สำหรับโพสนี้ก็มาต่อกันในพาร์ทที่ 2 กันเลยนะครับ กับเรื่องราวของ 2 คู่หู ที่จะต้องมาจับคู่กันแข่งในกีฬาสเก็ตน้ำแข็งนั่นเองครับ

คืนนั้นทั้งคู่ก็โดนจับเข้าห้องขัง และโค๊ชก็รีบเดินทางมาเพื่อต่อรองกับทั้งคู่ ว่าถ้าอยากให้ประกันตัว เขาจะเป็นโค๊ชให้ แต่ทั้งคู่ จะต้องลงแข่งสเก็ตน้ำแข็งลีลาคู่ร่วมกัน งานนี้ไม่มีใครยอมครับ ซัดกันปากแตกจมูกเปิดกันมาหลายต่อหลายครั้ง อยู่ๆ จะให้มาจับคู่กัน บ้าไปแล้ว.. ก็โอเค ถ้าไม่ฉันก็จะไปแล้ว หวังว่านายทั้งคู่จะหาทางออกจากที่นี่ได้... เมื่อไมเคิลและจิมมี่ เห็นนักโทษในห้องขัง ก็เลยโอเค ยอมก็ยอมวะงานนี้

โดยในวันลงทะเบียนการแข่งขันสเก็ตน้ำแข็งลีลาคู่ ก็มีคู่พี่สองสองคนที่เป็นตัวเกร็งของงานมาด้วย ซึ่งประวัติของเขาทั้งคู่ จริงๆแล้วบ้านนี้มีด้วยกัน 3 คน โดยพี่ชายและพี่สาวคนรองมีความชำนาญเรื่องสเก็ตน้ำแข็งตั้งแต่เด็ก ส่วนน้องสาวคนเล็กไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ จนวันหนึ่ง ขณะที่พ่อแม่กำลังจะไปรับน้องสาวคนเล็กกับบ้าน ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น น้องสาวคนเล็กรอดมาได้ แต่พ่อแม่กลับต้องเสียชีวิต ทั้ง 3 ก็เลยดูแลกันเองมาตลอด โดยที่พี่ชายกับพี่รองต่างก็หาเงิน สร้างชื่อเสียงด้วยการแข่งสเก็ตกันมาตลอด และก็ให้น้องสาวมาเป็นคนรับใช้ โดยมักอ้างว่า ที่พ่อแม่ตายก็เพราะเธอ ดังนั้น เธอก็ต้องรับผิดชอบช่วยเหลืองานของพี่ทั้งคู่

แต่เมื่อทางไมเคิลและจิมมี่ได้มาถึงจุดลงทะเบียน และพอทราบว่าทั้งคู่จะจับมือร่วมกันลงแข็งสเก็ตลีลาคู่ เล่นเอานักข่าวมารุมทึ้งกันใหญ่... จะไม่มีการฟาดปากกันบนลานน้ำแข็งกันอีกใช่ไหม.. แล้วการมาจับทีมคู่แบบนี้ เป็นคู่ชายคู่แรกของโลก คิดอะไรกันอยู่ นักข่าวก็ถามกันยกใหญ่

เลยเอาตัวเกร็งสองพี่น้องถึงกับไม่ชอบขี้หน้าที่มาแย่งซีน เมื่อกลับไปถึงบ้าน ก็เลยบอกให้น้องสาวไปแอบดูพวกมันซ้อมกันหน่อย เพราะจะว่าไปทั้งคู่ก็เก่งกันมาก อยู่ๆ มาจับทีมร่วมกันคงจะเอาชนะได้ยาก แต่น้องสาวไม่อยากไป.. "อย่าลืมนะว่า พ่อแม่ตายเพราะเธอ เธอต้องช่วยพี่นะ" ด้วยคำพูดนี้ ทำให้น้องเล็กถึงกับยอมทุ๊กที

ส่วนไมเคิลกับจิมมี่ ทางโค๊ชก็ให้มาอยู่ห้องร่วมกัน ทีแรกก็ไม่อยากอยู่ด้วยกัน แต่โค๊ชบอกว่า พวกนายต้องปรับตัว รู้จักกันและกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดุจสามีภรรยา ฉันต้องการให้พวกนายเข้าขาและรู้ใจกันให้ได้มากที่สุด

 

โดยในวันถัดมาวันแรก ทั้งคู่ก็ไปที่โกดังเก็บของแห่งหนึ่ง ซึ่งโค๊ชบอกว่า ฉันหาลานสเก็ตน้ำแข็งสำหรับซ้อมพวกนายได้ดีที่สุดก็คือที่นี่ ดังนั้น เราจะเริ่มกันที่นี่ โดยเริ่มจากท่าพื้นฐานก่อน ซึ่งจะให้จิมมี่รับบทเป็นผู้หญิง ไมเคิลเป็นผู้ชาย ซึ่งจิมมี่ไม่เห็นด้วย เพราะเขาคือผู้ชาย.. แต่โค๊ชบอกว่า งั้นจะให้นายแบกไมเคิลที่มีน้ำหนักตัวมากกว่านายเกือบ 2 เท่าแล้วหล่นมาทับจนขี้แตกกลางลานน้ำแข็งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก.. จิมมี่ก็เลยต้องยอม

โดยที่พอทั้งคู่ได้จับมือประสานกัน ก็เถียงกันแล้วว่าจะจับแบบไหน เถียงไปเถียงมาสุดท้าย จิมมี่ก็ถอดเสื้อผ้าโชว์ ว่าเขาเองก็แมนพอนะเว้ย และฉันทำอะไรได้มากกว่าที่นายคิด ว่าแล้วก็วิ่งๆ เอาตัวไถลไปกับน้ำแข็ง

ไมเคิลถึงกับกรี๊ดเมื่อเห็นจิมมี่มันทำเพื่ออะไรกุก็งงเหมือนกัน จนพึ่งไปชนกับกล่องเก็บของเผยให้เห็นหน้าท้องของจิมมี่ที่มีรอยเลือดออกซิบๆ จากการไถลไปกับพื้นน้ำแข็ง โค๊ชถึงกับชี้นิ้วแล้วบอกว่า เพื่อออออ... ไอ้พวกโง่ทั้งหลาย ไปแต่งตัวแล้วซ้อมได้แล้ว.. ไมเคิลก็หันมาถามว่า... นายทำบ้าอะไรวะเมื่อกี้

วันถัดมา โค๊ชเองก็ได้พาจิมมี่ไปหัดท่าเต้น เนื่องด้วยจิมมี่ยังจดจำท่าของลีลาน้ำแข็งมากเกินไป อยากให้ล้างสมอง และปรับใหม่

โดยที่เขาจะสร้างน้ำแข็งลีลาใหม่ขึ้นมา พอมาถึงลานซ้อม ซึ่งวันนี้ น้องสาวคนเล็กของฝั่งตัวเกร็งก็มาแอบถ่ายคลิปไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ห็นว่าซ้อมกันไม่เอาไหน หรือแม้แต่การยืดเส้น จิมมี่ก็ยังเอาเท้ากระทุ้งไข่ไมเคิลจนลงไปนอนดิ้น

คลิปตัวนั้นน้องสาวคนเล็กเอาไปให้พี่ชายกับพี่สาวได้ดู ทั้งคู่ดูไปขำไป บอกว่ามันสองคนเก่งก็จริง แต่มันจับคู่กันไม่เข้าขาเหมือนพวกเรา ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กๆ ที่เราไม่ควรกลัวพวกมันอีกต่อไป

การซ้อมวันถัดๆ มาก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นนัก ยังเขม่นโชว์นิ้วกลางกันอยู่บ่อยครั้ง และการแกล้งยันไข่ก็เกิดขึ้นได้เสมอ

ข่าวเรื่องของการชิงแชมป์สเก็ตลีลาคู่ ของคู่จิมมี่และไมเคิล มีข้อถกเถียงกันอย่างหนาหู นักสเก็ตเดี่ยวชื่อดังยังบอกว่า ... ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่สยองมากๆ การที่เราได้เห็นสเก็ตคู่ที่อ่อนย้อย พริ้วไหว แต่นักแสดงกับเป็นชายหนุ่มบนลานสเก็ต.. มันขัดกันสิ้นดี... หรือแม้แต่คนทั่วไปยังบอกว่า.. ผมคงอธิบายไม่ถูก แต่ให้ดูนี่แล้วคุณน่าจะเข้าใจว่าผมรู้สึกยังไงเมื่อได้เห็นเขาลงแข็ง

จนถึงวันแข่งขันครั้ง คู่พี่น้องก็ได้มาโชว์ลีลาในชุด วัยรุ่นอเมริกา เป็นท่าเต้นสนุกๆ และการแต่งกายแบบวัยรุ่นยุค 60 ทั้งคู่เข้าขากันอย่างมาก จนการแสดงโชว์ได้จบไป...

ต่อมาคู่ของจิมมี่และไมเคิล กับการแสดงที่ชื่อชุดว่า ไฟกับน้ำแข็ง ซึ่งพิธีกรก็ยังบอกว่ามันเหมาะมากๆ เพราะทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดโดยเพลงที่ใช้คือเพลงประกอบหนังเรื่องอามาเกดอน

ซึ่งทั้งคู่แสดงการเต้นออกมาได้แหวกแนวสุดๆ ท่าเต้นแบบฮามากๆ แต่ก็ต้องพลาดเมื่อไมเคิลโยนจิมมี่แล้วจิมมี่ลงผิดจังหวะจนตัวล้มไปฟาดกับกำแพง ไมเคิลบอกให้จิมมี่ลุกขึ้นสู้ เราจะสู้ไปด้วยกัน..

ว่าแล้วทั้งคู่ก็จับมือขึ้นมาเต้นกันอีกครั้งด้วยท่าเต้นที่แปลกตา อย่างท่าจกไข่จิมมี่โบยบิน หรือท่า 69 กลางลานน้ำแข็ง หรือท่ายิงปืนใหญ่ที่ไมเคิลได้ประยุคมาจากที่เขาเคยแสดงหนังโป๊มาก่อน

และสุดท้าย ท่าจบที่อลังการมากๆ กับท่าวิ่งมาประสานไข่กันกลางเวที เรียกได้ว่า เป็นท่าชนะแบบจุกๆ ที่สวยงามมากๆ และเมื่อผลคะแนนออกมา ทำให้พวกเขา ได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ไป โดยน้องสาวคนเล็กก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดีด้วย ส่วนสองพี่น้องก็เห็นว่า จิมมี่มาพูดคุยกับน้องสาว ก็เลยแบบ..จะไปแสดงความยินดีกับพวกมันทำไม..เราแพ้กันนะ

ในการชนะครั้งนี้ ทำให้พวกเขาค่อนข้างมั่นใจมากในการแข่งชิงแชมป์อีกรายการ แต่ตอนนี้จิมมี่ กับรู้สึกชอบสาวคนหนึ่งที่เจอกันในงาน โดยได้รู้แค่ว่า เธอชือแคธี่ ทางไมเคิลก็ยุๆ ให้โทรไปจัดออกเดท ซึ่งจิมมี่ก็ยังเป็นหนุ่มซิงที่ยังขาดความมั่นใจ ไมเคิลเลยจัดการโทรไปหาแคธี่ให้ เพื่อทำการนัดเดท ซึ่งเมื่อแคธี่ได้รับสาย

สองพี่สองก็รู้ว่า จิมมี่ที่เป็นคู่แข่ง ได้มาหลงชอบน้องสาวของตัวเอง ก็เลยให้แคธี่รับปากว่าจะออกเดท ซึ่งเธอจะโกนขนไปให้เรียบร้อยด้วย.. ขนอะไรวะ ? โดยหวังว่าจะให้น้องสาวไปล้วงความลับ และมีแผนที่เหนือกว่านั้น

หลังจากนั้น โค๊ชได้พาทั้งคู่มาซ้อม และดูกระบวนท่าที่เป็นตำนานที่ยังไม่มีใครทำได้ มีชื่อว่า ดอกบัวเหล็ก ซึ่งเขาก็เผยให้ดูคลิๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นการเปิดตัวดอกบัวเหล็กครั้งแรกในการโชว์ที่เกาหลีเหนือ แต่ท่านั้น ทำให้นักเต้นคู่สาวถึงกับหัวขาดกันเลยทีเดียว... แล้วทำไมนายคิดว่าพวกเราถึงจะได้ฮะโค๊ช ซึ่งโค๊ชก็บอกว่า เพราะพวกนายเป็นผู้ชายไง ซึ่งที่ผ่านมาทำไม่ได้อาจจะเพราะคู่ชายหญิง แต่ท่านี้ อาจจะเกิดมาเพื่อชายคู่ก็ได้ ก็เลยให้ทั้งคู่ลองดู...

พอครั้งแรกที่ลองทำ คมมีดถึงกับกรีดท่อนขาของไมเคิลทันที... "อย่าถอดใจ..นี่แค่ครั้งแรก พวกนายต้องค่อยๆ ซ้อมแล้วทำให้ได้" ไมเคิลกับจิมมี่ เลยลุกขึ้นมาซ้อมกันอีกที

ในคืนนั้น จิมมี่กับแคธี่ ก็ได้พบกัน ทั้งคู่รู้สึกชอบกัน และจูบกันในที่สุด เรียกได้ว่าจิมมี่ มีแฟนแล้วทีนี้ ส่วนไมเคิล ก็มาหัดซ้อมท่าดอกบัวเหล็กกับหุ่นซ้อม เรียกได้ว่า ทุกครั้งที่ตวัดขาขึ้นไป ตัดหัวหุ่นขาดเป็นว่าเล่น

จนจิมมี่ได้มาดูและเห็นหัวของหุ่น จนคิดว่า นี่อาจจะเป็นชะตาอันใกล้ของเขาก็ได้ .. ใจเย็นน่าจิมมี่ ฉันกำลังทำได้แล้ว

 

ก็จบไปแล้วนะครับในพาร์คที่ 2 ในพาร์คหน้า ก็จะเป็นการแข่งขันในรายการสุดท้ายของทั้งคู่ ที่จะต้องมาลุ้นว่าพวกเขา จะสามารถทำท่าในตำนานอย่าง "ดอกบัวเหล็ก" ได้หรือไม่... ฝากกดติดตามกันด้วยนะครับ