จากเหตุผลของความเป็นจริงปั

ญหาของจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้หญิงนั้นก็เรียกได้ว่ามีมากอย่างพอตัว โดยเฉพาะบริเวณน้องสาวของเหล่าสาวน้อย สาวใหญ่ที่แอบเป็นกังวลในการตัดสินใจว่าควรจะเอาออกบ้างดีไหม หรือควรที่จะมีเอาไว้ดีกว่า

เนื่องจากคำนิยามของเส้นขนที่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าแทบจะทุกส่วนเลยที่มีเส้นขนเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นขนบริเวณใบหน้า ลำตัว บริเวณที่ลับก็บ่งบอกได้ถึงอะไรหลายสิ่งอย่างเช่น  การให้ความอบอุ่นกับผิวที่มีความบอบบาง ปกป้องผิวให้สภาพผิวปรับตัวให้ได้เพื่อเข้ากับฤดูกาล และลดการเกิดอันตรายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเสี่ยงจากความเป็นกรด ด่าง ของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว

 แต่ในบางครั้งและบางทีก็จำเป็นจะต้องเอาออกเพื่อด้านความสวยความงามเมื่อต้องสวมใส่บิกินี่ เพราะการจะมีไว้ก็คงจะดูไม่ดีไม่งามหากมีบางทีน้องสาวแอบแพมออกมาทักทาย แหวกว่ายร่วมด้วยในทะเลสีฟ้า และอีกมุมหนึ่งของคนที่ให้ความใส่ใจดูแลในเรื่องความสะอาดเพื่อความสะดวกและรวดเร็วการกำจัดขนก็อาจเป็นวิธีที่ดีไม่น้อย แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงวิธีกำจัดเส้นขนบริเวณจุดซ่อนเร้นเราไปทำความรู้จักระยะของเส้นขนกันก่อนเลยดีกว่า...

เส้นขนแบ่งออกเป็น 3 ระยะ

ระยะที่ 1. ระยะเติบโต

ระยะนี้เส้นขนค่อนข้างมีความแข็งแรงมาก และมีจำนวนขนมากกว่า 80%จากจำนวนเส้นขนทั้งหมด ผลระยะนี้จะมีตั้งแต่เริ่มขึ้นจนกระทั่งเติบโตเป็นขนเส้นใหญ่เต็มที่และจะมีอายุค่อนข้างนานขึ้นอยู่กับตำแหน่งบริเวณ ระยะของขนลักษณะนี้จะอยู่ใน 2-8 ปี

ระยะที่2. ระยะหยุดนิ่ง

เป็นระยะที่พ้นจากการเติบโต เป็นระยะที่รอการหลุดร่วงออกไป ระยะนี้จะมีอยู่ไม่มากมีเพียง 1% เท่านั้นจะมีอายุเพียง 3- 5 เดือน

ระยะที่3.ระยะหลุดร่วง

เป็นระยะหลุดร่วงมี 14% เท่านั้น นับเป็นช่วงเติบโตเต็มที่และไม่มีเลือดมาเลี้ยง

เพราะเหตุใดผู้ชายถึงมีขนบริเวณอวัยวะมากกว่าผู้หญิง(?)

ต้องบอกว่าฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชายมีความแตกต่างกัน โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงเป็นฮอร์โมนแห่งความสวยงาม ดังนั้นผู้หญิงก็จะมีขนค่อนข้างที่จะน้อยกว่าผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนเพศมีความแตกต่างกัน

ในขณะที่ผู้ชายที่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่สร้างความกำหนัดทำให้มีอารมณ์ความต้องการมากกว่าปกติในขณะเดียวกันกลุ่มฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้เสียงห้าวมากขึ้น มีหนวด มีเครา มีขนรักแร้ รวมถึงมีขนที่บริเวณอวัยวะเพศ

ขน...มีประโยชน์ไหม(?)

แน่นอนว่าขนมีประโยชน์ และเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อลดแรงเสียดทาน ช่วยชะลอการสัมผัสโดยตรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งลดการสัมผัสความเป็นกรดด่าง

สาเหตุของการมีขนเยอะ มาจากอะไร(?)

สำหรับคนที่มีขนเยอะไม่ว่าจะบริเวณไหนก็แล้วตามอาจเกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายที่มีมากกว่าปกติหรือเป็นมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย

ขน...สามารถโกนหรือกำจัดออกไปได้หรือไม่(?)

เส้นขนสามารถโกนหรือกำจัดออกไปได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ รสนิยม และความชอบส่วนตัว

วิธีการกำจัดเส้นขนน้องสาวง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้านทำอย่างไรได้บ้าง(?)

การกำจัดขนน้องสาวด้วยตัวเองส่วนมากแล้วเหล่าสาว ๆ มักจะริเริ่มกันมานานแล้ว เนื่องจากมีการเขินอาย ไม่กล้าที่จะเข้ารับบริการตามสถานพยาบาล ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ก็จะมี 3 วิธีด้วยกัน

1). โกนด้วยใบมีดโกน(พร้อมด้ามจับ)

เรียกว่าเป็นเบสิควิธีที่อยู่ที่ไหนก็สามารถกำจัดออกไปได้ โดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยการใช้ใบมีด(พร้อมด้ามจับ) เพื่อลดโอกาสของการบาดนั่นเอง

2). กรรไกร 

อีกวิธีที่ง่ายดายมาก ๆ แต่ต้องยอมรับผลที่ได้ด้วย เพราะกรรไกรอาจเป็นแค่ตัวช่วยเล็มเพื่อให้ขนบริเวณน้องสาวสั้นลงเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ได้รูปทรงที่พอใจนัก

3). การแว๊กซ์

ตัวช่วยที่สาว ๆ หลายคนให้ความสนใจในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการแว๊กซ์ที่สามารถถอนได้ลึกถึงรากถึงโคนและช่วยชลอในการงอกของขนได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดนั่นเอง

ขนดกเกิดขึ้นได้จากอะไร(?)

การดกของเส้นขนมาจากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติของต่อมไร้ท่อบางอย่าง หรือการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้ขนมามากขึ้น เส้นขนแต่ละเส้นจะมีสเต็มเซลล์อยู่โดยรอบของรากขน จะทำหน้าที่สร้างขนใหม่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้เป็นไปตามระยะ

การกำจัดขนถาวรต้องทำให้ถึงบริเวณสแตมป์เซลล์เพื่อที่จะกำจัดโดยไม่ให้ขนใหม่เกิดขึ้นอีกเลย

 

การโกนและการแว๊กซ์เป็นวิธีการกำจัดแบบถาวรหรือไม่(?)

สำหรับการโกนหรือการแว๊กซ์เป็นแค่การกำจัดหรือนำขนออกเพียงชั่วคราว ไม่ถึงขั้นเป็นการกำจัดขนที่ถาวร วิธีการเดียวของการกำจัดขนก็คือการทำเลเซอร์

การเลเซอร์จะต้องยิ่งไปบริเวณสเต็มเซลล์เพื่อลดกันสร้างฟังก์ชันในกระบวนการสร้างขนในแต่ละครั้งของการยิงก็สามารถสร้างขนได้น้อยลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมดไปในที่สุด

ก่อนยิงเลเซอร์กำจัดขนแนะนำให้โกนขนก่อนทำการกำจัดเป็นเวลา 2-3 วันล่วงหน้าซึ่งก็แล้วแต่ขนบริเวณนั้นยาวเร็วหรือไม่ด้วยวิธีการโกนขนล่วงหน้าก็เพื่อให้เห็นเป็นตอขนเล็กๆที่จะสามารถจับกับเลเซอร์ที่เข้าไปทำลายในส่วนของรากขนและสเต็มเซลล์ได้

ที่สำคัญห้ามถอนห้ามแว๊กซ์ก่อนมาทำเลเซอร์เพราะการถอนหรือแว๊กมาแล้วก็จะไม่มีเส้นขนเหลือให้เลเซอร์จับนั่นเอง

DIODE  LASER (FOTONA) วิธีกำจัดขนอย่างถาวร

Diode Laser (FOTONA) นวัตกรรมช่วยในเรื่องการกำจัดขนและดูแลสภาพผิว ที่ต่างก็ให้การนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีการรับรองจากนานาชาติยุโรปและอเมริกา ซึ่งพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถจับกับเม็ดสีที่รากขน ยับยั้งการทำงานของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงบริเวณขนได้ เลยช่วยให้การทำลายของเส้นขนนั้นเป็นไปในทิศทางที่ดีเมื่อต้องการที่จะกำจัด ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกายเลย

โดยเริ่มจากการส่งพลังงานงานแสงเลเซอร์ไปทำลายเซลล์ขนที่เป็นต้นกำเนิดและเซลล์ที่หุ้มเส้นขนที่อยู่ชั้นล่าง จากนั้นความร้อนจากแสงเลเซอร์ที่ถูกปล่อยออกไปจะไปทำลายเซลล์ขนที่เป็นต้นกำเนิดทำให้อัตราการงอกหรือการเกิดขนใหม่ก็จะลดน้อยลง รากขนก็จะถูกทำลายจนกระทั่งหมดไป ซึ่งการที่เส้นขนถูกทำลายนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังเลย เนื่องจากมีระบบทำความเย็นคอยปกป้องผิวหนังอยู่ตลอด

DIODE LASER (FOTONA) สามารถทำอะไรได้บ้าง(?)

- กำจัดขนถาวร

-ลดความหมองคล้ำช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส แลดูอ่อนกว่าวัย

-กระชับรูขุมขน

-Tightenning ช่วยสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

​​​​​​เส้นขนที่ถูกกำจัดด้วยการเลเซอร์มีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือไม่(?) 

โอกาสการงอกของเส้นขนนั้นมี แต่การงอกหลังจากทำการเลเซอร์นั้นจะช้า และเส้นขนที่งอกใหม่นั้นจะบางให้ความรู้สึกที่อ่อนและ นุ่มกว่านั่นเอง

​​​​​​

ข้อแนะนำในการทำ DIODE LASER (FOTONA) กำจัดขนน้องสาวอย่างถาวร

- ระยะเวลาในการกำจัดขนเพียง 15-20 นาที

- สำหรับอาการกำจัดขนผิวอาจแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายเองภายใน 30 นาที- 1 ชั่วโมง

- ในขณะที่ทำการกำจัดขนอาจได้รับความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย เพราะเกิดจากช่วงขณะที่ยิงเลเซอร์ การได้รับความเย็นหรือทายาชาก็จะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้

- สำหรับการกำจัดขนเพื่อให้เห็นผลที่ดีขึ้นควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง ติดต่อกัน 5 ครั้ง ซึ่งผลในครั้งแรกก็จะรู้สึกได้ว่าผิวมีความเรียบเนียน

ข้อปฏิบัติหลัง DIODE  LASER (FOTONA) กำจัดขนน้องสาวอย่างถาวร

หลังจากการเลเซอร์กำจัดขนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช่น การอาบน้ำ หรือการชำระล้าง และอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี โดยเฉพาะน้ำหอมที่หลาย ๆ คนมักจะเลือกฉีดในบริเวณใกล้เคียงกับจุดซ่อนเร้น เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้นั่นเอง

ข้อดีของการกำจัดขนด้วย DIODE LASER (FOTONA)

แสงเลเซอร์ถูกส่งเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกจนสามารถกำจัดได้ทุกขนาดของเส้นขนไม่ว่าจะขนเส้นเล็กและขนเส้นใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นยังยั้บยั้งการเกิดขนเส้นใหม่ ผลลัพธ์การทำครั้งแรกสามารถเห็นผลได้ชัดว่าเส้นขนนั้นลดลงทันที สีของเส้นขนก็อ่อนลงแถมลดอัตราการเกิดขนคุด นอกจากนั้นอีกข้อดีก็คือช่วยให้ผิวมีความเกลี้ยงเกลามากขึ้น

IPL แตกต่างกับ DIODE LASER อย่างไร(?)

ต้องบอกก่อนว่า IPL ไม่ใช่เลเซอร์ เป็นเพียงแสงและไม่สามารถทำลายรากขนอย่างได้ผล

มีโอกาสทำร้ายผิวที่มากกว่าเพราะต้องใช้พลังงานแสงที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำลายได้ลึกถึงรากขน

IPL จะให้ความรู้สึกที่เจ็บกว่า DIODE LASER และDIODE LASER จะใช้ระยะในการกำจัดขนน้อย เพราะถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดขนโดยเฉพาะ

ระยะ/จำนวนครั้งของการกำจัดขน

เน้นย้ำสำหรับระยะของการกำจัดอาจขึ้นอยู่กับการงอกของเส้นขนบริเวณนั้น ๆ รวมถึงเม็ดสีผิวด้วย ซึ่งหากจะให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและดีขึ้นควรเข้ารับการกำจัดด้วยวิธี Diode Laser อย่างน้อย 5-7 ครั้ง เว้นระยะทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ 

จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เชื่อว่าเหล่าสาว ๆ เองก็คงหมดไปกับวิธีการกำจัดขนน้องสาวมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วอาจจะด้วยเหตุผลส่วนตัว ปัญหาในการดูแลรักษาความสะอาด ยังไงให้บทความนี้เป็นตัวช่วยในการเลือกประกอบกับการตัดสินใจได้ เพราะการจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองนั้นบางครั้งบางทีก็ยากและนานซะเหลือเกินกว่าจะเจอวิธีที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด

Reference: https://www.independent.co.uk/life-style/health-and-families/shaving-pubic-hair-sti-risk-increases-herpes-gonorrhoea-chlamydia-a7458311.html?cmpid=facebook-post