โหดสังหารหมู่! "ชาวหมู่เกาะแฟโร" เมินเสียงต้าน ล่าโลมา-วาฬเพชฌฆาตนับพันตัว ประเพณี 400 ปี
สื่อต่างประเทศอย่าง เอพี รายงานว่า ชาวหมู่เกาะแฟโร ทางแอตแลนติกเหนือ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง หลังจากเริ่มประเพณีฆ่าหมู่โลมา สัตว์ที่เป็นมิตรกับมนุษย์ไปถึง 1,428 ตัวช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการต้อนฝูงโลมาให้เข้ามาน้ำตื้นเพื่อฆ่าเอาเนื้อและชั้นไขมันของมัน ขณะที่ทะเลกลายเป็นสีเลือด การล่าโลมาดังกล่าว ไม่ใช่การล่าเพื่อการพาณิชย์ ทั้งยังได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายสำหรับหมู่เกาะแฟโร เขตปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก ชาวบ้านอ้างว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดมานาน 4 ศตวรรษ แม้จะมีประชาชนบนเกาะจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย นอกเหนือไปจากนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Sea Shepherd Conservation Society ที่รณรงค์ต่อต้านมานาน ชาวหมู่เกาะแฟโรจะฆ่าโลมาและวาฬมากกว่า 1,000 ตัว โดยมีสถิติบันทีกไว้ และปีก่อน มีโลมาคาดขาว หรือ white-sided dolphin เพียง 35 ตัว
โอลิเวอร์ ซีอูร์ดาร์เบิร์ก ประธานสมาคมล่าวาฬนำร่องแฟโร กล่าวว่า ตนเองกลัวว่า การฆ่าหมู่ปลาดังกล่าวจะไปฟื้นการโต้เถียงที่โจมตีและส่งภาพลบให้กับประเพณีเก่าแก่ ของหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะ 18 แห่ง ตั้งแต่อยู่ระหว่างสกอตแลนด์ และไอซ์แลนด์ “เราต้องเตือนตนเองว่า เราไม่ได้อยู่ลำพังบนโลก ขณะเดียวกันก็ต้องทราบว่า โลกเล็กลงเรื่อยๆ ทุกคนต่างเดินไปได้เรื่อยๆ โดยมีกล้องมือถือใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ และพร้อมจะทำให้เราดูแย่ทุกครั้งที่มีการจับวาฬนำร่อง” นายซีอูร์ดาร์เบิร์กกล่าวด้านนายเจค็อบ เวสเตอร์การ์ด รมว.ประมงหมู่เกาะแฟโร กล่าวกับวิทยุท่องเที่ยวถิ่น ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามหนังสือล่าโลมา ทุกปี ชาวเกาะจะไปต้อนปลาใหญ่เข้ามายังตรงพื้นที่น้ำตื้น จากนั้นจะแทงให้ตาย ส่วนใหญ่เป็นวาฬนำร่องที่ขาวบ้านเอาเนื้อไปทำอาหาร


