รวมภาพตลกๆ ฮาขี้แตก เย็นวันเสาร์
พระราชาปุ๋งปุ๋ง!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชาที่อ้วนตุ๊ต๊ะกับพระราชินีผู้มีปัญญาเฉียบแหลมทรงครองรักกันในอาณาจักรที่อบอวลไปด้วยความสุข
ทุก ๆ วัน พระราชามักจะให้พ่อครัวหลวง บรรจงปรุงอาหารแปลก ๆ จากทั่วทุกมุมโลก มาให้พระองค์ได้ทรงลิ้มลองหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการดูแลบ้านเมืองในแต่ละวัน พระราชินีทรงมีความสุขที่เห็นพระราชาเจริญอาหาร ส่วนพระราชาเองก็มีความสุขที่ได้ชิมอาหารอร่อย ๆ นานาชนิด
จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อครัวหลวงได้นำอาหารพิเศษซึ่งเป็นปลาที่หมักเอาไว้ในไห มาให้พระราชาได้ลองลิ้มชิมรส พระราชาทรงปลื้มอาหารมื้อนี้มาก พระองค์ทรง “จก” ปลาในไหขึ้นมากินไหแล้วไหเล่า และหลังจากที่พระองค์จัดการปลาในไหไปทั้งหมด 12 ไห พระราชาพุงกลมก็เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนจนสุดที่จะทานทนเอาไว้ได้
ค่ำคืนนั้น พระราชาทรงวิ่งเข้าวิ่งออกห้องสุขาเนื่องจากอาการปุ๋งไม่หยุดจนทำให้วุ่นวายกันไปทั้งพระราชวัง ส่วนพระราชินีผู้สุดแสนจะอ่อนหวานและงามสง่า ก็ทรงเป็นลมล้มทั้งยืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยกลิ่นปุ๋งที่สุดแสนจะร้ายกาจของพระราชาผู้เป็นที่รัก จนถึงรุ่งเช้า ประชาชนก็เริ่มได้ข่าวว่าพระราชาของตนกำลังป่วยหนัก…ป่วยหนักเสียจนพระราชินีทรงเป็นลมด้วยความระทมทุกข์!
เมื่อกษัตริย์แห่งเมืองข้างเคียงทราบข่าวว่า พระราชาที่อ้วนตุ๊ต๊ะกำลังป่วยหนัก กษัตริย์ผู้มีจิตใจละโมบโลภมาก ก็เร่งจัดกองทัพและยกพลเข้าประชิดอาณาจักรของพระราชาผู้อ่อนระโหยโรยแรงทันที
ในขณะที่ข้าศึกบุกเข้ามาล้อมเมืองเอาไว้ พระราชาผู้น่าสงสารก็ยังคงนอนซมอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง และต้องคอยวิ่งเข้าห้องน้ำเป็นระยะ ๆ อย่างน่าเห็นใจเป็นที่สุด ดังนั้น เมื่อข้าศึกเรียกร้องทรัพย์สมบัติแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของประชาชน พระราชินีผู้มีอำนาจรองจากพระราชา จึงจำเป็นต้องตัดสินใจแทนพระสวามีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พระราชินีผู้ชาญฉลาดทรงใคร่ครวญถึงข้อเรียกร้องของศัตรูอย่างถี่ถ้วน และในที่สุด พระองค์ก็ทรงสั่งให้เหล่าทหารเตรียม “สิ่งพิเศษ” ซึ่งเป็นของมีค่าของพระราชา ที่จะสามารถหยุดยั้งปัญหาการนองเลือดที่กำลังจะเกิดขึ้นได้แน่นอน
เหล่าทหารจัดเตรียม “สิ่งพิเศษ” ของพระราชา โดยนำของมีค่าดังกล่าว ใส่เข้าไปในหีบเหล็กขนาดใหญ่ แล้วจัดกองกำลังสวมชุดเกราะอย่างสมเกียรติ เพื่ออัญเชิญหีบสมบัติไปมอบให้แก่กษัตริย์ผู้ละโมบ ซึ่งตั้งกองทัพรออยู่ที่ด้านนอกของตัวเมือง
ทันทีที่กองทหารในชุดเกราะแบกหีบสมบัติไปมอบให้แก่กองทัพของข้าศึก กษัตริย์ผู้ละโมบพร้อมกับเหล่าทหารที่มีจิตใจหยาบช้าต่างก็พากันส่งเสียงโห่ร้องที่พวกตนได้รับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย ทุก ๆ คนเบียดเสียดกันเข้ามาล้อมหีบสมบัติด้วยความกระหายใคร่รู้ว่า “สิ่งพิเศษ” ของพระราชาที่พระราชินีตั้งใจมอบให้เพื่อสงบศึกนั้น มันจะมีค่ามากน้อยสักเพียงไหน
และเมื่อกษัตริย์ผู้ละโมบเปิดหีบสมบัติออกมา สิ่งพิเศษที่พระราชินีสั่งให้เหล่าทหารสูบออกมาจากห้องสุขาของพระราชา ก็เปล่งประกายเหลืองอร่าม และส่งกลิ่นตลบอบอวลจนข้าศึกทั้งหมดเป็นลมล้มพับไปพร้อม ๆ กัน
และแล้ว “สิ่งพิเศษ” ก็สามารถหยุดยั้งการนองเลือดที่กำลังจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ ทหารของพระราชินี ซึ่งสวมชุดเกราะพร้อมหน้ากากอนามัยป้องกันกลิ่น ช่วยกันมัดกษัตริย์และทหารของฝ่ายข้าศึกทีละคนสองคน และเมื่อกองทัพฝ่ายข้าศึกเริ่มฟื้นคืนสติ พระราชินีก็ทรงกรุณาให้ทหารและประชาชนช่วยกันป้อนปลาหมักในไหให้แก่บรรดาข้าศึกทั้งหลาย เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้คนเหล่านั้นบังอาจที่จะมารุกรานอาณาจักรของพระองค์อีกเป็นครั้งที่สอง
หลังจากที่พระราชินีทรงปล่อยกองทัพฝ่ายข้าศึกกลับไปจนหมดแล้ว พระราชาที่ปุ๋งไม่หยุดก็ค่อย ๆ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือ เมื่อพระราชาทรงหายจากอาการปุ๋งอุตลุด พระองค์ก็ทรงกลับมามีรูปร่างที่ดูสง่างามและสะโอดสะองมากขึ้นกว่าเดิม พระราชินีทรงมีความสุขมากที่พระสวามีกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้งหนึ่ง ส่วนพระราชาเองก็ทรงชื่นชมในความชาญฉลาดและการตัดสินใจของพระราชินีอย่างสุดที่จะบรรยายได้ และแล้ว….ความสงบสุขก็คืนสู่อาณาจักรที่แสนร่มเย็นนี้อีกครั้ง