ลอตเตอรี่เกาหลีvsลอตเตอรี่ไทย
ลอตเตอรี่ไทย
1. ซื้อได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
ทั้งเกาหลีและไทยมีข้อห้ามและจำกัดอายุของผู้ซื้อลอตเตอรี่เช่นกัน โดยที่เกาหลีนั้น จำกัดให้ผู้ที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ในขณะที่ของประเทศไทย อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยมีเขียนไว้อย่างชัดเจนบนสลากกินแบ่งฯ
2. ใช้ตัวเลขกี่ตัว?
ลอตเตอรี่ของไทยนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 หลัก โดยแต่ละหลักมีเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้นคือ 0-9
แต่ที่เกาหลีนั้นมีทั้งหมด 6 หลัก แต่สามารถเลือกตัวเลขได้ตั้งแต่ 1-46 เท่ากับว่าโอกาสในการถูกรางวัลนั้นน้อยและยากกว่าของไทยอีกค่ะ
3. ราคาเท่าไหร่?
สลากกินแบ่งฯ ของไทยนั้นมีราคาอยู่ที่ 80 หรืออาจมากกว่านี้ตามแต่ผู้ขาย ในขณะที่เกาหลีจะอยู่ที่ 1,000 วอน (ประมาณ 25 บาท) ต่อแถว คนที่ไม่อยากไปซื้อที่ร้าน ของเกาหลีก็สามารถที่จะซื้อและเลือกเลขเองทางออกไลน์ได้ด้วยนะคะ
4. วิธีตรวจล็อตเตอรี่
ในไทยสามารถตรวจลอตเตอรี่ได้หลายวิธีทั้ง ตรวจจากอินเทอร์เน็ต, ดูหนังสือพิมพ์, ดูรายการทีวีถ่ายทอดสด และเดินทางไปยังกองสลากเพื่อร่วมลุ้นแบบติดขอบเวที
แต่ที่เกาหลี นอกจากจะทำการตรวจในอินเทอร์เน็ตได้แล้ว ยังสามารถใช้ QR CODE ในการตรวจได้อีกด้วยค่ะ
เพียงคุณใช้โทรศัพท์มือถือแสกนคิวอาร์โค้ดใน Naver ก็สามารถดูหมายเลขที่ชนะของงวดปัจจุบันได้ทันที
เพราะบางครั้งหากคุณซื้อโดยเครื่องอัตโนมัติคุณอาจจะจำหมายเลขหลายๆตัวไม่ได้ ดังนั้นคุณสามารถใช้ QR Code เพื่อตรวจสอบและยืนยันได้
เพียงแค่คลิก "QR แสกน" เพื่อข้ามไปยังหน้าจอกล้อง
หลังการแสกน QR Code จะทำให้เป็นหน้าจอเหมือนภาพด้านบน
เพียงแค่กดลิงค์ก็สามารถรู้ได้ว่ามีถูกลอตเตอรี่หรือไม่ กี่ตัว
5. ออกรางวัลบ่อยแค่ไหน?
ที่ไทยการออกรางวัลจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งก็คือวันที่ 1 และวันที่ 16
แต่สำหรับเกาหลีจะมีการออกรางวัลสัปดาห์ละครั้ง โดยวันออกรางวัลจะตรงกับวันเสาร์ (ทุกวันเสาร์เวลา 8:45 น. จะมีการถ่ายทอดสดการออกรางวัล)
6. ซื้ออย่างไร?
ในไทยการหาซื้อลอตเตอรี่ถือว่าไม่เป็นเรื่องจาก เพราะไม่ว่าเดินทางไปที่ใดก็จะพบพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายลอตเตอรี่ (โดยเฉพาะที่วัด) หรือแม้แต่ตามร้านอาหารก็มีคนเดินขายเช่นกัน
สำหรับที่เกาหลีคนส่วนมากมักไปซื้อที่ร้านขายลอตโต้โดยเฉพาะหรือร้านสะดวกซื้อ แต่ร้านสะดวกซื้อบางแห่งก็ไม่มีขาย ดังนั้นหากต้องการซื้อลอตโต้ของเกาหลีละก็ มองหาคำว่า 복권판매점 (ร้านลอตโต้) ที่หน้าร้านก่อนนะคะ
7. รับรางวัลยังไง?
ในไทยการรับเงินรางวัลสามารถรับได้หลายที่ด้วยกัน ซึ่งแต่ละสถานที่ที่ไปขึ้นเงินจะหักค่าธรรมเนียมต่างกัน กองสลาก (0.5%), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร/ ธนาคารกรุงไทย/ ธนาคารออมสิน (1.5%), ร้านทอง (1.3%), แผงลอตเตอรี่ที่ติดป้ายรับซื้อรางวัล (2-3%)
รางวัลในเกาหลีมี 5 ระดับรางวัล:
รางวัลที่ 4 และ 5: ถูกต้อง 3 หรือ 4 หลัก
วิธีในการขึ้นเงินถ้าต้องการความสะดวกสามารถไปที่ร้านค้าทั่วไปหรือร้านสะดวกซื้อ หรือไปที่ธนาคารสหกรณ์การเกษตรทุกแห่งในประเทศ
รางวัลที่ 3: ต้องถูก 5 หลัก
รางวัลที่ 2: ต้องถูก 5.5 หลัก
ในส่วนของรางวัลที่ 2 และ 3 สามารถรับเงินได้ที่ธนาคารสหกรณ์การเกษตรโซลสาขาใดก็ได้ในประเทศเกาหลี (ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน)
รางวัลที่ 1: ต้องถูก 6 หลัก โดยต้องเดินทางไปขึ้นเงินที่สาขาหลักของสหกรณ์การเกษตรโซล (서울중구새문안로 16 농협중앙회중앙본부) เท่านั้น และต้องใช้บัตรประชาชน
8. ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้ไหม?
คำตอบคือ แน่นอน ......... ได้!
ซึ่งในปี 2015 มีชาวต่างชาติที่ถูกรางวัลมากถึง 10 คน!
สำหรับการรับเงินรางวัลนั้น ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีบัตรประชาชนเท่านั้น!
การรับรางวัลของช่าวต่างชาติในเกาหลีมีสองประเภท:
1. ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ถาวร (มีวีซ่าพำนัก) ในเกาหลีใต้: จำนวนเงินที่ชนะจะเหมือนกับชาวเกาหลี (ไม่คำนึงว่าคุณเป็นชาวต่างชาติ) แต่เนื่องจากมีการหักภาษีในเกาหลีใต้ จะถูกหักเงินภาษีนี้ก่อน
2. ชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยว: จำนวนเงินที่ชนะจะขึ้นอยู่กับภาษีที่ตกลงกันระหว่างสองประเทศหรือทวีปใด
9. หมดเวลาขึ้นเงินเมื่อไหร่?
หากคุณชนะลอตเตอรีในไทยสามารถรับรางวัลได้ภายใน 2 ปี แต่ที่เกาหลีใต้จะต้องไปขึ้นเงินภายใน 90 วัน หากไม่ไปขึ้นเงิน ลอตเตอรี่ก็จะกลายเป็นเศษกระดาษทันที ฉะนั้นถ้าชนะรางวัลละก็ รีบไปขึ้นเงินกันนะคะ
และนี่คือความแตกต่างระหว่างลอตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งฯในไทย และลอตเตอรี่เกาหลี (Lotto) ใครที่สนใจหรืออยากลองลุ้นโชคแบบคนเกาหลีก็ขอให้โชคดีนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ