2 ปี ผลงานรัฐบาลที่คนไทยมองข้าม

เข้าสู่ปีที่ 2 ของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ได้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินที่ได้มาจากการเลือกตั้ง ในปี 2562 ในช่วงที่ประเด็นกระแสต่อต้านที่มากมายมหาศาล ทำให้หลายคนมองข้ามประเด็นผลงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ที่มีแต่สื่อหลายสำนักไม่ได้นำเสนอ เพราะกระแสสังคมที่มีการต่อต้านรัฐบาลสูง อาจทำให้สื่อโดนแบน หรือ ประเด็นไม่ได้รับการขยายมากพอ

วันนี้เรามาดูผล งานในตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมามีผลงานที่สำเร็จไปแล้ว และมีผลงานที่กำลังดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยอย่างแท้จริง

1.การลงทุนโครงการเมกะโปรเจก โครงการสำคัญของรัฐบาล คือ โครงการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC) ซึ่งประกอบด้วยโครงการใหญ่มากมาย ทั้งโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือ แหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งได้มีการ ออก พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก ในเดือน พ.ค.61 ที่ผ่านมา รวมถึงการดึง แจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร กลุ่ม บ.อาลีบาบา เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการ สมาร์ท ดิจิทัล ฮับ ในพื้นที่ ECC มูลค่าลงทุนกว่า 11,000 ล้านบาท

สิ่งนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนมหาศาลในการที่จะส่งเสริมธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการจ้างงาน คาดว่าถ้าสำเร็จอาจมีรายได้เข้าประเทศมากกว่า หมื่นล้านล้านบาท

2.มาตรการแก้ไขปัญหาความยากจน รัฐบาล คสช.ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาล เบื้องต้นรัฐบาลได้เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย กว่า 13 ล้านคนและให้การช่วยเหลือทั้งการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กลุ่มคนเหล่านี้

โดยมาตรการดังกล่าวอาจได้เงินไม่มากมายนักแต่สามารถลดค่าใช้จ่ายกับครอบครัวหลายครัวเรือนได้ในระดับนึง นอกจากนี้ยังมีนโยบาย มารดาประชารัฐที่มอบเงินให้เด็กแรกเกิดที่มาในรูปแบบสวัสดิการพื้นฐานสำหรับเด็ก จำนวนหนึ่งแสนบาท ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 15 ปี

3.การเดินหน้าจัดระเบียบสังคม ถือเป็น จุดแข็งของคสช.โดยเดินหน้าจัดระเบียบในหลายพื้นที่โดยเฉพาะการตั้งแผงค้าริมถนน จัดระเบียบรถตู้โดยย้ายไปยังสถานีขนส่งหมอชิต การขึ้นทะเบียนวินจักรยานยนต์ รวมถึงการจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติ ของแรงงานชาวกัมพูชา เมียนมา และลาว ถ้าเราเห็นภาพตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นมาการจัดระเบียบของรัฐบาลที่เห็นได้ชัดอย่างกรณีคลลองโอ่งอ่าง ที่มีการจัดระเบียบให้มีความเรียบร้อยและสวยงามเป็นระเบียบทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ

4. .การทวงคืนผืนป่าจากนายทุน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดินหน้าอย่างแข็งขันและถือเป็นผลงานที่ค่อนข้างเด่นชัดของ รัฐบาล และคสช.โดยสามารถทวงคืนผืนป่าได้จำนวนมาก โดยในปี 59 สามารถทวงคืนผืนป่าจากนายทุนได้ 1.4 แสนไร่และในปี 60 ตั้งเป้าทางคืน 1.07 แสนไร่ และในปี 61 ยังคงเดินหน้าต่อ และล่าสุดเมื่อปลายเดือนกรกฎคมที่ผ่านมา เราได้มรดกโลกเพิ่มอีกแห่งคือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหลังจากต่อสู้และแก้ปัญหาการบุกรุกของชาวบ้านบางกลอยนานกว่า 30 ปี

สี่ข้อนี้คือภาพรวมที่สื่อไทยน้อยสำนักที่นำเสนอเพราะกลัวกระแสต่อต้านรัฐบาลที่ยังระอุอยู่ แต่ภาพรวมสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการพัฒนาและการบริหารประเทศในอนาคต ทางผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตถ้าสถาณการณ์โควิดคลี่คลายการพัฒนาเศรษฐกิจจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากโครงสร้างที่รัฐบาลปัจจุบันวางไว้