รีวิวซีรีส์จีน “Don't Disturb My Study” (วิกฤตหัวใจยัยนักเรียนดีเด่น) แนวโรแมนติก คอมมาดี้ ดราม่า ครบรสความสนุก ผลงานสุดปัง พระเอกสุดเท่ “ไลควานลิน” และนางเอกสาวหน้าหวาน “หลี่หลานตี๋”

ซีรีส์แนวนักเรียนที่ดีมาก ๆ ที่สุดเรื่องหนึ่งในปี 2021 ผู้เขียนขอยกให้กับเรื่องนี้เลย ซีรีส์จีน “Don't Disturb My Study” (别想打扰我学习) มีชื่อไทยที่ทำให้อยากดูเพิ่มขึ้นอีกว่า “วิกฤตหัวใจยัยนักเรียนดีเด่น” ผลงานการแสดงของพระเอกที่กำลังฮอต “ไลควานลิน”  และ “หลี่หลานตี๋” นางเอกหน้าหวาน ยิ้มหวานสุด ๆ ที่ก้าวมาจากการเป็นนักแสดงเด็ก ซึ่งทั้งคู่มีแฟน ๆ ติดตามมากมายในช่วงเวลานี้ เป็นซีรีส์แนวใส ๆ วัยมัธยมปลาย ที่เต็มไปด้วยความสดใสของวัยว้าวุ่น ที่ผู้เขียนดูแล้วเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวไปหลายตลบ จนคนที่เห็นถามว่ายิ้มอะไร ซึ่งก็ตอบไม่ถูก บอกว่าลองมานั่งดูเองก็แล้วกัน แล้วจะรู้สึกได้เองว่าดูแล้วยิ้มทำไม...  

หากย้อนอดีตกลับไปได้ คุณอยากกลับไปอยู่ในช่วงเวลาใด และต้องการแก้ไขอะไรในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดว่าผิดพลาด และทำให้ส่งผลมาถึงปัจจุบัน ? เป็นคำถามที่ทั้งภาพยนตร์ และซีรีส์หลาย ๆ เรื่อง ตั้งไว้เป็นพล็อตเรื่องหลัก และได้พาตัวละครที่มักจะเป็นพระเอก หรือ นางเอก กลับไปค้นหาคำตอบเหล่านั้น ซึ่งหลาย ๆ เรื่องจะพากันย้อนไปในช่วงมัธยม ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตของผู้คนมากมาย ทั้งเรื่องการงาน ความรัก และการตัดสินหลาย ๆ อย่าง ก่อนที่จะถึงทางเลือกจริง ๆ ซึ่งนั่นก็คือช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย เป็นทางเลือกที่เหมือนกับค้นพบชีวิตแล้วว่าต่อไปชีวิตจะก้าวไปทางใด ซึ่งสามารถเป็นความจริงได้ตามที่คาดหวังหรือฝันเอาไว้ หรืออาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต จนอยากกลับไปสู่อดีตเพื่อแก้ไขอีกสักครั้ง หากชีวิตจะมีโอกาสอย่างนั้นสักครั้ง และ “Don't Disturb My Study” ก็เป็นซีรีส์ที่ให้โอกาสนี้กับ  “หนานเซี่ยงหว่าน” (หลี่หลานตี๋) สาวสวยวัย 28 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

“Don't Disturb My Study” เล่าถึงสาวสวยที่มีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองสุดขั้ว “หนานเซี่ยงหว่าน” (หลี่หลานตี๋) ที่ทั้งสวยทั้งเก่ง จริงจังในการทำงาน ไม่เคยไว้หน้าใครที่มีข้อผิดพลาด จึงเป็นทั้งคนที่เพื่อนร่วมงานเกรงกลัวและไม่ชอบหน้าไปพร้อม ๆ กัน แต่เธอก็ No สน No แคร์ ต่อความรู้สึกของใคร เพราะเชื่อว่าสิ่งที่คิดและสิ่งที่ทำถูกต้องเสมอ

"อี๋เหม่ยลี่" เพื่อนสนิทของ “หนานเซี่ยงหว่าน” ที่เรียนชั้นมัธยมปลายมาด้วยกัน ปัจจุบันเป็นนักเขียน ได้แต่งนิยายโดยมีพล็อตเรื่องหลักมาจาก “หนานเซี่ยงหว่าน” เพราะเธอเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ เมื่อพ็อคเก็ตบุ๊คเรื่อง "อย่ามารบกวนการเรียนของฉัน" วางตลาด จึงได้นำมาให้ “หนานเซี่ยงหว่าน” เป็นคนแรก และได้ชวนไปงานเลี้ยงรุ่น ในฐานะตัวแทนของเพื่อน ๆ ที่บอกให้ช่วยมาบอกเธอด้วย เพราะเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าพูดกับ “หนานเซี่ยงหว่าน” สักคน เพราะเกรงใจ^^

หลังจากกลับมาถึงบ้าน กลับมาจากทำงานที่เหนื่อยล้า “หนานเซี่ยงหว่าน” ได้หยิบนิยายมาอ่านแล้วเผลอหลับไป เมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับพบว่าเธออยู่ในห้องสอบเพื่อแยกห้องเรียน ที่โรงเรียนเซี่ยวหลี่ที่เธอจบมา ในปี 2011 ซึ่งเป็น 10 ปีในอดีตของชีวิตเธอ ท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาทำข้อสอบ เพื่อหนีจากการเป็นนักเรียนห้อง 6/7 ซึ่งเป็นห้องบ๊วย “หนานเซี่ยงหว่าน”  คิดว่าเธอฝันไป จึงวางตัวเป็น “ประธานหนาน” เหมือนที่ทำงาน และมองทุกคนเป็นเด็กน้อยที่อ่อนกว่าเธอ 10 ปี เธอจึงกลายเป็นตัวตลกของเพื่อน ๆ รวมทั้ง “หลิวเซียวหรัน” (ไลควานลิน) นักกีฬาบาสเก็ตบอลสุดหล่อ ขวัญใจสาว ๆ ซึ่งเป็นหัวโจกของโรงเรียน

“หนานเซี่ยงหว่าน” พยายามตั้งสติถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ จนมั่นใจแล้วว่าเธอกลับมาในอดีตจริง ๆ จึงพยายามหาวิธีที่จะกลับไปสู่ปัจจุบันให้ได้ แต่เมื่อยังทำไม่ได้จึงคิดว่าการที่ได้กลับมาในอดีตก็อาจจะเป็นเพราะตัวเองจะได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งเธอก็จำได้ดีว่าความผิดพลาดในอดีตของเธอ ก็คือการที่เธอไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยก้วนฮั๋วทีมีชื่อเสียงอย่างที่ต้องการได้ ทำให้ชีวิตเธอต้องใช้ความพยายามมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น กว่าที่จะประสบความสำเร็จได้งานที่ดี เธอจึงตัดสินใจที่จะแก้ไขอดีตด้วยการตั้งหน้าตั้งตาเรียน เพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

“ประธานหนาน” ถูกเพื่อน ๆ มองด้วยสายตาที่แปลก ๆ อยู่เรื่อย ๆ เพราะเธอเข้าใจว่าเมื่อย้อนกลับมาในอดีต ทุกอย่างก็จะต้องดำเนินไปแบบเดิม ๆ แค่เธอตั้งใจเรียนมากขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนอนาคตได้แล้ว แต่เธอคิดผิด เพราะการกลับมาครั้งนี้เธอไม่ได้เรียนห้องเด็ก 6/2 ซึ่งเป็นห้องเด็กเรียนเก่ง แต่เธอได้มาอยู่ห้อง 6/7 ร่วมกับ "หลิวเซียวหรัน” และเพื่อน ๆ ที่ไม่เอาไหนในการเรียน บางคนห่วงแต่จะฝึกร้องเพลง บางคนห่วงแต่จะวาดรูป และเพื่อน ๆ ในห้องส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบหน้าเธอ เพราะเธอมักขัดมติห้องที่ "หลิวเซียวหรัน” เป็นคนนำทีม และเธอก็ยังเป็นสาเหตุให้ "เจิงเจี้ยนเฟย" เพื่อนสนิทของ "หลิวเซียวหรัน" ถูกพักการเรียนและอาจจะถูกไล่ออก โดยที่ “หนานเซี่ยงหว่าน”  ก็ No สน No แคร์ เพราะ "เจิงเจี้ยนเฟย" ทำความผิดจริง ๆ ซึ่งเธอก็พร้อมที่จะต่อกรกับเหล่าเด็กน้อยทั้งหลาย ในความรู้สึกของหญิงสาววัย 28 ปี ที่ไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น แต่ขณะเดียวกันก็หวั่นไหวในใจกับ "หลิวเซียวหรัน” มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแม้ "หลิวเซียวหรัน” จะวางตัวเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของเธอ แต่ทุกครั้งที่เธอมีปัญหาต้องการความช่วยเหลือก็จะเห็น "หลิวเซียวหรัน” เป็นคนแรกเสมอ เช่นเดียวกับ "หลิวเซียวหรัน” ที่เมื่อมีปัญหาอะไรต้องแก้ไข “หนานเซี่ยงหว่าน” ก็พูดอย่างมีเหตุผลให้เขาคิดได้ แก้ปัญหาได้เสมอ

“Don't Disturb My Study” เป็นซีรีส์แนวมัธยม เราจึงได้เห็นเหล่านักเรียนวัยใสมาร่วมสร้างสีสันมากมาย และสำหรับพระเอก นางเอก “ไลควานลิน”  และ “หลี่หลานตี๋” ที่แสดงคู่กันได้อย่างน่ารัก ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนเชื่อว่าความรักที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้ เริ่มมาจากคู่นี้นั่นเอง แฟน ๆที่ติดตามผลงานมา รู้จักคู่นี้กันดีอยู่แล้ว เพราะมีผลงานในวงการบันเทิงที่โดดเด่นทั้งคู่ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่เพิ่งมาติดตามกัน มาทำความรู้จักทั้งคู่กันค่ะ

"ไลควานลิน" หนุ่มน้อยวัย 20 ปี ชาวไต้หวัน เป็นเด็กฝึกค่าย Cube Entertainment ได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ PRODUCE 101 Season 2 ปี 2017 ที่ประเทศเกาหลี เป็นหนุ่มน้อยวัยน่ารัก อายุเพียงแค่ 15-16 ปี ที่มีแฟน ๆ ติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เปิดตัวเป็นผู้เข้าแข่งขันกันเลยทีเดียว ภาพหนุ่มน้อยในชุดส้ม มีคาแร็คเตอร์และความหล่อที่โดดเด่นชัดเจน ภาพแรกที่จดจำกันได้ในรายการคือคลิปแนะนำตัว ที่ลากเก้าอี้มานั่ง แร็ป แนะนำตัวเองด้วยความมั่นใจ รวมทั้ง เสน่ห์จากการร้อง เต้น แร็ป เรียกว่าครบเครื่องในเรื่องความสามารถ เขาจึงได้เดบิวต์เป็นสมาชิกวง WANNA ONE  เป็นมักเน่น้อยของวง ตำแหน่งแร็ปเปอร์ และภาพลักษณ์ของวง

https://www.youtube.com/watch?v=PXRK3nD2Za8&t=9s

PRODUCE 101 season2

หลังจากหมดสัญญาปลายปี 2018 สมาชิกวง WANNA ONE ได้แยกย้ายทำงานตามความถนัด "ไลควานลิน" ได้พัฒนาความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ จากงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะจากการถ่ายโฆษณา เป็นนายแบบ ร้องเพลง และที่โดดเด่นมากคืองานแสดงที่ประเทศจีน ผลงานการแสดงเรื่องแรกคือ ซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมอดี้ "A Little Thing Called First Love" เวอร์ชั่นจีน ที่รีเมคจากภาพยนตร์ไทย "สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก" ออกอากาศปลายปี 2019 รับบทเป็น "เหลียงโย่วเหนียน" หนุ่มหล่อของโรงเรียนที่เป็นขวัญใจของรุ่นน้อง โดยเฉพาะ "เซี่ยเหมียวเหมียว" (จ้าวจินม่าย) ลูกเป็นขี้เหร่ในสายตาของทุกคน ที่คลั่งรักรุ่นพี่คนนี้มาก ๆ เป็นบทเดียวกับที่ "มาริโอ้ เมาเร่อ" กับ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เคยสร้างความประทับใจในเวอร์ชั่นไทยมาแล้ว และในเวอร์ชั่นจีน ก็เป็น 1 ใน 50 ซีรีส์ที่มียอดวิวสูง ด้วยยอดวิวกว่า 2,000 ล้านวิว ในปี 2019 "ไลควานลิน" จึงได้รับความรักจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม

"หลี่หลานตี๋" วัย 21 ปี เข้าวงการเป็นนักแสดงเด็กมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จากภาพยนตร์ "Aini Shugeleshui" เรียนทางด้านการแสดงจาก Central Academy of Drama จากปักกิ่ง มีผลงานเป็นที่รู้จักมากมายทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่ได้รับการยอมรับในฝีมือการแสดง และเติบโตขึ้นมาเป็นสาวสวย หน้าหวาน ๆ ตาคมกลมโต ยิ้มน่ารัก ๆ จึงทำให้เธอกลายเป็นนางเอกในเวลาต่อมา ผลงานที่โดดเด่น อาทิ ปี 2016 ซีรีส์แนวครอบครัว "Chinese Style Relationship" เป็นซีรีส์ที่ทำให้ "หลี่หลานตี๋" ได้รับความสนใจมากขึ้น

ปี 2017 "หลี่หลานตี่" ได้รับบทนำเป็นครั้งแรกจากซีรีส์  All About Secrets ผลงานต่อมาในปีเดียวกันคือ Wu Xin The Monster Killer 2 (อู๋ซิน จอมขมังเวทย์) , My Huckleberry Friends ที่ทำให้ได้รับรางวัล iQiyi Screaming Night Drama Newcomer Awardปี 2018 ผลงานเรื่อง Never Gone แม้จะไม่ได้บทนำแต่ฝีมือการแสดงก็ทำให้ถูกพูดถึงอย่างมากมาย และในปี 2018 ซีรีส์ย้อนยุคสมัยราชวงค์ชิง "Dreaming Back to the Qing Dynasty" (ฝันคืนสู่ต้าชิง) รับบทนำคู่กับ "หวางอันอวี่" ที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม และ “Don't Disturb My Study” เป็นอีกผลงานที่ทำให้แฟน ๆ รัก"หลี่หลานตี่" มากขึ้น ๆ

“Don't Disturb My Study” เป็นซีรีส์ที่ผู้เขียนเชื่อว่า หากผู้อ่านเลยวัยมัธยมมาแล้ว ก็คงจะกลับไปคิดถึงช่วงเวลานั้น คิดถึงโรงเรียน คิดถึงเพื่อน ๆ คุณครู และสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่าถ้ายังอยู่ในวัยมัธยม ก็อาจจะคิดเปรียบเทียบเรื่องราวในซีรีส์กับความเป็นจริงในชีวิตตัวเองว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และอาจจะกลับมาทบทวนเส้นทางของตัวเองว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไรดี

"ไลควานลิน" และ "หลี่หลานตี่" รวมถึงนักแสดงทั้งหมดสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าติดตาม และซีรีส์ก็เล่าถึงเรื่องราวในวัยมัธยมในปี 2010 ได้อย่างน่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการศึกษา ที่มีการแข่งขันกันอย่างหนัก เพราะนักเรียนชั้นม.6 ต่างก็มีจุดมุ่งหมาย และความฝันต่าง ๆ กันไป ซึ่งจุดเริ่มต้นก็คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ถึงแม้จะมีความกดดัน แต่มิตรภาพและความรักน่ารัก ๆ ระหว่างกัน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกวัน ทุกเวลามีความหมายต่อชีวิต ช่วงเวลานั้น โปรแกรมที่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารคือ "QQ" หลาย ๆ คนอาจจะลืมไปแล้ว หรือไม่ก็อาจจะไม่รู้จักกันแล้วในยุคนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจในวันวาน

ในวัยมัธยมปลาย เป็นช่วงที่วัยรุ่นมักรู้ใจตัวเองว่าอยากจะเรียนอะไร อยากทำงานอะไร และมุ่งสู่ความฝันนั้น แม้บางครั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย มีแรงกดดันจากครอบครัว และมีเรื่องราวให้ตัดสินใจมากมายอย่างไม่รู้ตัว อาทิ ...

“หนานเซี่ยงหว่าน” ผู้มาจากปี 2021 ที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนลืมมองความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน

"หลิวเซียวหรัน” หนุ่มมั่นในความหล่อ สนุกกับการเล่นบาส จนลืมไปว่าความฝันของตัวเองคือ การเป็นนักบิน

"อวี๋เหม่ยลี่" อยากเป็นนักเขียน แต่ไม่มั่นใจที่จะทำความฝันให้เป็นจริง

"เจินเจี้ยนเฟย" ที่เชื่อว่าทางที่จะเดินไปสู่อนาคต ไม่ได้มีแค่การเรียนมหาวิทยาลัย

"เฉินซืออวิ้น" ผู้ไม่มั่นใจในตัวเอง แม้จะเรียนเก่ง

"หลิงอี๋ไป" ที่มีความฝันอยากเดินตามเส้นทางของตัวเอง แต่ไม่ใช่ทางที่ครอบครัวต้องการ

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าบางครั้งการตัดสินใจคนเดียวก็ลำบาก แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนก็สามารถเป็นกำลังใจให้กัน มีคุณครูที่สามารถให้คำปรึกษา หรือการหันหน้ากลับมาคุยกับผู้ปกครองอย่างตรงตรงไปตรงมา หรือแม้แต่การพยายามให้เห็นว่าในสิ่งที่ตนเองเลือกคือสิ่งที่ดีที่สุด หรือสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้ดีกว่าจริง ๆ คือทางออกที่สำคัญ เพียงแค่รู้จักจะเปิดใจรับฟัง ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เช่น "เจินเจี้ยนเฟย" ที่เชื่อว่าทางที่จะเดินไปสู่อนาคต ไม่ได้มีแค่การเรียนมหาวิทยาลัย แต่เมื่อมีโอกาสจะเรียนต่อ เขาก็รู้ว่าการเรียนมหาวิทยาลัย ก็คือสิ่งที่ทำให้เขามีทางเลือกในอนาคตที่หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน

ฉากหลังจากซีรีส์ "Don't Disturb My Study" ส่วนใหญ่คือโรงเรียนมัธยมเซี่ยวหลี่ มีทั้งห้องเรียน ห้องพักครู โรงอาหาร สนามกีฬา ถ่ายแต่ละฉากออกมาได้อย่างสวยงาม ได้บรรยากาศโรงเรียนน่าเรียนจริง ๆ ฉากที่เราชอบ เป็นหลาย ๆ ฉากในเรื่องนี้คือการที่เด็กนักเรียนขี่จักรยานไปโรงเรียน เป็นภาพสบาย ๆ ตา และเป็นฉากที่เรียกว่าเชื่อมความสัมพันธ์น่ารัก ๆ ของ “หนานเซี่ยงหว่าน” และ "หลิวเซียวหรัน” ให้พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ซีรีส์ที่ีเป็นบรรยากาศการเรียนการสอนส่วนใหญ่ มีการเดินเรื่องเป็นแบบไปเรื่อย ๆ แต่กลับไม่มีอะไรน่าเบื่อเลย และหลาย ๆ ฉากที่มีความน่ารัก ๆ แอบ ๆ รัก แอบ ๆ ชอบแบบรักแรกของ "หลิวเซียวหรัน” ที่มีต่อ “หนานเซี่ยงหว่าน” ก็เป็นส่วนหนึ่งของความน่ารักที่ทำให้แอบยิ้มตามได้

ซีรีส์ "Don't Disturb My Study" เป็นซีรีส์ที่ขอแนะนำเลยค่ะว่าไม่ควรพลาด เป็นซีรีส์ที่เหมือนจะไม่ซับซ้อนเหมือนจะคาดเดาได้ แต่เชื่อว่าดูแล้วท้ายที่สุดจะไม่รู้สึกอย่างนั้น เพราะความสนุกเกินคาดเดาจะตามมาอย่างไม่รู้ตัว จากที่เคยรักและประทับใจ “ไลควานลิน”  และ “หลี่หลานตี๋” กันมาแล้ว ความรักจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน รวมถึงนักแสดงทุกคนในเรื่องด้วยค่ะ สามารถติดตามชมกันได้ทาง True ID ผ่านแพ็กเกจทรูไอดี พลัส ทั้งแบบซับไทย และ พากย์ไทย นะคะ เรื่องนี้ผู้เขียนเองก็ดูซ้ำอย่างแน่นอนค่ะ :)