หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คนโบราณใช้อะไรทาหน้า ผู้หญิงสมัยโบราณเขาสวยด้วยอะไรนะ?

แปลโดย มะม่วงแอปเปิ้ล

บทนำ : ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หัวใจของความงามมีอยู่ในทุกคน, ไม่ว่าจะสมัยใหม่หรือโบราณ การแสวงหาความงามของผู้คนไม่เคยหยุดนิ่ง ช่วงเวลาที่แตกต่างกันมีคำจำกัดความและการใช้เครื่องสำอางต่างกัน วันนี้จะมาเปิดเผยประวัติการพัฒนาการแต่งหน้า 10 อันดับแรก!

1. ในอียิปต์โบราณ เครื่องสำอางเป็นส่วนสำคัญของสุขอนามัย สุขภาพ และพิธีกรรม ผู้หญิงโรมันจะใช้ยาหยอดตา Belladonna เพื่อขยายรูม่านตา เพื่อให้ตัวเองดูสวยขึ้น เซ็กซี่ขึ้น แต่น่าเสียดาย, ยาหยอดตามีพิษ ส่งผลเสียต่อการมองเห็น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น สมาธิสั้น และการใช้งานเป็นเวลานานอาจทำให้เสียชีวิตได้


2. ลิปสติกปรากฏตัวครั้งแรกในเมโสโปเตเมียเมื่อ 400-5000 ปีก่อน ผู้หญิงในสมัยนั้นบดอัญมณีล้ำค่าให้เป็นผงเพื่อตกแต่งริมฝีปาก นักปรัชญาชาวโรมัน Plautus เคยเหน็บว่า: "ผู้หญิงไม่แต่งหน้าก็เหมือนอาหารไม่ใส่เกลือ"


3. ยุคกลาง, คริสตจักรคาทอลิกสอนว่าการแต่งหน้าเป็นบาป ในปี ค.ศ. 1000 เครื่องสำอางและสีทาตัวไม่เป็นที่ยอมรับในทุกประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ อุตสาหกรรมความงามระดับโลกประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (24 พันล้านดอลลาร์) เครื่องสำอาง (18 พันล้านดอลลาร์) ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (38 พันล้านดอลลาร์) และน้ำหอม (15 พันล้านดอลลาร์)


4. ในศตวรรษที่ 18, ชาวอเมริกันใช้ปัสสาวะอุ่นของเด็กชายเช็ดพือรักษากระ ผู้หญิงในยุคกลางทาสารหนูและเลือดค้างคาวบนผิวหนัง เพื่อปรับปรุงผิว ส่วนประกอบที่พบบ่อยที่สุดในครีมกันแดด ลิปสติก และบาธออยล์ คือ สควาลีน นี่คือน้ำมันหนืดที่คั้นจากตับปลาฉลาม


5. ในศตวรรษที่ 14, ผิวซีดเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้หญิง เพื่อให้บรรลุผลนี้ ผู้หญิงบางคนใช้ปลิง ตัดเส้นเลือดด้วยวิธีที่เรียกว่า "cupping"


6. ได้รับแรงบันดาลใจจากปากกาลูกลื่น โรลออนระงับกลิ่นกายถูกนำมาใช้ในปี พ.ศ. 2495 ในสมัยโรมัน ลิปสติกเป็นสัญลักษณ์ของสังคม แม้แต่ผู้ชายก็ใช้ลิปสติกเพื่อแสดงสถานะของพวกเขา อาเจียนปลาวาฬ, หรือขี้วาฬมักพบในน้ำหอมหรูหรา เพราะช่วยให้ความหอมติดทนนาน


7. ในสมัยเอลิซาเบธ น้ำมันถ่านหินใช้เป็นอายไลเนอร์ ดินสอเขียนคิ้ว และมาสคาร่า น่าเสียดาย, นอกจากจะมีกลิ่นเหม็นแล้ว ยังติดไฟได้, และยังทำให้ตาบอดอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2458 สภานิติบัญญัติแคนซัสเสนอร่างกฎหมาย ทำให้การทาลิปสติกกับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 44 ปีถือเป็นความผิดทางอาญา


8. ชาวโรมันโบราณชอบย้อมผมสีดำ ในการทำสีย้อม พวกเขาหมักปลิงด้วยน้ำส้มสายชู การทำศัลยกรรมเสริมความงามเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และมันยังคงเติบโต


9. ผู้หญิงกรีกใน 3000 ปีก่อนคริสตกาล จะใช้ขนวัวทำคิ้วปลอม ในศตวรรษที่ 18, ผู้หญิงโกนขนคิ้ว และใช้ขนหนูสีเทาแทน อุตสาหกรรมความงามทั่วโลกเติบโตในอัตรา 7% ต่อปี นี่เป็นอัตราการเติบโตของ GDP มากกว่าสองเท่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว


10. ปี 1650, รัฐสภาอังกฤษพยายามห้ามลิปสติก เขาเรียกว่า "ความชั่วร้ายของการแต่งหน้า" แต่ไม่สำเร็จ ชาวอเมริกันใช้จ่ายด้านความงามในแต่ละปีมากกว่าการศึกษา

แปลโดย: OneOne
ที่มา: https://m.tanmizhi.com/html/5814.html
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: focus44, พฤหัสบดีราศีพฤษก, thecrow13
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวบ้านอึ้ง!! หลังพบคู่รักซั่มกันบนดาดฟ้า ท้าลมหนาวผิดเวลาไปหน่อย!! ป้าเข้าวัดสวดมนต์เสียงดั่งลั่นโบสถ์ พระทำวัตรเย็นก็ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวออกไปบุญแท้เด้งเอ้ย!! มหาเศรษฐีคริปโต มอบเงินสนับสนุนให้หมูเด้ง 10 ล้าน เอาไปสร้างบ้านใหม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผิดเวลาไปหน่อย!! ป้าเข้าวัดสวดมนต์เสียงดั่งลั่นโบสถ์ พระทำวัตรเย็นก็ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวออกไปชาวบ้านอึ้ง!! หลังพบคู่รักซั่มกันบนดาดฟ้า ท้าลมหนาวชันสูตรศพแบงค์ เลสเตอร์ ทางทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มุ่งไปที่ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษเตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้าง20 ปีแห่งความทรงจำ สึนามิถล่ม 6 จังหวัดอันดามัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
YouTube มีแผนจะลบวิดีโอประเภท Clickbait ที่หลอกลวงผู้บริโภค โดยจะเริ่มที่อินเดียเป็นที่แรกนักวิทย์สร้าง แบตเตอรี่เพชรคาร์บอน-14 สำเร็จ ให้พลังงานกว่า 5,000 ปี กว่าแบตฯจะลดลงครึ่งหนึ่งนักจิตวิทยาเผยเหตุผล ทำไมผู้ชายชอบส่งรูป ของลับ ไปให้คนอื่นหรือคนแปลกหน้าฮาวทูเตือนคนไม่ใส่หมวกกันน็อคแบบใหม่ ท่านยมมาเองเลยเหรอเจ้าคะ ยังไม่รับใครไปใช่มั้ย 🤣
ตั้งกระทู้ใหม่