หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Karoshi Syndrome โรคทำงานหนักจนตาย

โพสท์โดย Sangsom

Karoshi โรคทำงานหนักจนตายแค่รู้ชื่อก็พอที่จะเดาออกเลยทันทีว่าโรคนี้มากจากประเทศญี่ปุ่น และก็มักจะได้ทราบข่าวกะนบ่อยๆถึงการเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุบ่อยๆ บางคนในขณะที่นั่งรถอยู่ๆก็เสียชีวิตเอาดื้อ ๆ  ทางการแพทย์เองก็ได้ยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิตจากโรค Karoshi นี้ที่เกิดจากการทำงานอย่างหนักจนร่างกายทนต่อพิษการทำงานไม่ไหว สำหรับโรคนี้อะไรที่เป็นสาเหตุ อะไรคือสิ่งอันตรายและวิธีไหนจะป้องกันโรคจากการทำงานบทความนี้จะมาช่วยหาคำตอบ

สาเหตุของการเกิดโรคคาโรชิ

สำหรับการตายของโรคคาโรชิจะมีอยู่ด้วยกัน 2สาเหตุใหญ่ ๆ ดังนี้

คือ ตายเพราะโรคและตายเพราะเครียด เนื่องด้วยจากการทำงานอย่างหนักตามที่ได้กล่าวเอาไว้ ทำให้ร่างกายไม่ได้หยุดพักอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ร่างกายขาดสารอาหารหรืออดอาหาร ในผู้ที่คลั่งงานต้องรอให้งานเสร็จเสียก่อนที่จะรับประทานอาหารได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายไม่อาจทนต่อการเกิดโรค ในกรณีที่มีความเครียดก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจอย่างร้ายแรง กดดันตัวเอง รู้สึกไร้ค่า ทำให้หดหู่และสุดท้ายก็จบลงด้วยการฆ่าตัวตาย

อันตรายจากโรคคาโรชิ

เนื่องจากคนทำงานมีสภาวะความดันเลือด(สูง) ทำให้เกิดโรคหัวใจและอัมพาตจากหลอดเลือดในสมองมากขึ้น ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าคนที่ทำงานหนักมีความเสี่ยงต่อ 3โรคนี้สูงมากกว่าปกติโรคคาโรชิอาจทำให้เกิดโรคหลาย ๆ โรคที่รุนแรงตามมา สืบเนื่องมาจากความเครียดการพักผ่อนไม่เพียงพอ กิจกรรมเดิมทำให้ห่วงงาน เครียดกับงานซ้ำไป ไม่มีแม้เวลาไปออกกำลังกาย ไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลากินข้าว เครียดมาก ไปก็สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เมื่อเป็นนี้โรคต่าง ๆ จะไม่มาเยือนก็แปลกแล้ว

ซึ่งในอุบัติการณ์เราก็ยังพบว่ามีหลายคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเจอกับโรคนี้อยู่และยังคงทำพฤติกรรมเดิม ๆ ซ้ำๆ ทำงานหนักจนเครียด การมีของประทังความเครียดก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เมื่อเริ่มทานมากขึ้นไขมันในเลือดก็จะเริ่มสูงตาม โรคอื่น ๆ จะเสริมทัพเข้ามาโจมตีและสะสมไปเรื่อย ๆ จนร่างกายรับไม่ไหวจนวูบหลับและเสียชีวิตในที่สุด

การป้องกันโรคคาโรชิ

การป้องกันโรคจากการทำงานนั้นง่ายมากๆคุณลองทำดูนะ

แค่รู้จักจัดสรรเวลาในการทำงานให้เป็น รู้เวลาไหนควรพักเวลาไหนควรทำงานและไม่ทำงานหนักมากจนเกินเหตุ

รู้จักปรับเวลาในการทำงาน รู้จักเวลาพักผ่อนให้สมดุลกัน แค่นี้ก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงแล้วเพราะว่าสุขภาพของเราสำคัญที่สุดหากพลาดเป็นอะไรขึ้นมาไม่คุ้มกันเลย

กลุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคคาโรชิ

เราพบว่ารอยของโรคนี้สามารถพบได้ในทุกเพศและทุกวัยและส่วนมากจะยังคงเน้นไปที่

ผู้สูงอายุ ในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50-70ปีขึ้นไปเราพบว่าเป็นผู้ที่ฮอร์โมนมีขึ้น-ลง มักมีความน้อยใจลูกหลาน ถูกละเลยในการดูแลเอาใจใส่โดยเฉพาะผู้ที่ลูกเพียงคนเดียวหรือไม่มีลูกหลานคอยดูแลภาวะความเครียด หลง ๆ ลืม ๆ  ความกดดันอาจสูงขึ้นได้ ในบางรายพบว่าผู้ที่มีอายุมากก็พบโอกาสการฆ่าตัวตายสูง ในผู้ที่ภาวะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดบุตร ที่เรียกว่า Mama blue ที่มักจะพบในผู้หญิงวัย25ปีขึ้นไป ซึ่งภาวะความเครียดที่สะสม ส่งผลอย่างมากต่อการเกิดภาวะฆ่าตัวตาย บางรายที่ไม่รุนแรงก็พบว่ามีอาการซึมเศร้า  แต่อาการซึมเศร้านั้นมักไม่ได้ทำร้ายผู้อื่น แต่จะทำร้ายตัวเองเป็นส่วนใหญ่เสียมากกว่า

นอกจากนี้การที่รักงานเป็นเหตุหรือ ผู้ที่มีหน้าที่คอยคุมทีม ก็มีอัตราความเครียดและความกดดันสูงเพราะต้องแข็งกับเวลาอยู่เสมอ สุดท้ายผู้ที่มีความเสี่ยงอีกกลุ่มคือ บุคลากรด้านการแพทย์ ที่ต้องรับภาระอย่างหนักจากคนไข้ที่เข้ารับการรักษาในเคสใหญ่ ๆ อย่างการผ่าตัด การทำศัลยกรรม

ทั้งนี้ในกรณีของโรคคาโรชิทำให้เรารู้ว่าไม่ทำงานเลยก็ไม่ได้ทำงานมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีฉะนั้นเลือกเดินทางสายกลางอยู่ในความพอดีดีกว่าอย่าให้การทำงานมาเป็นภัยต่อสุขภาพเลยนะ

Reference

  1. NG, Wang T, Huang P, et al. Karoshi related to labor intensity and risk of cardiovascular events: A case report. Fa Yi Xue Za Zhi. 2015;31:343–46.
  2. Eguchi H, Wada K, Smith DR. Recognition, compensation, and prevention of karoshi, or death due to overwork. J Occup Environ Med. 2016;58:e313–14.
โพสท์โดย: แสงระวี
อ้างอิงจาก: pixabay
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Sangsom's profile


โพสท์โดย: Sangsom
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: maddog2565
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคมสอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายกัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมวิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวเขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคตเจาะเลขเด็ดปกสลาก งวด 2 ม.ค. 69 ต้อนรับปีใหม่ปีมะเมียทองจากหาบเร่สู่รถเข็นป๊อกๆ: ตำนานอาหารเคลื่อนที่และบรรพบุรุษเดลิเวอรีไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก10 สิ่งต้องห้ามในรถยนต์ ที่อาจทำเงินรั่วและดึงดูดอุบัติเหตุ สายมูต้องห้ามพลาดวง FÜLÜ เตรียมยกวง มาโชว์ดนตรีที่เขมรทรัมป์ กล่าวหา ไทย เริ่มสงครามกับกัมพูชาก่อนเคลียร์ชัด! ร้านแจงดราม่าสุนัขนั่งร่วมโต๊ะบุฟเฟต์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ปรับลุคแบรนด์ให้ดูคลีนต้นราชสกุลยุคลพืชพันธุ์ไม้น่าสนใจ : “โลบิเวีย” แคคตัสที่มีดอกสวยงาม มากมายสีสัน มือใหม่ก็เลี้ยงได้ไม่ยากน๊า....ทึ่งทั่วไทย : องค์พระพิฆเนศ ขนาดใหญ่ ที่ "วัดโพรงอากาศ" จังหวัดฉะเชิงเทรา
ตั้งกระทู้ใหม่