เปิดอาชีพ "สาวตัดเชือก" หนุ่มทาสีบอกเลยใหญ่โต ไม่ธรรมดาจริงๆ!
จากเหตุการณ์ที่ น.ส.ประพรรณวรรณ เสตสิงห์ อายุ 49 ปี ที่พักอยู่ชั้น 26 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านห้าแยกปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำเหตุการณ์ช่างซ่อมรอยรั่วตัวอาคารถูกมือดีลอบตัดเชือกขณะโรยตัวทำงานอยู่ด้านนอกอาคารไปลงแอปพลิเคชัน TikTok โชคดีที่นายสอง อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา สังเกตเห็นก่อนว่าเชือกถูกตัด ขณะโรยตัวอยู่บริเวณชั้นที่ 30 แล้วขอความช่วยเหลือจนปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารับสารภาพเป็นคนตัดเชือก แต่ไม่ตั้งใจฆ่า สาเหตุที่ทำเพราะรำคาญ อีกทั้งไม่เห็นประกาศจากทางคอนโด เพราะอยู่ในห้องทั้งวันจากการ Work from Home ซึ่งเธอนั้นทำอาชีพโปรแกรมเมอร์ ให้บริษัทแห่งหนึ่ง
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ณิชานันท์ แซ่โต๊ะ อายุ 39 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ เจ้าของห้องเลขที่ บี 2126 ชั้น 21 อาคารบี คอนโดลุมพินีวิลล์ แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ใกล้ห้าแยกปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พันธ์พงศ์ ภูริวัฒนพงศ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี หลังออกหมายเรียกให้มาพบ
ซึ่งเดินทางมาพบพร้อมทนายความ โดยทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทาง น.ส.ณิชานันท์ ให้การรับสารภาพว่าตัดเชือกจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้มีเจตนาฆ่าช่างที่มาทำงาน สาเหตุเนื่องจากโมโหที่ทางนิติบุคคลของอาคารไม่ยอมแจ้งให้ทราบว่าจะมีช่างมาทำงานซ่อมอาคาร โดยไม่ทราบว่าทางนิติบุคคลมีการปิดประกาศไว้ในลิฟต์ ซึ่งทำงานอยู่แต่ในห้องพักติดต่อกันหลายวันไม่ได้ออกจากห้อง หลังจากรับทราบข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติก่อนปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหามาพบตามหมายเรียก และไม่มีเจตนาจะหลบหนี โดยจะเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการภายใน 15 วัน
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้หลังจากทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จ.นนทบุรี ได้ตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่ทราบเรื่องตามข้อมูลที่ นายสอง ซึ่งเป็นช่างซ่อมรอยรั่วซึมผนังของอาคารบี ในฐานะผู้เสียหายระบุว่า เห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้ตัดเชือกในตำแหน่งชั้นที่ 21 กระทั่งพบว่าตรงกับห้องเลขที่ บี 2126 จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ณิชานันท์ เป็นเจ้าของห้อง จึงได้เรียกให้ น.ส.ณิชานันท์ เข้าให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ในฐานะผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเจ้าของห้องและเป็นตำแหน่งที่เชือกถูกตัดขาด เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
ต่อมาจึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายค้นห้องพักของ น.ส.ณิชานันท์ ซึ่งปกติจะพักอยู่ที่ห้องเพียงคนเดียว หลังเกิดโควิด-19 ระบาด นายจ้างได้มอบหมายให้ทำงานงานแบบเวิร์กฟอร์มโฮม โดยทางเจ้าหน้าที่ยึดมีดและของใช้หลายอย่างส่งไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากทางพนักงานสอบสวนได้ส่งเชือกเส้นที่ถูกตัดขาดให้ทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจหาสาเหตุว่าขาดเพราะอะไร และขาดเพราะของมีคมหรือไม่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ส่งเอกสารหลักฐานของผลตรวจระบุสาเหตุที่ทำให้เชือกขาดเกิดจากการถูกตัดจากของมีคม และผลทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจจากเชือกยืนยันว่าพบผลการตรวจตรงกับของ น.ส.ณิชานันท์ และเชือกขาดจากของมีคมซึ่งตรงกับมีดในห้องพักของ น.ส.ณิชานันท์ ที่ทางพนักงานสอบสวนนำไปตรวจ
พ.ต.อ.พงศ์จักร กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้จำลองเหตุการณ์ โดยนำนายสองและนายสุทิน ซึ่งทั้งสองคนเป็นช่างที่มาทำงานโรยตัวซ่อมรอยรั่วตัวอาคารในวันเกิดเหตุ ที่ถูกตัดเชือกขณะทำงานมาจำลองเหตุการณ์ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการมัดตัวผู้ก่อเหตุ โดยนำเชือกลักษณะคล้ายเส้นที่ถูกตัดมาโรยลงมาจากชั้นดาดฟ้าชั้นที่ 32 ของคอนโดมิเนียม พร้อมทำสัญลักษณ์ไว้ในระยะของเชือกที่ถูกตัด แล้วให้ช่างทั้งสองคนโรยตัวลงไปเหมือนตอนทำงานจริง เพื่อจะตรวจสอบว่าเชือกถูกตัดที่ชั้นใด ซึ่งตรงกับที่นายสองเห็นมือคนตัดจากบริเวณชั้น 21
นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนมีหลักฐานสำคัญจากคลิปวิดีโอที่มีผู้เห็นเหตุการณ์และสามารถบันทึกภาพไว้ได้ในขณะที่ผู้ต้องหาเอื้อมมือออกมาจากห้องพัก ก่อนคว้าเชือกที่ห้อยอยู่ตรงกับแนวของห้องพอดี จึงส่งคลิปนี้ให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ในการใช้เทคนิคเพิ่มเติมความละเอียดของภาพให้สูงขึ้น เพื่อนำมาประกอบคดี จึงมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญครบในทุกมิติที่จะมัดแน่น

















