เจอผีในโรงแรม
เรื่องที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เพื่อนผมเจอมากับตัว ไม่มีการแต่งเติมใดๆ แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล
เป็นคนชอบดูหนังผี ชอบเข้าบ้านผีสิง และเฉยๆกับเรื่องผีตามเน็ตหรือเรื่องเล่าต่างๆ เคยถามตัวเองว่าในชีวิตนี้จะเห็นผีไหมนะ เพราะที่ผ่านมาเคยได้ยินแต่เสียง หรือได้กลิ่น ไม่เคยเห็นเป็นตัวเป็นตนมาก่อน แต่ทริปญี่ปุ่นนี้ทำให้ได้เห็นจะจะ ภาพติดตามาถึงทุกวันนี้ หลอนลืม
โดยเพื่อนร่วมทริปมีทั้งหมด 4คน เห็น2คน ไม่เห็น2คน (รู้สึกดีที่ได้เห็น2คน เพราะจะได้มีพยาน555จะได้ไม่โดนหาว่า ละเมอหรือเปล่า? หลอนไปเองหรือเปล่า? มโนหรือเปล่า?) เรื่องมีอยู่ว่า เรานั่งรถบัสข้ามเมืองจากโอซาก้ามาโตเกียวโดยจองที่พักที่นึงย่านโอจิในคืนวันที่ 15-16-17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้จองผ่านเว็ปไซด์ Booking.com ที่พักของเราจะเป็นแนว Guest House แต่ที่เราจองเราได้ห้องแบบ Family ซึ่งนอนได้ 4คน มีห้องน้ำส่วนตัวต่างหาก
ในวันที่เราไปเช็คอินวันที่ 15 เราไปเช็คอินประมาณ 6โมงเย็นเพราะเราแวะเที่ยวก่อนซึ่งที่พักนี้อยู่ห่างจากสถานีใต้ดินโอจิ ไม่ไกลมากเดิน3นาทีถึง ในระหว่างทางเดินจะมีสวนสาธารณะที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้มีช่องทางเดินเล็กๆที่ปูด้วยหินขรุขระไปตามทาง เราเข้าที่พักรับกุญแจและได้รับการอธิบายการเข้าที่พักและกฏต่างๆโดยราบรื่น บรรยากาศในห้องอบอุ่น สวยงามตามรูปที่โปรโมท บรรยากาศนอกที่พักก็สงบๆ เพราะอยู่นอกเมือง ลมเย็นๆทุกคืนแลดูไม่น่ามีอะไร
ห้องของเราอยู่ชั้น3 หน้าประตูเราหันเข้ากับบันไดที่ขึ้นไปชั้น4พอดี เปิดประตูเข้ามาในห้องก็จะเป็นเตียงใหญ่1เตียง และเตียง2ชั้น1เตียงในห้อง ซึ่งนอนแบบเอาเท้าชี้ออกประตูทางเข้าห้องพอดี หัวเตียงของห้องจะมีหน้าต่างที่เลื่อนซ้ายขวาได้หลังจากเช็คอินที่พักช่วงเวลา1ทุ่มกว่าๆ เราก็เอากระเป๋ามาวางไว้ที่ห้อง เราได้เอารองเท้า2คู่มาตากไว้ตรงหน้าต่างด้านนอกระเบียงเพราะรองเท้าเราค่อนข้างอับ แล้วเราก็ออกไปหาอะไรกินแถวๆที่พัก
เสร็จประมาณ3ทุ่มเราและเพื่อน3คนกลับที่พักกันเพราะขี้เกียจไปไหนอยากพักเหนื่อย แต่พี่อีกคนนึงออกไปเที่ยวต่อข้างนอก เรา3คนก็ต่างเก็บของ อาบน้ำ พักผ่อนกันอย่างสบายใจ พอช่วงประมาณตี1เราไม่รู้ว่าคนอื่นทำอะไรอยู่แต่เราหลับไปแล้ว ตรงที่นอนหมายเลข 1 ซึ่งเราได้ถามเพื่อนๆว่าในตอนที่เราหลับคนอื่นทำอะไรบ้าง โดยคนที่2 ก็นอนหลับไปเหมือนกัน ส่วนคนที่3นอนคอลวิดีโอกับแฟน(ที่อยู่ที่ประเทศไทย)จนถึงตี3 ส่วนคนที่4ที่ออกไปเที่ยวนั้นกลับมาแล้ว สรุปได้ว่าทุกคนหลับกันหมดในช่วงเวลาตี4
และแล้วเรามักจะชอบตื่นมาเข้าห้องน้ำช่วงเวลาตี3-4อยู่แล้ว เราก็ลืมตาขึ้นมาเพราะจะไปเข้าห้องน้ำแต่ทันใดนั้น! เราตาสว่างทันทีเพราะเราเห็นผู้หญิงสูงประมาณ160ซม. ผมฟูๆยาวๆปิดหน้า ใส่ชุดสีขาวยืนอยู่หน้าราวตากผ้า ใช่! หลายคนอาจบอกว่า ตาฝาดนั้นมันเสื้อที่แขวนไว้หรือเปล่า
คือจะบอกว่าก่อนนอนเราเอาพาวเว่อแบงค์ชาร์ตไว้ตรงใต้ราวตากผ้าซึ่งเวลาที่ชาร์ตเต็มแล้วไฟจะขึ้นเป็นสีฟ้า ในตอนนั้นไฟสีฟ้าของพาวเว่อแบงค์ส่องขึ้นมาโดนหน้าของผีตนนั้น แต่เรามองไม่เห็นหน้าเพราะผมบังไว้ เราเห็นแล้วเราตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เราเลยหลับตาแล้วคิดว่าใช่ เราตาฝาด เราเลยลืมตามองอีกครั้งโดยที่ไม่ขยับตัวใดๆทั้งสิ้น แต่นางก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เราเหงื่อแตกไปหมด ไม่เคยเจอผีมาก่อน เราจึงตัดสินใจปลุกคนข้างๆ 555555 “เธอๆ ตื่นๆ เธอๆๆ ตื่นๆ” คนที่2ตื่นขึ้นมา
เราเลยรีบกระซิบเบาๆที่สุดและขยับตัวให้น้อยที่สุด “อะไร” 2ถาม “เธอๆๆ ดูปลายเตียงดิ เห็นเหมือนกันไหม?” ผ่านไปสัก3วินาที 2ก็บอกว่า “เห็น!!” เราก็แบบเออกูไม่ได้เห็นคนเดียววุ้ย “ทำยังไงดีอะ”เราถามนาง นางตอบว่า “หลับตาไปไม่ต้องสนใจ” เราก็หลับตานอนเอาผ้าห่มปิดครึ่งหน้าไม่กล้าลืมตาดูเวลาผ่านไป 5นาทีได้รู้สึกเหมือนผ้าห่มมันถูกดึงลงมานิดนึง ซึ่งเรากำมือนาง2แรงมากและนางก็กำมือเราแรงมากเช่นกันทันใดนั้นเรารับรู้ได้เลยว่านางผีตนนั้นปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วเดินมาข้างๆแบบในรูปที่แนบให้ดูผีตนนั้นเดินมาถึงหัวเตียง เราแน่ใจ100% สัมผัสได้ถึงเตียงที่มันยุบลง แต่เราไม่กล้าลืมตากลัวนางรู้ว่าเราตื่น เราก็นอนแบบนั้นทั้งคืนโดยที่ไม่หลับ หลับไม่ลง พอเวลา 7โมงเช้า นาฬิกาปลุก เรารีบบอกให้เพื่อนคนที่4 บอกให้พี่คนที่4ไปเปิดไฟ
บอกย้ำมากๆ จนพี่คนที่4สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และเพื่อนคนที่3 ก็เหมือนจะเดาได้ว่าเจออะไร เรารีบออกนอกห้องไปเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟังและนาง2ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็น เราจึงไปติดต่อขอเปลี่ยนห้องกับเจ้าหน้าที่ แต่โชคร้ายห้องเต็มและเรา4คนก็ไม่มีงบที่จะเปลี่ยนโรงแรมใหม่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราเลยตอบไปว่า เราเห็นผี ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า เราเหนื่อยหรือเปล่า หรือฝันไปหรือเปล่า แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเราด้วยการ เอาเกลือใส่จานวางไว้ตามมุมห้องเพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่ามันเป็นของบริสุทธิ์ ให้ตั้งไว้รอบห้องจะเป็นบาร์เรียไม่ให้ผีเข้ามาได้
หลังจากที่ได้เจอเหตุการณ์หลอนๆนี่ไปคืนนึง คืนที่สองเราเลยทำตามที่เจ้าหน้าที่บอก แล้วเราก็สันนิษฐานว่า มันอาจจะเป็นทางผ่านของผีก็เป็นไปได้ เพราะฮวงจุ้ยห้องไม่ดีเลย เป็นทางเข้าพอดี หรือเราอาจจะเอารองเท้าไปตากไว้ตรงหน้าต่างก็เป็นได้เพราะทำให้ผีงงว่าไม่มีทางออก หรืออาจจะเพราะโมโหที่เราไม่ทำความสะอาดห้อง ไม่เก็บห้อง เพราะตอนเรามาถึงเราวางของไว้โครมๆ ไม่ได้จัดอะไร มีหลายปัจจัยมากที่ทำให้เห็น เราจึงเคลียทุกอย่าง จัดกระเป๋า เอาเกลือวาง เอารองเท้าออกจากหน้าต่าง และหลังจากคืนที่สองและสามเราก็เปิดไฟนอนกันและดันเตียงใหญ่ชิดเข้าเตียงสองชั้น เพื่อให้ผีผ่านสะดวก 55555 (นี่คิดถึงขั้นนี้) และหลังจากนั้นเราก็ไม่เจอผีตนนั้นอีกเลย เราเสริชหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตพบว่า สวนตรงแถวที่พักเรามีคนตายเป็นพันๆศพ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และหลังจากเช็คเอ้าออก เราก็ไปวัด ทำบุญให้กับผีตนนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป็นทริปที่ครบทุกอรรถรสจริงๆ ฮือออออ ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ส่วนคนที่ยังสงสัยว่าผีมีจริงไหม ตอบได้อย่างเต็มที่ว่า มีจริงๆ