งทัพเข้ามายังไครเมียเพื่อยึดครองฐานทัพเรือของรัสเซียที่เซวาสโตโพล
ปลายปีค.ศ.1855 (พ.ศ.2398) กลุ่มสัมพันธมิตรต้านรัสเซียได้เข้ายึดครองเซวาสโตโพล โดยออสเตรียเองก็ขู่ว่าจะเข้าร่วมสงคราม
หากแต่จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ก็ไม่ได้มีพระชนม์ชีพยืนยาวพอที่จะเห็นผลลัพธ์ เนื่องจากพระองค์สวรรคตไปก่อนในเดือนมีนาคม ค.ศ.1855 (พ.ศ.2398)
ในปีค.ศ.1856 (พ.ศ.2399) “จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซีย (Alexander II of Russia)” พระราชโอรสของจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 และพระประมุของค์ต่อมาของรัสเซีย ได้ทรงลงนามใน “สนธิสัญญาปารีสปีค.ศ.1856 (Treaty of Paris 1856)” ทำให้รัสเซียต้องเสียอำนาจในตะวันออกกลาง รวมถึงช่องแคบดาร์ดาเนลส์
จะเห็นได้ว่านโยบายด้านการต่างประเทศที่แข็งกร้าวของจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้นำพารัสเซียไปสู่สงครามและทำให้เกิดความสูญเสียต่างๆ ตามมา
และนี่คือเรื่องราวของพระประมุขผู้โด่งดังแห่งรัสเซีย และเป็นผู้ที่ปูตินยกย่องและยกให้เป็นแบบอย่างของตน
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/Timelesshistoryth/photos/a.577259972709466/1383530948749027/
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
จักรวาลร่วมฉลองส่งท้ายปี! NASA อวดโฉม "ต้นคริสต์มาสยักษ์" แห่งห้วงอวกาศลึก 2,500 ปีแสง
ฝันร้ายที่ซ่อนอยู่หลังกล้องในวงการหนังผู้ใหญ่
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศ
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
สุขสันต์วันคริสต์มาส...



