ข้อมูลเพิ่มเติมของชายที่แต่งกายเลียนแบบโจ๊กเกอร์ มือมีดที่ไล่แทงคนและจุดไฟในรถไฟสายเคโอ ประเทศญี่ปุ่น

ข่าวจากญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลกตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นข่าวคนร้ายวัย 24 ปีที่จู่ ๆ ก็เกิดอยากฆ่าคน เพราะอยากโดนโทษประหาร ก็เลยไปก่อเหตุไล่แทงคนและจุดไฟในรถไฟจนผู้คนมากมายต้องหนีตายกันอลหม่าน

ตอนนี้สื่อในญี่ปุ่นก็นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับคนร้ายเพิ่มเติม ผู้เขียนจึงขอรวบรวมนำมาอัพเดทให้กับผู้ที่ยังสนใจข่าวนี้อยู่ได้อ่านกันนะคะ

ตามคำให้การของคนร้ายเอง เขาบอกว่าเขาชื่อ เคียวตะ ฮัทโทริ (kyota hattori)

เกิดและโตที่จังหวัดฟุคุโอกะ

หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายประจำจังหวัดและโรงเรียนวิชาชีพในจังหวัดฟุคุโอกะ ก็เคยทำงานเป็นผู้ดูแลคนแก่และงานอื่น ๆ มาบ้าง

รูปสมัยอยู่ ม.ปลาย Cr. bunshun

จากนั้นลาออกจากงานทั้งหมดตั้งแต่เดือนมิถุนายน

เดินทางออกจากจังหวัดฟุคุโอกะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่แวะที่เมืองโกเบบ้าง นาโกย่าบ้างเรื่อยมา

จนกระทั่งมาถึงโตเกียวเมื่อสิ้นเดือนกันยายน และตั้งแต่มาถึงโตเกียวจนถึงวันก่อเหตุ ก็เช่าโรงแรมอยู่ที่เมืองฮะจิโอจิ รวมทั้งสิ้นเป็นเวลา 1 เดือนพอดี

เขาสารภาพว่าวางแผนที่จะฆ่าคนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพราะตกงาน และความสัมพันธ์กับเพื่อนรวมไปถึงคนรอบข้างก็ไม่เป็นอย่างใจ ก็เลยอยากตาย แต่ก่อนตายอยากฆ่าคนสัก 2 คนเพื่อจะได้โดนโทษประหาร

ในวันที่เกิดเหตุ เขาออกจากสถานีเคโอฮะจิโอจิ เวลาประมาณ 17.00 น. และเมื่อไปถึงสถานีชิบุยะ ก็เดินเล่นดูบรรยากาศฮาโลวีนประมาณ 30 นาที

เขาแต่งกายด้วยสูทสีม่วงเลียนแบบตัวเอกในหนังเรื่อง “โจ๊กเกอร์” ที่เขาชื่นชอบ

เขายอมรับสารภาพในภายหลังว่า ซื้อชุดนี้มาเพื่อก่อเหตุในวันนี้โดยเฉพาะ ”เพราะมันคือชุดที่จะใส่เพื่อการเดิมพัน”

Cr.Twitter

เมื่อเดินดูบรรยากาศฮาโลวีนเสร็จ ก็ขึ้นรถไฟจากชิบุยะไปยังสถานีโชฟุ แล้วก็ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษที่ออกจากสถานีโชฟุเวลา 19:54 น.

ที่เลือกรถไฟด่วนพิเศษก็เพราะรถไฟจะวิ่งยาวไม่จอดระหว่างสถานี ทำให้คิดว่าคนน่าจะหนีได้ยาก และจะทำให้สามารถฆ่าคนได้มากขึ้น

จากนั้นก็เริ่มลงมือทำร้ายคน …

เขาใช้สเปรย์ฆ่าแมลงฉีดใส่หน้าผู้ชายอายุ 72 ปีที่นั่งอยู่ในตู้ขบวนที่ 3 แล้วใช้มีดที่ยาวประมาณ 30 เซ็นติเมตรแทงชายเคราะห์ร้ายผู้นั้น

จากนั้นก็ย้ายไปตู้ขบวนที่ 5 เพื่อราดน้ำมันที่เตรียมมาแล้วก็จุดไฟ

จากเหตุการณ์นี้ จึงทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 17 คนและชายคนแรกอาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว

จากข่าวสลดนี้ หลายคนวิเคราะห์ว่าคนร้ายอาจจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกขี้แพ้

ภาษาญี่ปุ่นเรียกพวกขี้แพ้แบบนี้ว่า 負け犬 (まけいぬ มะเคะอินุ) แปลแบบตรงตัวได้ว่า “สุนัขขี้แพ้”

เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นสุนัขขี้แพ้ก็เลยอยากตาย แต่ก่อนตายขอทำอะไรให้โลกจำก่อน

น่าเสียดายจริง ๆ ที่เขาไม่เข้าใจว่า ไม่ว่าชีวิตจะผิดพลาดหรือไม่ราบรื่นขนาดไหน แต่ก็ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะเป็นสุนัขขี้แพ้หรอก เพราะชีวิตก็คือชีวิต การใช้ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน ล้มบ้างลุกบ้าง ถ้าใจสู้ซะอย่าง สุดท้ายก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ