Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แบคทีเรียและลำไส้พรีไบโอติกส์และการลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ

โพสท์โดย Sangsom

การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบของจุลินทรีย์ที่ไม่สมดุลใน

ของผู้สูงอายุสามารถพัฒนาให้เกิดโรคอัลไซเมอร์จากความสัมพันธ์ระหว่างสมองและลําไส้ที่มีการสื่อสารแบบสองทิศทาง

โดยแบคทีเรียบางกลุ่มที่พบในลําไส้สามารถผลิตสารเมแทบอไลต์ที่เป็นพิษต่อเซลล์ประสาท ส่งผลทําให้เกิดการอักเสบและการตายของเซลล์ประสาทในระบบประสาทส่วนกลางผ่านวิถีหรือช่องทางต่างๆ อาหารเป็นปัจจัยสําคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของแบคทีเรียในลําไส้ การบริโภคอาหารกลุ่มพรีไบโอติกส์หรือใยอาหารจากผัก ผลไม้ และธัญพืชสามารถกระตุ้นแบคทีเรียที่ผลิตกรดไขมันสายสั้นหรือจุลินทรีย์กลุ่มโพรไบโอติกส์

โดยแบคทีเรียดังกล่าวสามารถผลิตสารเมแทบอไลต์ต่อต้านการอักเสบและลดการผ่านเข้าไปของสารเมแทบอไลต์ที่เป็นพิษต่อเซลล์ประสาท ดังนั้น ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแบคทีเรียในลําไส้ พรีไบโอติกส์และการเกิดโรคอัลไซเมอร์อาจเป็นแนวทางในการช่วยปูองกันความเสี่ยงการเกิดของโรคอัลไซเมอร์ที่มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในผู้สูงอายุได้

โรคอัลไซเมอร์(Alzheimer’s Disease; AD)

เป็นความผิดปกติทางระบบประสาท เกิดจากการตายของเซลล์ประสาทในสมอง ทําให้เกิดการสูญเสียความทรงจํา ความสามารถในด้านการใช้ความคิด การตัดสินใจสติปัญญา ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม หรือบุคลิกภาพ  เป็นสาเหตุสําคัญของการเกิดภาวะสมองเสื่อม (dementia)ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ (ร้อยละ 60-70) ของกลุ่มอาการโรคสมองเสื่อม

ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากมีจํานวนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด  จากรายงานการสํารวจสุขภาพของประชาชน โดยการคัดกรองผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในประเทศไทย พบว่า มีผู้สูงอายุที่มีสภาวะสมองเสื่อมร้อยละ 8.1เป็นผู้หญิง ร้อยละ 9.2 มากกว่าผู้ชาย ร้อยละ 6.8 โดยความชุกของภาวะสมองเสื่อมจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุ จนอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป วิชัย เอกพลากร,2557

ลักษณะพยาธิสภาพของเนื้อสมองที่เกิดโรคอัลไซเมอร์จะเกิดเบต้า-อะไมลอยด์ (beta-amyloid)ที่เป็นผลจากการเมแทบอลิซึมของอะไมลอยด์พรีเคอร์เซอร์โปรตีน (amyloid precursor protein; APP)ที่ผิดปกติ จนเกิดการสะสมและกลายเป็นแผ่นอะไมลอยด์ (amyloid plaque)ของเซลล์สมอง หรือการรวมกันของโปรตีนเทา (tau protein)ที่อยู่รอบไมโครทิวบูล

โดยมีการม้วนพับผิดปกติ (misfold)แล้วจับตัวและการเรียงกันไม่เป็นระเบียบของเส้นใยประสาท จนมีลักษณะพันกันยุ่งของเส้นใยในเซลล์สมอง (neurofibrillary tangle) (Long, & Holtzman,2019;อัญชลี ศรีจําเริญ,2561)อย่างไรก็ตาม การพัฒนาการเกิดโรคอัลไซเมอร์นั้นยังมีรูปแบบความสัมพันธ์กับแบคทีเรียที่อยู่ในลําไส้ที่สามารถทําให้เกิดสารประกอบเบต้า-อะไมลอยด์ได้ ทั้งนี้ พบว่าในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์มีจุลินทรีย์ในลําไส้จํานวนมากกว่า 1014 เซลล์ ประกอบด้วยแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ และมีจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ เช่น ไวรัสโปรโตซัว และฟังไจ 

(Thursby, & Juge,2017) แบคทีเรียไฟลัมหลักที่พบได้แก่ แบคเทอรอยเดเทส(Bacteroidetes)และเฟอร์มิคิวท์ (Firmicutes)และมีไฟลัมอื่นๆ เช่น แอคติโนแบคทีเรีย (Actinobacteria),โพรทีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria),ฟิวโซแบคทีเรียม (Fusobacteria),และ เวอร์รูโคมิโครเบีย(Verrucomicrobia)เป็นต้น (Rinninella, et al.,2019)

โดยแบคทีเรียในลําไส้มีบทบาทสําคัญต่อสุขภาพและมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคในโฮสต์ (host)หรือในร่างกายของแต่บุคคลนั้น ๆ ซึ่งไม่ได้จํากัดการเกิดอันตรกิริยาในลําไส้เพียงอย่างเดียว แต่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยพบว่าสมองและลําไส้มีการสื่อสารแบบสองทิศทาง (bidirectional communication) (Dinan, Stilling, Stanton, &Cryan,2015)

ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุมักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของจุลินทรีย์ที่ไม่สมดุล (dysbiosis)โดยมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ (Parker, Fonseca, & Carding,2020) มีรายงานพบว่าสารเมแทบอไลต์ที่ผลิตจากแบคทีเรียที่สามารถกระตุ้นการตอบสนองระหว่างสมองและลําไส้ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระบวนการสื่อสารแบบสองทิศทางระหว่างแกนสมองและลําไส้ (gut–brain axis)ผ่านวิถีในลักษณะต่าง ๆเช่น วิถีระบบภูมิคุ้มกัน (immune pathways)วิถีต่อมไร้ท่อ (endocrine pathways)และฮอร์โมนสารสื่อประสาท (neurotransmitter hormone)เป็นต้น (Westfall,et al.,2017)

 

การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบของแบคทีเรียในลําไส้ มักได้รับอิทธิพลจากอาหารเป็นปัจจัยหลัก และมีอิทธิพลเหนือพันธุกรรมของโฮสต์ (Rothschild, et al., 2018) และย่อมส่งผลต่อสุขภาพโดยพบว่า การบริโภคอาหารกลุ่มพรีไบโอติกส์ (prebiotics) หรืออาหารที่มีใยอาหารจากผัก ผลไม้ และธัญพืชจะช่วยส่งเสริมให้แบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพมีการเจริญเติบโตและสร้างสารเมแทบอไลต์ที่มีผลต่อการปูองกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุที่มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้

เพื่อความเข้าใจกลไกการสื่อสารระหว่างสมองและลําไส้ ความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ และอาหารที่มีส่วนช่วยในการปูองกันโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแบคทีเรียในลําไส้ต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์และการบริโภคอาหารที่มีส่วนช่วยในการปูองกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์

การสื่อสารระหว่างสมองและลำไส้การสื่อสารระหว่างสมองและลําไส้ เป็นกลไกที่เกี่ยวกับการส่งสัญญาณแบบสองทิศทางระหว่างระบบประสาทส่วนกลางของสมองและระบบทางเดินอาหาร ผ่านวิถีระบบประสาทและฮอร์โมนที่ซับซ้อน (Dalile, et al., 2019) เช่น การสื่อสารผ่านทางระบบประสาทอัตโนมัติและระบบประสาทเอนเทอริก (enteric nervous system; ENS) ซึ่งเป็นระบบประสาทลําไส้ เชื่อมโยงกันเป็นร่างแหในระบบทางเดินอาหาร  ทั้งนี้บทบาทของสมองต่อลําไส้ในการสื่อสารแบบสองทิศทางจะทําหน้าที่ควบคุมการหลั่งและการขวางกั้นการเคลื่อนที่ของของเหลว การเกิดอันตรกิริยาระหว่างระบบภูมิคุ้มกันและระบบต่อมไร้ท่อ การเคลื่อนไหวของลําไส้ การกระตุ้นการสร้างสารเมือกและไบโอฟิล์ม (biofilm) และการผ่านเข้าออกของลําไส้ (Carabotti, Scirocco, Maselli, & Severi, 2015) และเนื่องจากในลําไส้มีแบคทีเรียอาศัยอยู่เป็นจํานวนมาก

 

โดยแบคทีเรียสามารถผลิตสารเมแทบอไลต์จากอาหารผ่านกระบวนการเมแทบอลิซึมโดยมีโมเลกุลที่ได้จากการผลิตโดยตรงจากแบคทีเรีย หรือเปลี่ยนแปลงเป็นโมเลกุลอื่นจากกระบวนการชีวเคมีในร่างกายหรือกรดน้ําดี สารเมแทบอไลต์ที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นผ่านเซลล์เอนเทอโรโครมาฟิน (enterochromaffin cells) ซึ่งเป็นเซลล์เอนโดไครน์และเซลล์นิวโรเอนโดไครน์ในลําไส้ (Conte, Sichetti, & Traina, 2020) นอกจากนี้ แบคทีเรียในลําไส้และสารเมแทบอไลต์ยังมีบทบาทควบคุมประสาทส่วนปลายและระบบประสาทส่วนกลางผ่านการควบคุมเซลล์ประสาทนําเข้าในลําไส้ (enteric sensory afferents) กระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (vagus nerve) เซลล์เยื่อบุที่ผลิตฮอร์โมน สารสื่อประสาท การผลิตไซโตไคน์ การปลดปล่อยกรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acids) และการไหลเวียน รวมทั้งการแสดงออกและการหมุนเวียนของสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (serotonin), กาบา (GABA) และ นิวโรโทรฟิก แฟกเตอร์(neurotrophic factor) เป็นต้น (Parker, Fonseca, & Carding, 2020)

นอกจากนี้ ยังปูองกันให้ลําไส้มีความสามารถในการขวางกั้นหรือช่วยให้โปรตีนของรอยต่อระหว่างเซลล์หรือเซลล์จังชันก์ (cell junction) ที่ลําไส้สามารถปูองกันการรั่วไหลของสารเมแทบอไลต์จากแบคทีเรีย เนื่องจากสารเมแทบอไลต์จากแบคทีเรียบางชนิดสามารถผ่านแนวกั้นเลือดและสมอง (blood brain barrier; BBB) เข้าสู่สมองส่วนกลางได้ (Westfall, et al., 2017; Carabotti, Scirocco,Maselli, & Severi, 2015)

แบคทีเรียในลำไส้กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุในลําไส้ของผู้สูงอายุพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียก่อโรคมากกว่าแบคทีเรียที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายทําให้เกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้ เช่น การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียกลุ่ม โพรทีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria spp.) และการลดลงของไบฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria spp.)

หรือการลดลงของกลุ่มแบคทีเรียที่สามารถผลิตบิวทิเรต (butyrate) ได้ เช่น รูมิโนคอคคัส (Ruminococcus) ฟีคอลลิแบคทีเรียม (Faecalibacterium spp.)  (Westfall, etal., 2017)ทั้งนี้แบคทีเรียบางชนิดสามารถสร้างสารเมแทบอไลต์ไปกระตุ้นการผลิตไซโตไคน์ที่ทําให้เกิดการอักเสบ (pro-inflammation) เช่นสารประกอบลิโพโพลีแซคคาไรด์ (lipopolysaccharides; LPS) และสารประกอบบีต้า-เอ็น-เมทิลอะมิโน-แอล-อะลานีน (β-N-methylamino-L-alanine; BMAA) ซึ่งเป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาท (Sarkar, & Banerjee, 2019) โดยมีงานวิจัยพบว่า ปริมาณของสารประกอบลิโพโพลีแซคคาไรด์ในสมองของคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ในส่วนของนีโอคอร์เทกซ์ (neocortex) และฮิปโปแคมปัส (hippocampus) มีค่าสูงกว่าสมองคนปกติ 2 และ 3 เท่า ตามลําดับ (Zhao, Jaber, & Lukiw, 2017) ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ลําไส้

โดยมีแบคทีเรียบางชนิดที่ผลิตโปรตีนอะไมลอยด์ (amyloid proteins) ทําให้โครงสร้างเซลล์ของแบคทีเรียสามารถจับกันด้วยการสร้างสารไบโอฟิล์มที่ทนต่อการทําลายทางกายภาพและระบบภูมิคุ้มกัน อะไมลอยด์ที่ผลิตโดยแบคทีเรียในลําไส้มีจะมีโครงสร้างระดับปฐมภูมิที่แตกต่างจากอะไมลอยด์ที่เกิดขึ้นในระบบประสาทส่วนกลาง

แต่จะมีลักษณะร่วมกันในโครงสร้างระดับตติยภูมิ การจับตัวของโปรตีนคือ แอลฟา-ซิน (α-syn) หรือเบต้าอะไมลอยด์ที่ระบบประสาทและลําไส้จะส่งผลให้มีการส่งสัญญาณไปยังระบบภูมิคุ้มกันให้ทํางานเพิ่มขึ้น โดยจะกระตุ้นไซโตไคน์ชนิดที่มีผลต่อการอักเสบ เช่น อินเตอร์ลิวคิน-1 เบต้า (interleukin-1β; IL-1β) อินเตอร์ลิวคิน-6 (interleukin-6; IL-6) และทูเมอร์ เนโครซิส เฟคเตอร์-แอลฟา (tumor necrosis factor-α; TNF-α) ทําให้เกิดการอักเสบของแนวกั้นเลือดและสมองมีการสะสมหรือรวมตัวของโปรตีนดังกล่าวในสมองส่วนกลางและในลําไส้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ

แบคทีเรียที่สร้างอะไมลอยด์พบได้ทั้งแบคทีเรียแกรมลบและแกรมบวก เช่น แบคเทอรอยเดเทส (Bacteroidetes) แอคติโนแบคทีเรีย(Atinobacteria) คลอโรเฟล็กซี (Chloroflexi) โพรทีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria) และเฟอร์มิคิวท์ (Firmicutes) (Kowalski, & Mulak, 2019; Lina, et al., 2019)

 

อาหารพรีไบโอติกส์กับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์

พรีไบโอติกส์จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่พบได้ในผัก ผลไม้ หรือธัญพืช เป็นอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ในระบบทางเดินอาหาร แต่จะถูกย่อยโดยเอนไซม์ของแบคทีเรียที่อยู่ในลําไส้ใหญ่เกิดกระบวนการหมัก (fermentation) ได้ผลผลิตเป็นกรดไขมันสายสั้นที่มีคุณสมบัติในการปูองกันระบบประสาท กรดไขมันสายสั้นที่พบได้มากจากกระบวนการหมักในลําไส้ใหญ่ ได้แก่ อะซีเตต (acetate) โพรพิโอเนต (propionate) และบิวทิเรต (butyrate) (Dalile, Oudenhove, Vervliet, & Verbeke, 2019) ซึ่งกรดไขมันสายสั้นดังกล่าวมีคุณสมบัติในการควบคุมการเกิดการอักเสบ โดยพบว่า บิวทิเรตจะกดการสร้างลิโพโพลีแซคคาร์ไรด์ และไซโตไคน์ที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น TNF-α, IL-6ไนตริกออกไซด์ (nitric oxide)

 

และเพิ่มการปล่อยไซโตไคน์ต่อต้านการอักเสบ เช่น อินเตอร์ลิวคิน-10 (IL-10) ทั้งนี้ มีรายงานวิจัยพบว่า อะซิเตตและโพรพิโอเนตที่ 30 มิลลิโมล (mM)สามารถลดการผลิตTNF-αจากการกระตุ้นของลิโพโพลีแซคคาไรด์ในนิวโทรฟิล (neutrophil) (Vinolo, Rodrigues, Nachbar, & Curi,2011)

ทั้งนี้ กรดไขมันสายสั้นจะไปรบกวนอันตรกิริยาระหว่างโปรตีนกับโปรตีนอะไมลอยด์เบต้าเปปไทด์ (amyloid betapeptide)ซึ่งเป็นโอลิโกเมอร์ที่เป็นพิษต่อระบบประสาทที่จะทําให้เกิดการสูญเสียการไซแนปส์และความจํานอกจากนี้ กรดไขมันสายสั้นสามารถผ่านแนวกั้นเลือดและสมองทําให้ยับยั้งการตอบสนองต่อการอักเสบ(Silva,et al.,2020)พรีไบโอติกส์จะช่วยส่งเสริมแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพให้เจริญเติบโตได้ดี โดยส่งเสริมแบคทีเรียในกลุ่มโพรไบโอติกส์ (probiotics)ซึ่งเป็นแบคทีเรียไม่ก่อโรค เช่น แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus)ไบฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria)แลคโตคอคคัส (Lactococcus)พรีโวเทลลา (Prevotella) (Parker,Fonseca, & Carding,2020)

รวมทั้งส่งเสริมแบคทีเรียในไฟลัมแบคเทอรอยเดเทส (Bacteroidetes)ให้สามารถผลิตอะซีเตตและโพรพิโอเนต และไฟลัมเฟอร์มิคิวท์ (Firmicutes)สามารถผลิตบิวทิเรตได้ โดยแบคทีเรียที่สามารถผลิตกรดไขมันสายสั้นอะซีเตต ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus spp.)ไบฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacterium spp.)สเตรปโตคอคคัส (Streptococcus)แบคทีรอยด์ดีส (Bacteroidesspp.)รูมิโนคอคคัส (Ruminococcus spp.)พรีโวเทลลา (Prevotella spp.)และแอคเคอร์แมนเซียมิวซินิฟิลา (Akkermansia muciniphila) (Feng, et al.,2018)โดยอะซีเตตจะช่วยลดไซโตไคน์ที่ทําให้เกิดการอักเสบและทําหน้าที่ควบคุมสัญญาณการอักเสบ (Silva, et al.,2020)

ขณะที่แบคทีเรียที่ผลิตสารประกอบโพรพิโอเนต เช่น ฟาสโคแลคโตแบคทีเรียม ซัคซินาทูเทนส์ (Phascolacctobacteriumsuccinatutens)แบคทีรอยด์ดีส (Bacteroides spp.)ไดอะลิสเตอร์(Dialister spp.)เมกะสเฟียราเอลส์เดนิไอ(Megasphaera elsdenii)โรสบูเรียอินูลินิโวแลนส์ (Roseburia inulinivorans)และรูมิโนคอคคัส (Ruminococcus) (Feng,et al.,2018)โดยพบว่า กรดไขมันสายสั้นมีผลต่อการผลิตสารสื่อประสาทและเพิ่มภาวะความยืดหยุ่นของสมอง (neuronal plasticity) (Martínez Leo, & Segura Campos,2020)

นอกจากนี้ มีรายงานวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารกลุ่มพรีไบโอติกส์ซึ่งมีสารสําคัญที่มีความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยส่งเสริมการสร้างแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้โดยพบว่า การให้อาหารเสริมสารประกอบโพลีฟีนอล (polyphenol)สามารถลดสัดส่วนของแบคทีเรียไฟลัมเฟอร์มิคิวท์ (Firmicutes)ต่อแบคเทอรอยเดเทส (Bacteroidetes)ในลําไส้ได้

ซึ่งช่วยลดการเกิดการอักเสบและอาจเป็นประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ (Wu,et al.,2020) แหล่งอาหารของแบคทีเรียที่จัดเป็นอาหารกลุ่มพรีไบโอติกส์ หรือกลุ่มใยอาหารที่เกิดกระบวนการหมักโดยแบคทีเรียแล้วให้กรดไขมันสายสั้นที่สําคัญคือ กลุ่มโอลิโกแซคคาไรด์ (oligosaccharides)ได้แก่ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์(fructo-oligosaccharides)สามารถพบได้ในแหล่งอาหาร เช่น หัวหอม กล้วย กระเทียม ชิคอรี่ แก่นตะวันหน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบใน ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ น้ําผึ้ง ฯลฯ ขณะที่กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์(galacto-oligosaccharides)พบได้ตามธรรมชาติในน้ํานมแม่ นมวัว และโยเกิร์ต ฯลฯ และพรีไบโอติกส์กลุ่มเบต้า-กลูแคน (β-glucan)พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เห็ด สาหร่าย ทั้งนี้ผัก ผลไม้ธัญพืชและพืชตระกูลถั่วชนิดต่าง ๆ

เป็นแหล่งพรีไบโอติกส์ที่ส่งเสริมการเจริญของแบคทีเรียที่ส่งเสริมต่อสุขภาพ(Parker, Fonseca, & Carding,2020)นอกเหนือจากคุณสมบัติการเป็นพรีไบโอติกส์ของอาหารจาก ผัก ผลไม้และธัญพืชแล้ว (Dalile,Oudenhove, Vervliet, & Verbeke,2019) มีรายงานวิจัยพบว่า

การรักษาผู้ปุวยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ด้วยการให้รับประทานผลิตภัณฑ์นมที่มีโพรไบโอติกส์ที่มีแบคทีเรียกลุ่มผลิตกรดแลกติก เช่นแลคโตบาซิลลัสแอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus)แลคโตบาซิลลัส เฟอร์เมนตัม (Lactobacillus fermentum)ไบฟิโดแบคทีเรียม ไบฟิดัม (Bifidobacterium bifidum)และแลคโตบาซิลลัส แคซิไอ (Lactobacilluscasei)

โดยรับประทานเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจําเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ โดยการประเมินmini-mental-state examination (MMSE) test (Wu,et al.,2020)ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้จากความสัมพันธ์แบบสองทิศทางระหว่างสมองและลําไส้ที่ทําให้เป็นสาเหตุการเกิดโรคอัลไซเมอร์และผลของการบริโภคอาหารกลุ่มพรีไบโอติกส์ 

การเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลําไส้เนื่องจากเกิดความไม่สมดุล ทําให้แบคทีเรียที่ผลิตสารเมแทบอไลต์ที่กระตุ้นอักเสบ ส่งผลกระทบไปยังสมอง

จากความสัมพันธ์ของกลไกการสื่อสารระหว่างสมองและลําไส้ การรับประทานอาหารพรีไบโอติกส์จากผัก ผลไม้ธัญพืช หรือผลิตภัณฑ์นมหรือนมหมัก สามารถกระตุ้นแบคทีเรียที่ผลิตสารเมแทบอไลต์กลุ่มกรดไขมันสายสั้นในการกระตุ้นการสร้างสารไซโตไคน์ที่มีผลต่อการต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของเยื่อบุลําไส้ ลดการผ่านเข้าไปของสารเมแทบอไลต์ที่เป็นพิษต่อระบบประสาท และช่วยต่อต้านการเกิดอักเสบของเซลล์ประสาทและการถูกทําลาย

ดังนั้น การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารกลุ่มดังกล่าว จึงมีส่วนช่วยในการปูองกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ โดยอาจจะมีการแปรรูปให้ง่ายต่อการรับประทาน เช่น การตุ๋น การนึ่ง การต้ม เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระที่อาจจะมีปัญหาเรื่องการเคี้ยว การกลืน และการรับรสสัมผัสของผู้สูงอายุ

โพสท์โดย: แสงระวี
อ้างอิงจาก: Carabotti, M., Scirocco, A., Maselli, M.A. , & Severi, C. (2015).The gut-brain axis: interactions between enteric microbiota, central and enteric nervous systems. Annals of Gastroenterology.28(2), 203-209.
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Sangsom's profile


โพสท์โดย: Sangsom
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: ไทยเฉย, bemygon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ข่าวต่างประเทศ ทั้งจีน และไต้หวัน ลงข่าวดาราไทย หักมุมชีวิตหรู! ดิวอริสรา"พิชัย" เดินหน้ามาตรการ "ซื้อหนี้ประชาชน" คาดเริ่มก่อน มิ.ย. นี้ หวังช่วยลดภาระหนี้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เซบาสเตียน ลี ในขณะที่อดีตภรรยา กำลังหัวหมุน หลัวก็กระหน่ำไลก์ให้สาวๆอย่างรัวๆ"พิชัย" เดินหน้ามาตรการ "ซื้อหนี้ประชาชน" คาดเริ่มก่อน มิ.ย. นี้ หวังช่วยลดภาระหนี้4 เรื่องจริง เมื่อคุณไปเที่ยวรัสเซีย?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
การเขียนที่ดึงดูดใจผู้อ่าน 5 เทคนิคที่จะทำให้ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจง่ายเว็บพนันออนไลน์ดูเหมือนจะเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูงและซับซ้อน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าในความซับซ้อนนั้นกลับเต็มไปด้วยช่องโหว่ที่อาจทำให้ระบบถูกเจาะได้ง่ายกว่าที่คิดฝรั่งลอง "ไข่เยี่ยวม้า" ครั้งแรก เจอไปคำเดียว… ถึงกับร้องว้าวทำไมสุนัขชอบเล่นแมลงสาบ...
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง