ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความสวยความงาม
1. มัดผมแน่น
หลายๆ คนชอบรวบผม เพราะรู้สึกสบาย และเหมาะกับอากาศร้อนๆ ในเมืองไทยด้วย แต่บางทีการรวบผมแน่นจนเกินไป อาจจะทำให้สาวๆ ปวดหัวได้ อีกทั้งยังทำให้ผมร่วงอีกด้วย
2. ใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์เดียวกัน ดีกว่าใช้หลายๆ แบรนด์
หลายๆ คนชอบซื้อผลิตภัณฑ์แบบเป็นชุดมาใช้ เพราะคิดว่าใช้แบรนด์เดียวจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมบำรุงต่างๆ ทำงานได้ดีกว่า เช่น ถ้าใช้ครีมกลางวันแบรนด์ A ครีมกลางคืน เซรั่ม โทนเนอร ์ และอื่นๆ ก็ต้องเป็นของแบรนด์ A จะไม่ใช้ของแบรนด์ B แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้ครีมจากหลายๆ แบรนด์ ก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพลดลงแต่อย่างไร เพียงแต่ว่า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเท่านั้นเอง
3. ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคใช้แล้วไม่แพ้
ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ทุกแบรนด์ สามารถทำให้สาวๆ แพ้ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เพราะสาวๆ ทุกคนมีสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ควรจะทดสอบก่อนว่า ตัวคุณแพ้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรือไม่
4. คิดว่าแสงแดดไม่ทำร้ายผม
สาวๆ หลายคน มักจะห่วงเรื่องผิว เมื่อต้องออกแดด แต่รู้ไหมว่า ผมคุณก็ต้องการการปกป้องจากแสงแดดเหมือนกัน เพราะเส้นผมของคุณถูกทำร้ายโดยแสงแดดได้ ทำให้ผมของคุณแห้ง และกรอบ เมื่อออกแดดเป็นเวลานาน
5. ใช้ผลิตภัณฑ์เดิมๆ เป็นเวลานานๆ ไม่ดี
สาวๆ บางคนเชื่อว่า ควรเปลี่ยนแชมพู ครีม หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงามบ่อยๆ ขวดต่อขวด กระปุกต่อกระปุก เพราะคิดว่าถ้าใช้ไปนานๆ จะทำให้ร่างกายชิน แล้วครีมที่เคยใช้ได้ผล จะไม่ได้ผลอีกต่อไป ความจริงแล้ว การที่ครีมเดิมๆ ของคุณดูเหมือนจะไม่ดีเสียแล้ว เกิดจากหลายๆ สาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น อาหารที่ทาน การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อนั้นคุณค่อยเปลี่ยน โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณในเวลานั้นๆ
6. ทาเล็บติดต่อกันนานๆ ไม่ดี
จริงๆ แล้วการทาเล็บ ทำให้เล็บของคุณแข็งแรงขึ้น ถ้าคุณปฏิบัติอย่างถูกวิธี เริ่มแรกคุณควรที่จะทา Base coat (หรือ น้ำยาทาเล็บรองพื้น ) ซึ่งมีสีใส และมีส่วนผสมของวิตามิน ช่วยปกป้องเล็บสวยๆ ของคุณ คุณควรทาก่อนทาเล็บเสมอ
7. สระผมด้วยน้ำเย็น ทำให้ผมเงา
น้ำเย็นไม่ได้ช่วยให้ผมของคุณเงางามแต่อย่างใดนะจ๊ะ สิ่งที่จะช่วยทำให้ผมของคุณเงางามได้ก็คือ ครีมนวดผม
8. คนผิวมันมีผิวที่ชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว
คนผิวมันมักหลีกเลี่ยงการทามอยส์เจอไรเซอร์ เพราะกลัวผิวจะมันมากขึ้น แต่การทามอยส์เจอไรเซอร์นั้น เป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งจําเป็นในการรักษาเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี นอกจากเซลล์ผิวที่ขาดน้ำจะแห้งแล้ว บางครั้งยังหลั่งน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป ฉะนั้น คนหน้ามันก็สามารถทามอยส์เจอไรเซอร์ได้ แต่ต้องเลือกรุ่นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ํามัน
9. ทามอยส์เจอไรเซอร์รอบดวงตาจะลดอาการบวม
ความชุ่มชื้นในครีมจะเพิ่มน้ำให้ผิว จนอาจทําให้ตาบวมกว่าเดิม ถ้ารอบดวงตาบวม แต่ไม่ระคายเคือง ให้ใช้น้ำแข็งประคบ 10 – 15 นาที หรือใช้อายเจลที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน แต่ถ้ารอบดวงตาบวมแดง และคันอาจเกิดจากอาการแพ้ ควรหยุดใช้ครีมต่าง ๆ และรีบปรึกษาแพทย์
10. ประโคมยารักษาสิวจะทําให้สิวหายแน่นอน
ยารักษาสิวประกอบไปด้วยกรด ซึ่งจะค่อย ๆ ซึมสู่ผิว ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะซึมหมด การทายามากหรือบ่อยเกินไป อาจทําให้สิวปะทุมากขึ้น เกิดอาการแพ้ ผิวแห้ง และระคายเคือง ดังนั้น ทาแค่วันละ 1 – 2 ครั้งก็เพียงพอ
11. ครีมบํารุงยิ่งข้นยิ่งดี
บางคนเชื่อว่า ยิ่งครีมเข้มข้น ยิ่งบํารุงลึก แต่ที่จริงแล้วไม่ว่าครีมจะเข้มข้นแค่ไหน ผิวหนังของเราก็ดูดซึมความชุ่มชื้นได้เท่าที่ต้องการเท่านั้น ความเข้มข้นที่เหลือ จึงกลายเป็นความเหนอะหนะที่กองอยู่บนผิว
12. การทาเล็บทําให้เล็บเหลือง
สาเหตุที่ทําให้เล็บเหลืองไม่ได้เกิดจากการทาเล็บ แต่เกิดจากการไม่ทารองพื้นเล็บ (Base Coat) และใช้สีทาเล็บคุณภาพไม่ดี โดยรูพรุนที่เล็บจะดูดสีให้มาติดที่ชั้นเคลือบเล็บ พอล้างออกด้วยน้ำยาล้างเล็บ จึงมองเห็นเล็บเป็นสีเหลืองๆ ถ้าเราทารองพื้นก่อนทาเล็บทุกครั้ง จะช่วยป้องกันการดูดซึมเม็ดสีได้
13. เลิกกินแป้งจะผอมเร็ว
การลดน้ำหนักโดยหยุดกินแป้งไปเลยอาจส่งผลเสีย เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานที่ร่างกายต้องการ และจําเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญไขมันขณะออกกําลังกาย หากอยากลดน้ำหนัก ให้เลือกกินคาร์โบไฮเดรตชนิดที่ให้พลังงานต่ำ และมีเส้นใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีตแทน