วิกฤตม.นครพนม!! พนง.ถูกลอยเเพนับร้อย ซ้ำบุคลากรไม่ได้รับเงินเดือน วอนผู้บริหารระดับสูงเเสดงความรับผิดชอบ!
ความล่าช้าและไร้ความสามารถของคณะบุคคลฯและผู้บริหารฯมหาวิทยาลัยนครพนม
มหาวิทยาลัยนครพนมเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมด้านปัจจัยหลายๆด้านที่พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นประตูสู่ลาว เวียดนาม จีนและประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย มหาวิทยาลัยนครพนมมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมากมาย ทั้งด้านวิศวกรรม ช่างฯ เทคโนโลยี การท่องเที่ยวฯ วัฒนธรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่วิบากกรรมของมหาวิทยาลัยนั้นนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจากความไม่เข้าใจกันของบุคลากรภายในที่มีความเป็นอัตตาสูงและกลุ่มก้อนในระบบการเงิน ทุจริตจัดซื้อจัดจ้างเป็นระบบท่อน้ำเลี้ยงกันเป็นระบบ ซึ่งเป็นกลุ่มที่คอยกัดกร่อนมหาวิทยาลัยมาตลอดโดยที่มิได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด เลี้ยงไข้ให้จบไปวันๆเพื่อให้ผู้บริหารได้มีโอกาสเล่นเก้าอี้ดนตรี
ล่าสุดฝ่ายบริหารฯก็ดำเนินการเลิกจ้างพนักงานจำนวนเกือบร้อยชีวิตที่ไม่ได้รับการต่อสัญญา /วิทยาลัยการบินนานาชาติไม่ได้รับเงินเดือนมาเป็นเวลา 7 เดือน /โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยฯไม่ได้รับเงินเดือนมาเป็นเวลา 2 เดือน โดยมีคำกล่าวจากผู้บริหารฯคนหนึ่งว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” /แต่งตั้งรักษาการคณบดีวิทยาลัยการบินโดยมิชอบ
/ออกกฎระเบียบข้อบังคับในการสรรหาตำแหน่งผู้บริหารฯ กรรมการฯต่าง ๆ โดยออกแบบมาเพื่อคนกลุ่มเดียว และทุจริตในการออกแบบการเสนอรายชื่อผู้บริหารฯ รวมถึงขั้นตอนการสรรหา /ล่าสุดมีผลงานการประเมินความโปร่งใสและคุณธรรมซึ่งเป็นการประเมินจากองค์กรภายนอก ได้ระดับ C ผลประเมิน “ไม่ผ่าน”และเป็นลำดับสุดท้ายของกลุ่มอุดมศึกษา โดยการซ้ำเติมของสื่อออนไลน์ที่มีนักข่าวท้องถิ่นรายงานข่าวที่มีความจริงไม่ถึงครึ่งและทำลายมหาวิทยาลัยมาตลอด ความตกต่ำทั้งหมดเป็นผลมาจากความไร้ฝีมือไร้สามารถในการบริหารจัดการของฝ่ายบริหารฯและคณะบุคคลฯที่ดูแลนโยบายและบริหารฯมหาวิทยาลัยมาตลอดปีครึ่ง
กระทรวงอุดมศึกษาฯ มีบุคลากรที่มีมันสมองมากมาย ทั้ง กพอ./ กกอ. และกรรมการอื่นๆอีกมากมาย แต่ใยถึงได้ปล่อยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับมหาวิทยาลัยที่น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี หรือเพียงแค่ใช้คำว่า “ถูกใจ” เข้าว่าเท่านั้น กระทรวงอุดมศึกษาฯควรเข้ามาให้การช่วยเหลือหรือให้คนที่มีความสามารถทางด้านการบริหารฯด้านเศรษฐศาสตร์เข้ามาดูแล มิใช่เอากลุ่มที่มีความคิดเก่าๆเขามาบริหารฯเพียงเพื่ออยู่รอดมีเงินเดือน /เงินประจำตำแหน่ง/ เงินบำนาญ/ เบี้ยประชุม /ค่าน้ำมัน/ สร้าง save zoneให้กลุ่มเดียวกัน ฯลฯ แล้วปล่อยให้บุคลากรอื่น ๆ ลอยแพ ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจและเหตุการณ์บ้านเมืองย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะใช้บุคลากรหรือบุคลากรช่วยกันกอบกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้นและสามารถยืนและเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
ซึ่งความเข้มแข็งไม่ใช่ธรรมมาภิบาลเพียงอย่างเดียว จะต้องมีความชาญฉลาดที่พลิกแพลงใช้กฏระเบียบกฏหมายให้เกิดประโยชน์ที่มิใช่การทุจริต เพราะกฎระเบียบนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกัน ลงโทษและขีดเส้นให้ผู้ปฏิบัติเดินตามเท่านั้นกฎระเบียบส่วนใหญ่มิได้มีขึ้นมาเพื่อแก้ไข ดังนั้น มหาวิทยาลัยนครพนมจึงต้องการผู้บริหารฯ ผู้ควบคุมนโยบายที่เป็นผู้ที่มีความชาญฉลาดพลิกแพลง พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ซึ่งผู้บริหารฯไม่จำเป็นต้องเป็นใคร ณ เวลานี้ต้องทำให้มหาวิทยาลัยนครพนมเดินต่อไปและต้องทำให้ดีขึ้น “แมวจะสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ดี ก็เพียงพอแล้ว”

















