ตามรอยหลวงปู่ทวด พาชม “ต้นมะเม่า” สถานที่จริง ตำนานพญางูจงอางคายลูกแก้ววิเศษ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

หลวงปู่ทวด เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่คนไทยทั้งประเทศรู้จักกันเป็นอย่างดี ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอภินิหารของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่สามารถเหยียบน้ำทะเลให้จืดได้

นอกจากตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแล้ว อีกตำนานของหลวงปู่ทวดที่เล่าสืบต่อกันมา เกี่ยวกับลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวด

ลูกแก้ว​วิเศษ​หลวงปู่ทวด​ วัดพะโคะ​ จ.สงขลา​

ตามตำนานพญางูจงอางคายลูกแก้ววิเศษ เล่าว่า สมัยที่หลวงปู่ทวดยังเป็นทารก มีชื่อว่าเด็กชายปู พ่อแม่ของหลวงปู่ทวดชื่อ ทวดหู และ ทวดจันทร์ ได้เอาเด็กชายปู หรือหลวงปู่ทวดตอนเป็นทารก ผูกเปลไว้กับต้นมะเม่า (ปัจจุบันคือสำนักสงฆ์นาผูกเปล) สมัยนั้นมีสัตว์ป่าชุกชุม แล้วทวดหู และทวดจันทร์ ก็ได้ไปเก็บเกี่ยวข้าวในนาของเศรษฐีปาน

เมื่อถึงเวลาที่ต้องให้นมลูก นางจันทร์กลับมาที่เปลของลูกน้อย พบว่ามีพญางูจงอางขนาดใหญ่ พันอยู่รอบเปล ด้วยความตกใจ ทวดจันทร์ จึงได้เรียกทวดหู มาช่วยไล่งูจงอาง แต่งูนั้นก็ไม่ยอมไปไหน ทวดหูและทวดจันทร์จึงได้อธิษฐานจิตอย่าให้งูทำร้ายลูก

เมื่ออธิษฐานเสร็จ ไม่นานนัก พญางูจงอางก็เลื้อยหายไป พร้อมกับคายเมือกแก้วสีขาวแวววาวทิ้งไว้ในเปล ต่อมาเมือกแก้วก็แข็งตัวเป็นลูกแก้ว และได้เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์กับลูกแก้วหลายครั้ง กลายเป็นลูกแก้ววิเศษติดตัวหลวงปู่ทวดนับตั้งแต่นั้นมา

ต้นมะเม่า 2 ต้น ที่สำนักสงฆ์นาผูกเปล จ.สงขลา เชื่อว่าสถานที่ตรงนี้คือที่พญางูจงอางคายลูกแก้ววิเศษ

ต้นมะเม่าอายุประมาณ 100 ปี เมื่ออายุครบ 100 ปี แล้วตายหรือผุ แต่ที่โคนต้นจะมียอดหน่อขึ้นมาวนเวียนอยู่นับหลายร้อยปี ต้นมะเม่าคู่นี้มีอายุประมาณ 437 ปีขึ้นไป​ เป็นต้นมะเม่าที่พ่อแม่หลวงปู่ทวดผูกเปลตอนหลวงปู่ทวดยังเป็นทารก