ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ "สองพันเก้า"

เนื่องจากว่าในช่วงที่เกิดการระะบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งไทยและต่างชาติ โดยภัยของโรคนี้ได้แอบแฝงโรคแทรกซ้อนเอาไว้ วันนี้เราจึงตั้งใจจัดทำเนื้อหาขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คืออะไร และจะมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้างวันนี้บทความนี้มีคำตอบรอคุณอยู่แล้วไปหาคำตอบกันเลย

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คือ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์มีชื่อเรียกในประเทศต่างๆหลายชื่อไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ H1 H1 2009 ไข้หวัดใหญ่จาก/สุกร(หมู)-ไข้หวัดเม็กซิโก ถือว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอตามปกติของการระบาดในหมู หรือเชื้อจากสุกรที่ได้รับเชื้อมาอีกทีสามารถพบได้ทั้งในหมู่ป่าและหมูเลี้ยงซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง H1N1- H1N2และ H3N2 แต่ในบางครั้งบางทีหนูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่แล้วในตัวเองมากกว่า 1 ชนิด แต่อาจเกิดมาจากการผสมของยีนและทำให้เกิดไวรัสชนิดใหม่ขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นอาจข้ามสายพันธุ์มาติดต่อสู่คนได้หรือเรียกได้ว่าการติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยเริ่มต้นจากการจับสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค

แรกเริ่มเดิมทีแล้วไข้หวัดชนิดนี้มีการแพร่ระบาดและเป็นข่าวในประเทศเม็กซิโกเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเรียกไข้นี้ว่าไข้หวัดเม็กซิโกซึ่งส่งผลให้ประเทศเม็กซิโกเสียหายอย่างหนักหรือเสียชื่อเสียง ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่อเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่าง H1N1 แล้วในประเทศไทยถูกให้ใช้ชื่อว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 [influenza A/H1N1 ] ที่ถือว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคนที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เนื่องด้วยเป็นการผสมทั้งสายพันทุกรรมไข้หวัดในคนและนกที่พบในอเมริกาเหนือที่เกิดจากเชื้อไวรัส H5N1 และไข้หวัดจากหมูในเอเชีย-ยุโรปทำให้ WHO ต้องดูในการแพร่ระบาดของโรคเหล่านี้ด้วยเหตุเพราะเกรงว่าเชื้ออาจกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายกว่าเดิม

การพัฒนาของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ h1n1 2009/(H1N1 2009)

การระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้เคยเกิดมาแล้วทั่วโลกและเคยระบาดมาแล้วหลายครั้ง ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วนับล้านคนจากไข้หวัวใหญ่ การติดเชื้อของไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์Aสายพันธุ์B และ สายพันธุ์C

สายพันธุ์A=จะระบาดโดยกว้างขวางและรุนแรง สายพันธุ์B=เป็นการระบาดแบบภูมิภาคจะมีความรุนแรงที่น้อยกว่าสายพันธุ์เอ และ สายพันธุ์C= จะมีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ

ซึ่งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A จะมีการแบ่งตัวของสายพันธุ์และจะแบ่งตามความแตกต่างของโปรตีนของไวรัส เช่น A/H1N1- A/H1N2- A/H3N2- A/H5N1- H9N2 และไข้หวัดใหญ

ในช่วงก่อนสายพันธุ์เดิมจะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดสุกร/(หมู) มีเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่คศ 1918 ถึง 1919เป็นช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ spanish Flu ระบาดอย่างหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 50 ล้านคนส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 20 ปีถึง 45 ปีและตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเพราะว่าเป็นผู้ที่ได้สัมผัสกับสุกรโดยตรงก็จึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดในช่วงเวลาต่อมาใน 60% พบว่าเป็นผู้ที่ได้สัมผัสสุกรมีอายุตั้งแต่ 20 ปีถึง 24 ปี

ในช่วงค.ศ. 1974 ก็ระบาดไปในค่ายทหารที่รัฐนิวเจอร์ซีย์มีผู้ได้รับเชื้อ 13 คน เสียชีวิต 1 ราย และอีก 200 กว่าคนได้รับเชื้อแต่ไม่มีอาการแสดงซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับสุกรจึงเกิดความคิดใหม่ที่ว่า เชื้อไวรัสน่าจะมีการเจริญสายพันธุ์จนมีการติดต่อจากคนสู่คนได้

หลังจากนั้นคศ 1988 ได้มีรายงานว่าในรัฐวิสคอนซินมีผู้หญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตซึ่งมีประวัติได้สัมผัสสุกรในเกิดความสงสัยกันอีกว่าไข้หวัดสุกรอาจไม่ได้มาจากสุกร 100%

เมื่อ ค.ศ.1998ได้พิสูจน์ว่าหมูที่เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดมีไวรัสไข้หวัดกลายพันธุ์โดยมี DNA ระหว่างคนและนกเกิดเป็นสายพันธุ์ผสมH1N1- H1N2และ H3N2และยังพบได้ในเอเชีย-แคนาดา เมื่อพฤศจิกายน 2008 พบไข้หวัดหมูผสมสายพันธุ์ใหม่ H1N1ที่ประเทศสเปนจากผู้หญิงที่ทำงานในฟาร์มหมูโดยอายุประมาณ 50 ปีอาการที่แสดงคือไอเหนื่อย มีไข้ คันคอคันตา เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว และหนาวสั่น แต่ไม่นานอาการก็หายไปเอง โดยที่ไม่ได้รับการรักษาแต่อย่างใด ทำให้เข้าใจว่าอาการของโรคนี้ไม่ได้อันตรายร้ายแรง

การติดต่อของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009

สำหรับการได้รับไวรัสไข้หวัดใหญ่2009หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เชื้อมีการติดต่อราวกับไข้หวัดธรรมดาและซื้อนั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาโดยระยะเวลาในการเกิดของไข้หวัดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 5-7 วันขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน

เชื้อสามารถแพร่กระจายได้จาก >เสมหะ น้ำลาย น้ำมูก การสัมผัสมือ (ของผู้ติดเชื้อ)

นอกจากนี้ก็ยังสามารถแพร่ไปยังพูดได้โดยใกล้ชิดหรือประชันชิด

อาการของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009

ประมาณช่วง 1 สัปดาห์หรือ 7วันหลังจากการเกิดการติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัดธรรมดาแต่อาการจะรุนแรงและลุกลามเร็วกว่าคือมีไข้สูง38 องศาเซลเซียสปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร บางรายมีอาการ อาเจียน ท้องเสีย ก่อนเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระบบภายในได้รับผลกระทบตาม เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทรงตัวได้ยากขึ้น เดินเซ อาจส่งผลให้เกิดการได้ยินที่เปลี่ยนไปอันตรายถึงขั้นหูไม่ได้รับเสียง(หูหนวก)

ภาวะแทรกซ้อนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009

ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ 2009 ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อความแทรกซ้อนหรืออาการแทรกซ้อนของโรคที่จะเกิดคือ ปอดอักเสบ หัวใจวาย เยื่อหุ้มสมองถูกทำลายและทั้งหมดของอาการแทรกซ้อนที่กล่าวอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและอาจได้รับผลรุนแรงก็คือ ทารก หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ติดยา(เสพติด)

ในกรณีของคนไทยนั้นมีหญิงสาว อายุ 23ปี ต้องสูญเสียชีวิต เนื่องจากว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดH1N1 ซึ่งตามที่แพทย์ได้ทำการตรวจก็พบว่าเกิดจากปอดถูกทำลายหายไป นั้นก็คือการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

วิธีการป้องกันของ

ไข่หวัดใหญ่ที่ติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งวิธีการป้องกันการติดเชื้อได้ดี คือ การมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานผักและผลไม้ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด แล้วล้างทำความสะอาดมืออยู่ตลอดหลังการหยิบจับ- สัมผัสผู้อื่น สิ่งของ(สัตว์เลี้ยง) หากมีอาการหวัดเพียงเล็กน้อยก็ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดโอกาสเพื่อลดการแพร่เชื้อและการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่2009

ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดการมีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่แข็งแรงถือเป็นเรื่อฃที่ใครๆก็อยากมี ที่สำคัญก็หาซื้อที่ไหนไม่ได้ด้วย ถึงแม้จะมีโรงพยาบาล คุณหมอที่พร้อมจะรักษาคุณก็ตาม สุดท้ายสิ่ฃที่เหนือกว่าคือตัวคุณรักษาตัวเองย่อมดีกว่าเสมอ ไปไหนอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เช็ดมือให้แห้งเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อที่กำลังระบาดหนักด้วย