โรงหนังจะเจ๊งไหม?

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ วันหยุดของใครหลายคนถูกใช้ไปกับการเดินเข้าโรงภาพยนตร์ โดยใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ในการดูหนังสักเรื่อง พร้อมอิ่มเอมไปกับป๊อปคอร์นอร่อยๆและเครื่องดื่มสุดโปรด จนแทบจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยามว่างยอดฮิต แต่นั่นคือภาพในอดีตก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด 19 ปัจจุบัน โควิดยังมีการระบาดอยู่ แม้ว่าจะผ่านเข้าปีที่ 3 แล้ว แต่ ณ เวลานี้ สถานการณ์โควิด-19 ยังต้องเฝ้าระวัง ก็ทำให้การไปโรงภาพยนตร์ในยุคโควิด 19 นั้น เราอาจจะได้เห็นสิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมใหม่ๆ ที่หลายคนเรียกว่า "นิวนอร์มอล"
ภาวะโลกหยุดหมุนจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 มาอย่างยาวนานเช่นนี้ มันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุชั่วคราวอีกต่อไป เพราะมันจะค่อยๆ กลายเป็นความเปลี่ยนแปลงหรือเป็นนิสัยใหม่ จากความเคยชินเดิมๆ จากพฤติกรรมเดิมๆที่ใช้เวลาว่างในวันหยุดในโรงหนัง กลับกลายเป็นการใช้เวลาที่บ้านแทน ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นว่า ระยะเวลาที่นานขนาดนี้อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างได้ และมันก็เป็นเช่นนั้น เพราะความโหยหาการกลับไปเข้าโรงหนังของผมนั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว
บรรดาผู้ผลิตหนัง สตูดิโอต่างๆ ก็ขยับตัวกันวุ่นวายจนทำให้เรารู้สึกว่ามันสะเทือนต่อวงการหนังอย่างแน่นอนโดยที่ไม่ได้คิดไปเองคนเดียว ภารกิจใหญ่ของสตูดิโอต่างๆ คือการหาทางจัดการกับหนังที่ค้างเติ่งอยู่ในสต๊อกทั้งหลาย ปัญหาใหญ่ที่สุดคือหนังที่เริ่มทำการโปรโมตไปแล้วเรียบร้อยช่วงก่อนเกิดโรค แต่ทั้งหมดก็โดนเบรกกลางคันจนต้องเลื่อนฉายกันไปหมด ซึ่งนั่นหมายถึงว่างบประมาณมหาศาลที่เสียไปในการโปรโมตนั้นถือว่าสูญสลายไปในอากาศ และนั่นแปลว่าถ้าหนังจะกลับเข้ามาฉายใหม่อีกครั้งหลังไวรัสสิ้นสุด ค่ายหนังก็ต้องทุ่มทุนใส่เงินโปรโมตเข้าไปใหม่อีกครั้ง และนั่นก็จะแปลว่าต้นทุนการผลิตของหนังเรื่องนั้นก็จะต้องสูงขึ้นอีกมากมาย วี่แววแห่งการกำไรคุ้มทุนอาจจะยากขึ้นไปอีก
นี่ยังไม่รวมสิ่งที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือ ความไม่แน่นอนจากพฤติกรรมเคยชินของ "นิวนอร์มอล" ที่ว่า ไม่มีใครเดาออกว่าคนดูจะเปลี่ยนไปอย่างไร คนยังอยากจะอยากดูหนังกันอีกไหม และจะกล้าเข้าโรงหนังกันหรือเปล่า เมื่อโรงหนังกลับมาเปิดอีกครั้ง คนก็อาจจะโหยหาการออกไปดูหนังที่โรงหนังมากอย่างเดิมหรือไม่ ส่วนตัวแล้ว พฤติกรรมผมก็ได้เปลี่ยนแปลงถาวรแล้ว แม้ในอดีตจะเคยเป็นคอหนังตัวยงก็ตาม แต่ขณะนี้มองว่า โรงหนังไม่ใช่สิ่งจำเป็นของชีวิตอีกต่อไปแล้ว
จริงๆ แล้วระบบ Video on Demand นี้เป็นสิ่งที่สตูดิโอหนังไม่ชอบเอามากๆ เพราะพวกเขาพยายามเสมอที่จะแยกหนังโรงออกจากหนังสร้างเพื่อลงทีวีหรือลงแผ่นให้เป็นคนละตลาดกัน สำหรับพวกเขาหนังโรงมันจะต้องพรีเมียมกว่า และโทรทัศน์เป็นเพียงแค่โรงหนังชั้นสองที่ไว้ฉายหนังเก่าเท่านั้น แต่ในเมื่อเวลานี้ไม่มีทางเลือก การเอาหนังโรงพรีเมียมไปลง Video on Demand อาจจะเป็นทางรอดเดียวของหนังเรื่องนั้น ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย และนั่นทำให้คนส่วนใหญ่อาจะคิดว่า การดูหนังที่บ้าน ดีกว่าการไปดูที่โรงหนัง เพราะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ไม่ต้องเดินทางไปให้เหนื่อย แถมสามารถทำอะไรก็ได้ในระหว่างดูหนังได้สบาย โดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร เพราะเป็นบ้านเราเอง
นี่คือเวลาทองของ Netflix, Amazom Prime, Hulu, HBO Go และอื่นๆ อีกมากมาย สถานการณ์ในเวลานี้แทบจะเป็นยุคในฝันของพวกเขา คือทุกคนอยู่บ้านกับทีวี เพราะออกไปไหนไม่ได้ และไม่มีหนังใหม่เข้าโรง ฉะนั้นจะโกยก็ต้องโกยกันตอนนี้ จะสร้างฐานก็ต้องสร้างกันตอนนี้ ว่าง่ายๆ คือการจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนดูหนังให้รักการดูหนังอยู่บ้านจะทำให้เกิดขึ้นได้ ก็ไม่แน่ว่าคนดูหนังอยู่บ้านไปนานๆ แล้วอาจจะรู้สึกชินและรู้สึกโอเคมากกว่าการออกไปดูหนังโรง เหมือนที่ผมรู้สึกก็เป็นได้
ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
วิเคราะห์หวย AI น่าจะออกรางวัลงวด 16 ธันวาคม 2568
f-16 ถล่มบ้าน ฮุนมาเนต พังราบ
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
บิ๊กเล็ก ยันชัด จีนไม่ขอคืนจรวด GAM-102 ของเขมร ที่ไทยยึดมาได้
มาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..ส่องด่วนเลย!!
สถานทูตไทยทั่วโลก เปิด "สมรภูมิโซเชียล" ขย้ำ ฮุน เซน
เขมรในมะกันชุมนุมเรียกร้องให้มะกันดำเนินการกับไทย
สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศ
สิ่งของที่ไม่ควรใส่ ไม่ควรซัก ในเครื่องซักผ้า
แหกประวัติฉีกโปรไฟล์สาวน้อยขี้โกงจนประเทศไทยต้องร้อง อห.!!
f-16 ถล่มบ้าน ฮุนมาเนต พังราบ
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
อินโดนีเซียส่งออกทุเรียนแช่แข็ง ไปจีนโดยตรงเป็นครั้งแรก
มดดำ ของขึ้น...หลังรู้ที่มางานแต่งของเป็กกี้ กับอดีตคนรัก
"เหรียญใบขี้เหล็ก" พุทธคุณ หลวงปู่แผ้ว ปวโร


