หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แนวคิดด้านสุขอนามัยของคนเกาหลี

โพสท์โดย tyuoi

แนวคิดด้านสุขอนามัยของคนเกาหลี

ทานอาหารร่วมกันในหม้อเดียว

 

นี่คือหนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าอายของเกาหลีที่คนเอเชียหลายคนอาจทราบกันดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมนูที่เราทาน แต่ปกติแล้วอาหารจะถูกเสิร์ฟมาในจานขนาดใหญ่เหมือนหม้อสตูว์ซึ่งเราทานร่วมกันในหม้อเดียว พูดตรงๆว่าสำหรับเรา เรารู้สึกเฉยๆมากกับการทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นเพื่อนร่วมงาน ในบางครั้งเราก็รู้สึกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ และที่สำคัญคือเมื่อเราเริ่มทาน ก็ไม่ง่ายเลยที่จะพูดว่าไม่อยากทานร่วมกันจากจานเดียวกับผู้อื่น

 


หลังจากทานเนื้อเสร็จเรียบร้อย คนเกาหลีก็จะสั่งสตูว์(จีเก)มาทาน และแกงก็มักที่จะเสิร์ฟมาเป็นหม้อที่ต้องทานร่วมกัน
*รูปภาพแกงกิมจิจากร้านสาขายอดนิยม "เซมาอึล ชิกตัง" 

 

อาหารยุโรปก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อคุณเดินทางไปที่ร้านอาหารกับเพื่อน พวกเขาก็จะแบ่งกันทานสลัด, พาสต้า, สเต็กและพิซซ่าด้วยกัน หากคุณไม่กังวลเกี่ยวกับสุขอนามัยซักเท่าไหร่ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน เพราะคุณสามารถที่จะลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายของอาหารได้

 

เรื่องปกติในการ"ทานพาสต้าร่วมกัน"

 

เนื่องจากวัฒนธรรมในการทานอาหารร่วมกัน ทำให้ง่ายต่อการที่จะแพร่เชื้อโรคให้กับผู้อื่น แต่บางคนก็พูดว่าเป็นการดีที่จะให้ร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียบ้างร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานและแข็งแรง แต่ก็ไม่รู้ว่านี่จะจริงหรือไม่นะคะ!  ในปัจจุบันนี้หลายคนไม่ทานอาหารร่วมกับผู้อื่นหรือตักอาหารจากจานของพวกเขาก่อนที่เขาจะเริ่มทาน บางคนก็จะถามก่อนค่ะว่าสามารถทานได้หรือไม่หลังจากที่ผู้อื่นทานแต่อย่างไรก็ตามมันก็ค่อนข้างยากนิดหน่อยที่จะบอกว่าไม่อยากทานร่วมกัน เพราะคงไม่มีใครอยากให้คนอื่นมองว่าเป็นคนเนี๊ยบจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแม่ของเราพูดว่า เราทานอาหารร่วมกันกับแม่มาเยอะมากแล้ว ทำไมถึงใจร้ายกับครอบครัวแบบนี้? ไม่มีอะไรจะพูดเลยล่ะค่ะ

 

ไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไม่สบาย

 

เรารู้สึกเซอร์ไพร์สที่เห็นคนจำนวนมากใส่สวมหน้ากากอนามัยกันในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศอื่นในเอเชียอย่างญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่มักจะสวมหน้ากากอนามัยกัน ที่เกาหลีนั้นเราไม่เคยถูกสอนให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากผู้อื่นหรือเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู้ผู้อื่นเมื่อเราไม่สบาย มีคนจำนวนน้อยมากๆที่สวมหน้ากากเวลาไม่สบายในเกาหลี

 


เราสงสัยว่าทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนมากถึงใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

 

ในตอนนี้มีจำนวนของคนที่สวมใส่หน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อนเนื่องจากฝุ่น แต่อย่างไรก็ตามก็มีเพียงแค่วัยรุ่นเท่านั้น กระแสนี้เป็นการกระทำเพื่อปกป้องร่างกายของตนเองไม่ใช้ผู้อื่น เนื่องจากฝุ่นเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้คอของเราเจ็บจนรู้สึกว่าชีวิตของเรากำลังจะสั้นลง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนเกาหลีจำนวนมากเลือกที่จะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเนื่องจากรู้สึกอึดอัดและไม่สบาย

คนเกาหลีในช่วงวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในอากาศที่บริสุทธิ์มาตลอดเวลาจะไม่ค่อยให้ความสนใจเกี่ยวกับปัญหานี้มากนัก แม้ว่าในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งขึ้นสูงมากก็ตาม หากมาที่เกาหลีเราจะพบเห็นคนจำนวนมากที่ปีนเขาและสูดอากาศที่แย่พร้อมฝุ่นเข้าไปอย่างสดชื่นเต็มปอดได้ง่ายๆเลย พ่อแม่ของเราก็เช่นกันที่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักเนื่องจากอาศัยอยู่ที่ชานเมืองซึ่งทุกคนเชื่อว่ามีอากาศที่ดีมากกว่า

 

60% ของคนเกาหลีไม่สวมหน้ากากถึงแม้ว่าค่าฝุ่นจะพุ่งขึ้นสูงมากก็ตาม (แหล่งที่มา: จุงอังอิลโบ)

 

 

ไอโดยไม่ปิดปาก

 

หนึ่งในสิ่งที่เราได้เรียนรู้เมื่อหลังจากที่เราไปอยู่ที่อเมริกามาก็คือ เราพบว่าคนอเมริกันจะปิดหน้าทั้งหน้าด้วยแขนเมื่อไอ ปกติแล้วคนเกาหลีไม่ปิดปากเวลาไอหรือบางทีก็ใช้แค่มือปิด ไอโดยที่ไม่ปิดปากเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย เพราะคุณจะแพร่เชื้อและอาจที่จะน้ำมูกหรือน้ำลายกระเด็นไปใส่ผู้อื่นได้อีกด้วย นี่คือสาเหตุที่ทำไมคนเกาหลีจคงต้องปิดปากของพวกเขาเวลาไอ แต่เนื่องจากใช้มือปิดปาก น้ำลายหรือเชื้อโรคต่างๆก็สามารถที่จะแพร่ไปที่โต๊ะ,คอมพิวเตอร์, ของสาธารณะและอื่นๆได้ หากไม่ทำการล้างมือทันที ดังนั้นนี้ก็ถือว่าไม่สะอาดเช่นกัน

  นี่คือวิธีการปิดปากเวลาไอของคนเกาหลี

 

ในทางกลับกันหากเราปิดปากของเราด้วยแขนเมื่อไอ เราสามารถที่จะป้องกันการแพร่เชื้อได้ เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ที่เสื้อเราจะถูกทำลายโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงถือว่าค่อนข้างป้องกันเกี่ยวกับสุขอนามัยได้ดี แต่อย่างไรก็ตามคนจำนวนมากที่เกาหลีไม่คิดว่าการปิดปากขณะที่ไอเป็นเรื่องที่ไม่สะอาด

 

การรับรู้เกี่ยวกับสุขลักษณะในโรงพยาบาลคือ 0% 

 

ประเทศเกาหลีมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง แต่ความรู้เกี่ยวกับสุขลักษณะอนามัยกลับเหมือนกับผู้คนจากประเทศที่การแพทย์ไม่มีประสิทธิภาพ กรณีเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย จำนวนของคนเกาหลีที่สวมหน้ากากอนามัยต่ำมาก แม้กระทั่งในโรงพยาบาลก็ตาม พวกเขาไม่สวมใส่หน้ากากพบผู้ป่วย 3 ปีก่อนที่โรงพยาบาลมีกฎออกมาให้ผู้คนสวมใส่หน้ากากอนามัยในห้องฉุกเฉิน แต่นี่ก็ได้รับการปฏิบัติอีกครั้งในปี 2015 เมื่อโรคเมอร์สระบาด

 


เกือบครึ่ง(41.5%) ของพยาบาลที่ทำงานในห้องฉุกเฉินติดเชื้อเนื่องจากไม่สวมหน้ากากอนามัย

 

ก่อนที่โรคเมอร์สจะระบาด แม้ว่าในโรงพยาบาลยอดนิยมของเกาหลีก็ไม่มีการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัย ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งหลายได้ออกกฎต่างๆออกมาเช่น ให้พยาบาลและหมอสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อทำการตรวจผู้ป่วย ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมด้วยเช่นกันต้องทำการสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลท้องถิ่นขนาดเล็ก-กลางก็ยังไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้

 

นอกจากกรณีของการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่ค่อนข้างน่าเศร้าคือพวกเขาไม่ทำการฆ่าเชื้อโรคที่มือการเมื่อเดินทางไปตรวจผู้ป่วย เชื้อโรคภายในจากร่างกายของเราอาจที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงได้เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอ่อนแออยู่แล้ว ที่เกาหลีนั้นไม่ค่อยมีการทำฆ่าเชื้อโรคที่มือเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับคำแนะนำกันมาเกี่ยวกับความสามารถที่จะแพร่สู่ผู้อื่น แม้ว่าจะเกี่ยวกับทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยได้ใช้กัน

 

(แหล่งที่มา: Money Today)

เนื่องจากการควบคุมโรคที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเดียวที่ไม่ใช่ประเทศตะวันออกกลางที่มีการระบาดของโรคเมอร์ส  (186 ติดเชื้อ, 38 เสียชีวิต, อันดับที่ 3 ของโลก)

ในช่วงเวลานี้ จำนวนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศเกาหลีตกลงอย่างมากและคนทั้งประเทศต่างวิตกกังวล แถมโรคเมอร์สยังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในห้องฉุกเฉินขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลอีกด้วย

 

ทำไมคนเกาหลีถึงมีการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยที่ต่ำ?

อาจเป็นเพราะความเสี่ยงในอนาคตที่ต่ำของผู้อยู่อาศัยและความเห็นแก่ตัวที่คิดว่า "ไม่เป็นไรถ้าไม่ใช่เรา"

 

คนเกาหลีคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรงมาก จากเซอร์เวย์เรื่อง "พฤติกรรมการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพของคนโซล" ที่ทำการจัดเก็บทุกปีโดยทางการโซล พบว่า 80 ~ 85% ของคนโซลตอบว่าตัวเองแข็งแรงมากกว่า "ปกติ" ทุกคนคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำร้ายร่างกายและเพิ่มโอกาสความเสี่ยง เราจำได้ว่าในตอนที่โรคเมอร์สระบาด มีคนเกาหลีจำนวนมากที่กังวลและกลัวเนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะติดโรค จึงติดสินใจเดินทางไปต่างประเทศอย่างฮ่องกง ทำให้คนฮ่องกงโกรธคนเกาหลีมากในช่วงนั้น และเหตุผลที่ทำไมคนเกาหลีไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยก็คือ พวกเขาไม่คิดว่าจะป่วยจากฝุ่น กังนั้นพวกเขาจึงปลอดภัย มีเพียงแค่คนที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้นที่สวมใส่หน้ากาก

85% ของคนตอบว่าพวกเราเหนือ'ปกติ' ในการทำเซอร์เวย์เรื่องพฤติกรรมการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพ (แหล่งที่มา: ทางการโซล) 

 

ส่วนตัวเราคิดว่าคนเกาหลีปฏิบัติตัวกันเช่นนี้เรื่องจาก พยายามที่จะลดความเสี่ยงในอนาคต ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงที่การรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยของคนที่นี่ต่ำมาก โดยรวมแล้วสังคมเกาหลีมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยให้การสังเกตุเกี่ยวกับจรรยาบรรณหรือคำสั่งของส่วนรวม ตัวอย่างเช่น บางครั้งคนเกาหลีก็ไม่ได้ความสนใจเมื่อเกินเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นทำให้ยากต่อการที่รถดับเพลิงจะเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเหตุให้การเดินทางล่าช้าและมีผู้บาดเจ้บจำนวนมาก

คนจำนวนมากไม่ได้มีความรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากไม่ได้ให้ความสนใจ พวกเขาไม่ควรที่จะคิดว่าสามารถทำอย่างนี้ได้เพราะคนอื่นก็ทำเหมือนกัน เนื่องจากจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นได้

ดูเหมือนว่าการศึกษาเป็นทางเดียวที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาการรับรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยในเกาหลี พวกเราจะต้องสอนวิธีในการให้ความสนใจผู้อื่นที่โรงเรียนหรือที่บ้าน สาเหตุก็คือเราควรที่จะใส่ใจเกี่ยวกับสุขลักษณะและสุขภาพ แลันี่ก็จะช่วยให้เราสามารถรักษาจรรยาบรรณและมารยาทที่ดีทางสังคมพร้อมยังแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เหมือนกับคนเกาหลีหลายๆคนที่ใส่ใจเกี่ยวกับการแปรงฟันของพวกเขาตั้งแต่"เรียนกฎ 333 ในการแปรงฟัน" (3นาที, 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 3 นาที)เมื่อพวกเขายังเด็ก พวกเขาควรที่จะเรียนรู้วิธีในการให้ความสนใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ยังเด็กเหมือนที่เรารักและใส่ใจตัวเอง

เนื้อหาโดย: tyuoi
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tyuoi's profile


โพสท์โดย: tyuoi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: tyuoi
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งสอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกกฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคตชายไต้หวันกินเป็ดตุ๋นขิงแล้วเสียชีวิตไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่เผยคลิปทหารเขมรนำเมียมาสู่ สมรภูมิรบกับทหารไทยโพสต์ลั่นมีลูกคนที่ 2 ให้สัญญาจะปกป้องแผ่นดิน ประเทศกัมพูชาจงเจริญ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เซตเมนูอาหารเช้า เติมพลังสมอง ช่วยให้มีสมาธิReset จิตใจ...แบบนักจิตบำบัด"เจนนี่ BLACKPINK–จางวอนยอง IVE" กับดราม่า "รุ่นพี่-รุ่นน้อง"..กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลทั่วเอเซียกฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69มะเฟือง ผลไม้ที่มากด้วยสรรพคุณ ที่ใครๆ รู้แล้ว ต้องอยากรับประทาน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทึ่งทั่วโลก : "น้ำตกทุธสาคร" น้ำตกที่โด่งดังไปทั่วโลก หนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในอินเดียพืชพรรณไม้น่าสนใจ : รู้หรือไม่ ? สตอร์เบอร์รี่สีขาวก็มีน๊าสารแขวนลอย คืออะไร? อธิบายแบบเข้าใจง่ายใน 2 นาทีปรับลุคแบรนด์ให้ดูคลีน
ตั้งกระทู้ใหม่